จากที่ทำการตลาดให้กับหลายๆ ธุรกิจ สิ่งที่มักจะเจอ คือ หลายธุรกิจมียอดขายที่ดี บางธุรกิจมียอดขายที่ไม่ดี พอถามเรื่องแผนธุรกิจว่ามีการแผนการตลาดอย่างไร กลับให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้เพราะไม่มีการวางแผนไว้อย่างเป็นรูปร่างที่ชัดเจน แล้วพอถามอีกว่าแล้วจะมีแผนทำอะไรต่อไป หรือว่ามีเป้าหมายอะไรต่อไป ก็ให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้อีก ประมาณว่าถ้ายังมียอดขายที่ดีอยู่ก็คงทำแบบเดิมหรือถ้าไม่ก็คงเลิกทำ การตลาด
ธุรกิจที่ทำ การตลาด โดยที่ไม่มีแผน “มักจะไม่รอด”
เป็นเรื่องที่มักเจออยู่บ่อยๆ กับธุรกิจใหม่ที่บังเอิญทำการตลาดแล้วโชคดีขายดิบขายดี ประหนึ่งว่าประสบความสำเร็จ ทำให้ได้ใจ คิดว่าตัวเองจะต้องลงทุนให้มากกว่าเดิมเพื่อที่จะได้ทำยอดขายให้มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อถึงจุดอิ่มตัวก็จะเริ่มรู้สึกว่า “ตัน” ไม่รู้ตัวเองว่าควรจะทำอะไรต่อไป เพราะไม่มีการวางแผนอะไรไว้เป็นรูปร่างชัดเจน เลยทำให้การจะไปต่อนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นี่แหละที่เป็นจุดทำให้หลายๆ ธุรกิจต้อง “ติดชะงัก” เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการต่อได้ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปลี่ยนความยุ่งยากในการวางแผน การตลาด ให้เป็นเรื่องง่ายๆ
การวางแผนจะทำให้รู้ขั้นตอนและกระบวนการที่ชัดเจน
หลายธุรกิจที่พูดว่าเคยทำแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อถามกลับไปว่าอะไรที่ทำให้คุณไม่สำเร็จ กลับให้คำตอบไม่ได้ สาเหตุที่คุณตอบกันไม่ได้เป็นเพราะคุณไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าสิ่งที่คุณทำนั้นคุณทำนั้น คุณสามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่ามันทำให้คุณสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ถ้าหากคุณมีการวางแผนหรือมีกระบวนการขั้นตอนที่ชัดเจน คุณจะสามารถตอบได้และว่ามันดีหรือไม่ดี ทำให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คุณกำลังทุ่มเทลงแรงไปนั้น มันให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร คุณเดินมาถูกทางหรือเปล่า? ถ้ามันดีแล้วมันมีวิธีไหนอีกมั้ย? ที่มันจะทำให้ดีกว่า หรือถ้ามันไม่ดีมันพอจะมีวิธีอื่นอีกมั้ยที่เอามาแก้แทน
ช่วยทำให้วัดความสำเร็จได้ง่าย
มักจะพากันตกม้าตาย กับคำถามที่ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นมานั้น มาจากช่องทางไหน? หลายธุรกิจไม่รู้ รู้แค่ว่าฉันลงทุนไปเท่านี้ควรได้ผลตอบแทนที่มากกว่าที่ลงทุนไปก็เพียงพอแล้ว แต่คุณไม่รู้เลยว่าขั้นตอนที่จะนำพาผลลัพธ์ที่ได้มานั้น ว่าขั้นตอนไหนที่ทำให้คุณทำให้สำเร็จหรือไม่ กระบวนการไหนที่ส่งผลลัพธ์ที่ดีให้กับคุณ เพราะคุณไม่ขั้นตอนที่ชัดเจนเลยไม่สามารถวัดความสำเร็จของแต่ละขั้นตอนได้ว่าสิ่งที่ทำให้ผลยังไง ลูกค้าเป็นใคร เขาเข้ามาจากขั้นไหน เพื่อที่คุณจะได้คิดแผนที่จะเข้าไปช่วยส่งเสริมตรงจุดนั้นให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เช่น ถ้าคุณบอกว่าคุณลงทุนไป 10 ช่องทาง และภาพรวมที่ออกมามันก็ทำให้คุณไปถึงยอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่คุณไม่รู้ว่า ช่องทางไหนส่งผลให้คุณได้ดีสุด มันอาจจะเป็นเพียง 1 ใน 10 ที่ทำให้คุณไปถึงเป้าที่ตั้งไว้ก็เป็นไปได้ แต่นั่นก็แสดงว่าอีก 9 ช่องทางที่คุณลงทุนไปนั้นเปล่าประโยชน์ เห็นแล้วใช่มั้ยว่าการวางแผนถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะทำให้คุณเห็นชัดว่า คุณมีจุดไหนที่กำลังบกพร่องและจุดไหนที่ effective ดี
"91% ที่ทำการตลาดล้มเหลว เพราะขาดแผนการตลาดที่ดี"
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Aphikiat Techajarupun X Ourgreenfish
2 Comments