หุ่นยนต์ ASIMO ย่อมาจาก Advanced Step in Innovative Mobility หมายถึง นวัตกรรมแห่งการเคลื่อนที่อันล้ำสมัย เป็น หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หรือหุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์ของบริษัทฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2543 พัฒนาโดยทีมวิศวกรเยอรมนี โดยพัฒนาจากหุ่นยนต์ทดลองและหุ่นยนต์ต้นแบบจนทำให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เทคโนโลยี i-WALK ช่วยให้สามารถเดินและวิ่งได้อย่างอิสระเสรี ขึ้นบันไดและเต้นรำได้ มีระบบบันทึกเสียงเพื่อตอบสนองคำสั่งของมนุษย์ สามารถจดจำใบหน้าคู่สนทนาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ASIMOมีขีดความสามารถรอบด้าน และรองรับความต้องการของมนุษย์ในอนาคต
การจดจำและตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว
สามารถตรวจพบวัตถุหรือบุคคลที่อยู่บริเวณด้านหน้า ด้วยกล้องจำนวน 2 ตัวที่ติดตั้งอยู่ภายในศีรษะ เมื่อตรวจพบและล็อกวัตถุแล้ว ถ้าวัตถุหรือบุคคลมีการเคลื่อนไหว กล้องที่ติดตั้งอยู่ภายในจะหันและติดตามโดยตลอด กล้องภายในจะซูมภาพวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวให้เข้ามาใกล้ เซนเซอร์ภายในจะตรวจสอบและประมวลผลการคำนวณ หลังจากกลไกภายในประมวลผลเสร็จสิ้น สามารถกล่าวคำทักทายหรืออวยพรให้แก่บุคคลที่พบเห็น
ประยุกต์ใช้งานหุ่นยนต์ และ AI กับการทำงานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?
ASIMO สามารถรับฟังคำสั่งและตอบสนองต่อผู้ควบคุม
คำสั่งที่ได้รับจะถูกประมวลผลและแสดงออกในด้านของการรับฟังคำสั่ง สามารถสนทนาโต้ตอบและตอบรับคำสั่งให้ปฏิบัติงานจากผู้ควบคุม และสนทนาโต้ตอบอีกครั้งถึงผลของการปฏิบัติงานเมื่อปฏิบัติงานที่ได้รับคำสั่งเสร็จสิ้น สามารถรับฟังคำสั่งให้ปฏิบัติงานได้อย่างแม่นยำ
การรับรู้สภาพแวดล้อมและการหลบเลี่ยงวัตถุ ASIMO
มีความสามารถในการหลบเลี่ยงวัตถุจากการมองเห็น ด้วยกล้องจากดวงตาทั้งสอง สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมที่มีสิ่งของกีดขวาง เซนเซอร์จับวัตถุตรงหน้าจะประมวลผลในการจับล็อกวัตถุทำให้รับรู้ได้ว่า บริเวณด้านหน้ามีสิ่งกีดขวางอยู่
การจดจำลักษณะท่าทางและการตอบสนองต่อสัญญาณ
กล้องและเซนเซอร์ที่ติดตั้งไว้ภายในศีรษะของ ASIMO ทำให้สามารถมองเห็นคู่สนทนาที่อยู่ตรงหน้าได้และสามารถตอบสนองต่อการให้สัญญาณของคู่สนทนาได้
การเคลื่อนไหว ASIMO
สามารถเคลื่อนไหวขาให้เดินบนพื้นเรียบ ขึ้นลงบันได วิ่งเป็นวงกลม เต้นรำตามจังหวะดนตรี กระโดด วิ่งในทางตรงด้วยอัตราเร็วถึง 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเล่นฟุตบอลได้ ส่วนแขนสามารถขยับแขนทั้งสองข้างโบกไปมา ยกไหว้ จับมือ ยกน้ำมาเสิร์ฟ และสามารถใช้ภาษามือได้ ซึ่งการที่ ASIMO สามารถขยับแขนขา นิ้วมือได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะถูกสร้างให้มีข้อต่อคล้ายกับมนุษย์ และมีน้ำหนักที่สมดุล
ระบบเซนเซอร์ ASIMO
มีระบบเซนเซอร์ที่สามารถตรวจสอบวัตถุและวิเคราะห์การเดินของคนล่วงหน้า เพื่อจะสามารถหลีกเลี่ยงการชนและกล่าวทักทายกับคนตรงหน้าได้
การสนทนา ASIMO
สามารถคุยโต้ตอบกับคู่สนทนาอย่างเป็นมิตรด้วยเทคโนโลยีAI นอกจากนี้ ASIMO มีระบบที่ทำให้วิเคราะห์เสียงและจะหันไปหาเมื่อถูกเรียกชื่อ และสามารถจดจำคู่สนทนาได้จากน้ำเสียง และลักษณะหน้าตา
สรุปลำดับเหตุการณ์สำคัญของ ASIMO จากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ถึงแม้ บริษัท ฮอนด้า ประกาศยกเลิกการผลิตหุ่น ASIMO ไปตั้งแต่ปี 2018 ไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่าต้องการมุ่งเน้นพัฒนาหุ่นยนต์เชิงปฎิบัติการมากกว่า แต่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ผ่านมากว่า 18 ปีของ ASIMO มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีหลักของบริษัทซึ่งก็คือระบบขับเคลื่อนต่างๆของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในอนาคต วิศวกรได้นำเทคโนโลยี AI และระบบเซนเซอมาใช้สำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาอุปกรณ์เพื่อฟื้นฟูสำหรับกายภาพบำบัดจากระบบ i-WALK ของ ASIMO อีกด้วย แผนการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของ บริษัทฮอนด้ายังมีต่อไป ไม่ได้หยุดอยู่เพียงระบบขับขี่ แต่จะรวมไปถึง พลังงานและหุ่นยนต์ ในอนาคต นอกจากนี้ในแวดวงหุ่นยนต์ยังมีหุ่นยนต์ที่ได้รับการพัฒนาได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก Boston Dynamics เป็นลำคับต้นๆ แห่งวงการหุ่นยนต์
ที่มา : [1], [2], [3], [4], [5], [6]