Bumper Ads คืออะไร คือรูปแบบการโฆษณาที่มีความยาว 6 วินาที และไม่สามารถกด Skip Ad ได้ บน Youtube ทำไมถึงเป็นรูปแบบที่ผู้ลงโฆษณาคิดว่าคุ้มค่าแก่การโฆษณา เพราะผู้บริโภคที่เข้ามาชมคลิปวิดีโอบน Youtube นั้นส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น-วัยทำงาน ที่ต้องการอะไรที่สั้นเข้าใจง่าย และรวดเร็วไม่อดทนกับอะไรที่ยืดยาวนานจนเกินไปหรือดูแล้วไม่น่าสนใจก็จะกดข้าม จึงทำให้เราได้เห็นไอเดียใหม่ๆในการนำเสนอ ที่จำทำอย่างไรใน 6 วินาทีที่แสนจะสำคัญ ที่จะสามารถดึงดูดหรือให้คนสนใจและจดจำแบรนด์
ทำไมโฆษณาแบบ Bumper ถึงเป็นที่นิยม
เพราะบัมเปอร์เป็นโฆษณาที่ไม่สามารถกด Skip Ad ได้บน Youtube ซึ่งหมายความว่า จะทำให้คนดูนั้นไม่สามารถกดข้ามโฆษณานี้ไปได้ และสามารถสร้าง Brand Awareness ให้กับแบรนด์ได้เพราะโฆษณาโชว์บ่อย และในเรื่องของระยะเวลาก็มีส่วนต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ว่าจะดูหรือไม่ดู ซึ่งบัมเปอร์จะไม่เหมือนกับโฆษณาตัว 30 วินาทีหรือตัว 60 วินาที สามารถกดข้ามได้หลังจาก 5 วินาทีหลังจากที่คลิปวิดีโอเล่น หากผู้บริโภคดูแล้วไม่ก่อให้เกิดความน่าสนใจ ส่วนคลิปวิดีโอที่มีเวลาสั้นไม่กี่วินาที ก็มีผลต่อการตัดสินใจดู เพราะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ และไม่สามารถกดข้ามได้ จึงทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสที่จะรับรู้เกี่ยวกับโฆษณานั้นมีมาก แต่ก็ไม่ใช่รูปแบบวิธีที่ดีที่สุดของรูปแบบการโฆษณา ทุกรูปแบบนั้นมีข้อดีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ Objective ของแต่ละแบรนด์
3 วิธีที่จะช่วยทำให้ Bumper Ads ของคุณมีประสิทธิภาพ
หัวใจสำคัญของการโฆษณาคือการ Target Audience
ถ้าเราสามารถ Target Audience ได้ตรงและเหมาะสม โอกาสที่จะทำให้โฆษณาเราตรงกลุ่มเป้าหมายและประสบความสำเร็จนั้นก็มีมากขึ้น หัวใจหลักของการโฆษณามีอะไรบ้างมาดูกัน
- Interest เลือกตามความชื่นชอบ อาจจะเลือกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการเรา แต่ก็เป็นแค่ความชื่นชอบ ซึ่งไม่ได้แปลว่าเขาชื่นชอบแล้วจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการเสมอไป
- Placement โฆษณาในช่องที่มีคนให้ความสนใจ และมีคนดูจำนวนมาก แต่ก็มีการแข่งขันทางการตลาดที่สูง เพราะมีแต่คนอยากจะลงโฆษณา เพราะโอกาสที่คนจะเห็นวิดีโอนั้นมีมากกว่าช่องที่มีคนดูน้อย ค่าโฆษณาจึงแพงเป็นเรื่องปกติ
- In market audience จะคล้ายๆกับ Interest แต่จะเป็นการโฆษณาแบบเจาะลึกเข้าไปอีก โฆษณาให้กับคนที่ซื้อสินค้าหรือบริการนั้นบ่อยๆ ได้เห็นโฆษณา
แต่ส่วนใหญ่การทำโฆษณาในรูปแบบของวีดิโอนั้น จะเน้นการสร้าง Awareness ให้เห็นคนได้เห็นและได้รู้จักมากกว่า การที่จะเน้นขายสินค้า ขึ้นอยู่กับ Objective แต่ละแบรนด์ว่ามีความต้องการแบบไหน
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
No Comments