<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

เพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ Startup ด้วย MarTech

ธุรกิจ Startup ส่วนใหม่จะเริ่มต้นจากแนวคิดที่นำนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งนำดิจิทัลเข้ามาปรับใช้กับองค์กรอย่างเต็มที่ และต้องมีการอัปเกรดธุรกิจอยู่ตลอดเวลาให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก หากมองในด้านการตลาดนั้น Startup จำเป็นต้องนำ MarTech เข้ามาดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งการเก็บ Database การนำข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดมาวิเคราะห์วางแผน รวมถึงการเชื่อมต่อ MarTech Tools ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับธุรกิจเข้าด้วยกัน วันนี้เราจะมาพูดถึง MarTech ให้เห็นภสพกันชัด ๆ ว่าสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจ Startup ได้อย่างไร


เชื่อว่าส่วนมากทีม Startup ที่ก่อตั้งได้ไม่นานยังไม่คุ้นเคยกับการทำการตลาด ด้วยการทำงานทั้งหมดของการเริ่มต้นธุรกิจจะมีเวลาเพียงเล็กน้อยที่จะคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อที่จะพิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นว่าสามารถประสบความสำเร็จและดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย หากเรารู้ตัวว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ต้องรีบหาเครื่องมือการตลาดเข้ามาช่วย เช่น เครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักการตลาดของ Startup ที่จะใช้ในการวางกลยุทธ์ เช่น CMS บัญชีโซเชียลมีเดีย เป็นต้น ตอนนี้สิ่งที่เราต้องรู้คือวิธีใช้เครื่องมือ MarTech และวิธีการสร้างแคมเปญที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ซึ่งเราอาจเคยเห็นเทคนิคการตลาดที่โดดเด่นของ Startup อื่น ๆ และอาจจะคิดอยู่บ้างว่าตัวเองจะสร้างกลยุทธ์ที่ชนะคู่แข่งได้อย่างไร

 

ทำการตลาดด้วยดิจิทัลโดยมุ่งเน้นไปที่การประหยัดเวลา เร่งประสิทธิภาพการทำงาน และทดแทนการจ้างพนักงานจำนวนมาก

เราจะเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของเรา 50% ภายใน 1 ปี ได้อย่างไร เราจะสร้าง Blog ที่เน้นเนื้อหาส่งเสริมธุรกิจ 10 Blog ภายใน 1 เดือนเพื่ออะไร

วัตถุประสงค์ของเป้าหมายด้าน Digital Marketing คือการตั้งเป้าหมายให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและต้องทำให้คนในทีมรับรู้ความรู้สึกถึงทิศทางและช่วยจัดระเบียบการทำงานให้สอดคล้องกับดิจิทัล การใช้ MarTech นั้นมีความสำคัญสำหรับทุกองค์กร แต่ก็มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Startup ที่ต้องการเติบโตเร็ว

ในการเริ่มต้นธุรกิจส่วนใหญ่พนักงานต้องสวมหมวกหลายใบ หมายถึงพนักงานหนึ่งคนต้องทำหลายหน้าที่ ซึ่งมักเกิดจากข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือการขาดทรัพยากร ยกตัวอย่างเช่น ผู้ก่อตั้งอาจรับผิดชอบด้านกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์และแม้แต่การประชาสัมพันธ์ก็ต้องทำ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีอาจมีส่วนร่วมในการออกแบบเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย หรือมีอะไรให้ทำมากมาย

 

แน่นอนว่าสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ Startup สิ่งสำคัญคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจะดำเนินต่อไปจนถึงขั้นเปิดตัวออกสู่ตลาด

แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่สงสัยว่าองค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งหมดที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจจะเป็นอย่างไร

 

การเริ่มต้นนำแนวคิดกลยุทธ์ที่ผสมผสานกับ MarTech มาเป็นส่วนหนึ่งในแผนธุรกิจสามารถช่วยให้เราทำงานด้วยกำลังคนที่น้อยได้จริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะกระจายเวลาของเราไปกับโครงการริเริ่มต่าง ๆ ซึ่งบางอย่างอาจไม่สำคัญในตอนนั้น ให้มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่จำเป็นก่อนซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการทำงานของเรา และการใช้เครื่องมือการตลาดแบบ MarTech นั้น คือวิธีการทำการตลาดที่ตอบโจทย์ Startup สมัยใหม่อย่างแน่นอน

 

เราจะเริ่มต้นนำ MarTech มาใช้ได้อย่างไร เริ่มต้นจากตรงไหน

 

ยกตัวอย่างเช่น หากเรากำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังคงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและหากลุ่มเป้าหมาย ให้กำหนดเป้าหมายการทำงาน ดังนี้

  • สร้าง Blog ใหม่ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ 10 Blog เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 (กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน)
  • เผยแพร่หน้าเว็บไซต์ใหม่ 2 หน้าเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 (กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน)
  • เลือกช่องทางในการสื่อสารออนไลน์โดยใช้ Digital PR หรือซื้อมีเดียโฆษณา

