แนวโน้มที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ เป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้คุณเกิดความคิดในการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในปี 2018 และเป็นกลยุทธ์ให้กับบริษัทคุณในแซงหน้าขู่แข่งการตลาด
ในขณะที่วิดีโอกำลังกลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นสำหรับหลายๆ บริษัท โดยเฉพาะธุรกิจ Entertainment เพราะจะทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้มากขึ้น ไม่ใช่การตลาดรูปแบบเดิมที่ลูกค้าไม่มีตัวตนอีกต่อไป ลูกค้าต้องการเชื่อมต่อกับคนจริงๆ เพราะสามารถโต้ตอบและสอบถามข้อมูลทีสงสัยได้ และวิดีโอเป็นสื่อเนื้อหาที่มีคนดูมากที่สุด การ Live Streaming Video หรือที่เราคุ้นเคยกันว่า “การไลฟ์สด” จึงเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดผู้ชม
Nick Losq ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายครีเอทิพของ StarBeast กล่าวว่า “วิดีโอเป็นรูปแบบสื่อที่ทำได้ง่ายที่สุดและเป็นสิ่งที่สามารถครอบงำสมาร์ทโฟน และเมื่อธุรกิจเริ่มเพิ่มส่วนประกอบของการทำวีดิโอแบบ "Live" จะช่วยทำให้ธุรกิจสามารถแยกตัวออกจากคู่แข่งได้”
ธุรกิจ Live Streaming Video สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์เชื่อมต่อกับมนุษย์ในรูปแบบเรียลไทม์กับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นสตรีมมิ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ การถ่ายงานการสัมมนางานอีเวนท์ต่างๆ การให้บริการ Q&A การสตรีมความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์ วิดีโอสดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาด การวิจัยของ Livestream พบว่า 80% ของผู้ชมอยากดูการไลฟ์สดจากแบรนด์มากกว่าอ่านบล็อก และอีก 82% ชอบการไลฟ์สดที่แบรนด์โพสต์ลงยัง Social ต่างๆ และ 73% พบว่ารูปแบบ Live Streaming Video ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่า
เป็นแนวคิดที่ส่งเสริม Customer Journey เพื่ออธิบายเส้นทางผู้บริโภคที่มีโอกาสที่จะเป็นลูกค้าของคุณ เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อ เพราะลูกค้าปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจได้ยากถึงความต้องการที่แท้จริง และการทำรีวิวสินค้า หรือ การโฆษณาลงบนโลกออนไลน์ จะทำให้แบรนด์ได้ผ่านตาผู้บริโภค และได้อ่านหรือได้รับรู้ความคิดเห็นของผู้ใช้ แบรนด์ของคุณก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกของพวกเขา เมื่อถึงเวลาที่ผู้บริโภคจะต้องตัดสินใจซื้อ เขาก็จะรู้ถึงคุณสมบัติผลิตภัณฑ์และราคาของคุณ โดยที่ไม่ต้องสอบถามกับพนักงาน ช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจมากขึ้น
Jon Reed นักการตลาด กล่าวว่า "ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "กลุ่มผู้บริโภค " หรือ " เครือข่ายของผู้บริโภค " เพราะ "ผู้บริโภคบางคนไม่ได้คิดจะซื้อ แค่อยากที่จะเรียนรู้ของเรา" และเราไม่ควรกำหนดเป้าเพียงแค่ผู้ที่ซื้อของเราเพียงอย่างเดียว
หลายบริษัทตระหนักว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาสามารถทำได้คือ การให้บริการโดยไม่คำนึงว่าใครจะเป็นลูกค้าหรือไม่เป็นลูกค้า โดยไม่แบ่งแยกจะสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค แล้วคุณจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับพวกเขา
การตลาดส่วนใหญ่มักจะทำการตลาดเพื่อทำยอดขายให้ได้ตามที่ตั้งเป้าหมาย “ขอแค่ขายได้ก็พอ” แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแล้ว โดยที่ไม่ได้คำนึงว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณหรือไม่
บริษัทส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นว่ามีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะเขามุ่งเน้นไปปัญหา และความท้าทายในการที่จะช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหา After-sales service ให้กับลูกค้าเพื่อหา Solution ที่เหมาะสำหรับลูกค้าในการแก้ไขปัญหา แทนการมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ โดยที่ผู้บริโภคอาจจะไม่สนใจ จึงทำให้เรามักจะเจอกับเหตุการณ์ บริโภคซื้อเพราะทดลองใช้หรือเพียงเพราะมันน่าสนใจ แต่ไม่ได้เป็นลูกค้าของเราไปตลอด และการที่เราไม่สามารถมัดใจผู้บริโภคที่เคยซื้อไว้ได้ก็ยิ่งยากต่อการทำธุรกิจ เพราะบริโภคในปัจจุบันมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น
“จะทำให้บริษัทหันมาตระหนักถึงปัญหาของผู้บริโภคมากขึ้น”
องค์กรชั้นนำยอมรับว่า SMEs มีบทบาทอย่างกว้างขวางในองค์กร เนื่องจากเทคโนโลยียังคงถูกพัฒนา และบางอย่างทำให้อุตสาหกรรมต่างๆต้อง Disruption บริษัทและผู้บริโภคต้องพึ่งพา SMEs มากขึ้น เพื่อให้ความรู้และให้คำแนะนำ แม้ว่าบางอย่าง ผู้บริโภคจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทแล้วก็ตาม สิ่งที่จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จคือ
1. มีการฝึกอบรมและให้การสนับสนุน SMEs เพื่อช่วยให้พวกเขานำทางในการขายที่ซับซ้อนมากขึ้น
2. พัฒนาความเชี่ยวชาญในองค์กรการขายของคุณ เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมที่ทำอยู่
และธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของผู้นำที่จะมาบริหารให้เหมาะสม และให้ความสำคัญกับโอกาสที่เหมาะสมในการที่ใช้ทรัพยากร ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด SMEs จะไม่ยอมให้เสียเวลาในการแสวงหาโอกาสที่ไม่ดีและพวกเขาไม่ต้องการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ SMEs ยังถูกใช้ในตำแหน่งคอยเปิดประตูต้อนรับและดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค
หากคุณเคยลงทุน Bitcoin มูลค่า 1,000 เหรียญในปี 2551 คุณจะมีเงินราวกว่า 40,000,000 เหรียญในวันนี้ ด้วยมูลค่าของ Bitcoin สกุลเงิน Digital ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้ Blockchain จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจ และคำว่า Bitcoin ถูกค้นหามากที่สุดเป็นอันดับสองในเว็บไซต์โดยมีการค้นหามากกว่า 400% ในปี 2017 ซึ่งมากกว่าปีก่อนๆ เราเริ่มเข้าใจในวงกว้างและการยอมรับในเทคโนโลยี Blockchain จากการได้เห็นบริษัทไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต่างก็เริ่มปรับตัวแล้ว เช่น
- บริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ เช่น Accenture และ Deloitte กำลังสร้างพื้นที่การปฏิบัติงานแบบ blockchain และพัฒนาพันธมิตรที่สำคัญในพื้นที่
- และเมื่อไม่นานมานี้ IBM ได้ร่วมมือกับ Nestlé, Walmart, Costco และอื่นๆ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยในห่วงโซ่
- นายหน้าบางรายเริ่มยอมรับ Bitcoin ในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
อุปสรรคไม่สามารถเอาชนะได้ในชั่วข้ามคืนเช่นเดียวกับ อินเทอร์เน็ต และ สื่อสังคมออนไลน์ ที่ก็เคยมีอุปสรรคมาก่อนกว่าจะถูกยอมรับในปัจจุบัน Blockchain จะทำให้เกิดธุรกรรมทางดิจิทัลในรูปแบบใหม่ๆ และทำให้ธุรกิจเก่าๆ บางอย่างเกิด Digital Disruption
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Cr.forbes.com