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน แต่สามารถช่วยยกระดับโปรไฟล์ธุรกิจของเราโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนัก ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือเวลาที่เราทุ่มเทเพื่อธุรกิจของเรา แทนที่จะกระจายความสามารถของเราไปยังโครงการหรือ Project ต่าง ๆ ให้ลองมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่จะสนับสนุนธุรกิจก่อนด้วยการนำ Martech มาประยุกต์ใช้ กุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนคือความสม่ำเสมอ และการมุ่งเน้นการลงมือทำอย่างจริงจัง และตั้งเป้าหมายให้องค์กรเติบโตด้วยเทคโนโลยีจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรในที่สุด

New Marketing Plan MarTech Plan

 

Data Analysis การจัดการข้อมูลโดยละเอียดเพื่อแยกแยะว่าใครคือผู้ซื้อที่แท้จริง

สำหรับธุรกิจ Startup การวิเคราะห์ Market Size คือสิ่งที่สำคัญตั้งแต่แรกเริ่มเลย เพราะธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ Demand หรือความต้องการของการตลาด แรกเริ่มเราอาจจะวิเคราะห์โดยใช้หลักการการตลาดตลาดเท่านั้น เมื่อนำเสนอให้กลุ่มนักลงทุนฟังแล้วและได้รับเงินสนับสนุนมาแล้ว ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำให้เห็นผลลัพธ์การทำตลาดจริง ๆ 

 

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชาญฉลาดและกำหนดทิศทางว่าเรากำลังทำการตลาดเพื่อใครไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปสหรับ Startup หน้าใหม่

 

สำหรับความพยายามด้านการตลาดของ Startup เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ความพยายามเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเรา เริ่มตั้งแต่การหาวิธีการเก็บข้อมูลลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และนำข้อมูลเหล่านั้นมาคัดกรองหากลุ่มผู้คนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของเราจริง ๆ ขั้นตอนเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการเท่านั้น แต่เราสามารถทำได้จริงจากเครื่องมือ CRM Software หรือเครื่องมือ MarTech ที่สามารถช่วยส่งเสริมการบริหารจัดการข้อมูลด้านการตลาด

หลังจากที่เราเข้าใจดีแล้วว่าเราต้องการทำธุรกิจเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับคนกลุ่มไหน เราสามารถรวบรวมข้อมูลที่ระบุรายละเอียดว่ากลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพภาพคือใครได้จากเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการข้อมูล เช่น วิเคราะห์ข้อมูลความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์หรือ Segment กลุ่มความสนใจจากแคมเปญต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ซื้อจะมีประโยชน์กับเราเป็นอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของผู้ซื้อหรือคนที่สนใจผลิตภัณฑ์ช่วยให้เราเข้าใจตัวเลขของความเคลื่อนไหว ความท้าทายทางธุรกิจ และความต้องการของคนที่เราต้องการทำให้เขากลายมาเป็นลูกค้าในอนาคต

 

Startup หน้าใหม่ ต้องรู้เรื่อง Data Analysis เพราะข้อมูลจะทำให้เราตามหาลูกค้าที่แท้จริงได้


ถ้าพูดถึงการทำการตลาดด้วย MarTech ในประเทศไทย การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายด้วย Line Official Account คือทางเลือกที่ดี และการทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มคือวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ได้ผล และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการทำเว็บไซต์ด้วย Blog ที่มีประสิทธิภาพ จบลงด้วยการเชื่อมต่อระบบ CRM เข้ากับเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลมาทำ Personalized Marketing วิธีการทำการตลาดด้วย MarTech เหล่านี้ สามารถศึกษาได้จาก New Marketing Plan ที่จะทำให้เราเข้าใจกระบวนการทำการตลาดสมัยใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ

Digital Marketing Measurement Webinar

สร้างโอกาสในการขายสำหรับ Startup ดาวรุ่งที่อยากแจ้งเกิด

เมื่อพูดถึงการเข้าชมเว็บไซต์เราจะต้องมีแผนที่จะนำพาให้ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้ามาที่เว็บไซต์ของเรา โดยเน้นการทำคอนเทนต์ที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือเป็นเนื้อหาคุณภาพสูงที่ตอบคำถามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ถ้าจะให้ดียิ่งกว่าควรมีทีมงานที่คอยตอบคำถามทางแชทเพื่อดูแลพวกเขาจนถึงจุดที่จะตัดสินใจซื้อ

ยกตัวอย่างวิธีการยอดนิยมคือการมี Blog ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของเราและการรับรู้ถึงแบรนด์ของเรา แต่ละ Blog ควรได้รับการปรับให้เหมาะสมกับ Keyword เนื่องจากจะช่วยเพิ่มการเข้าชมที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ดึงดูดคนที่สนใจในเรื่องเฉพาะด้านหรือสิ่งที่เรากำลังเผยแพร่อยู่บน Blog มายังเว็บไซต์ เป็นวิธีที่ง่ายมากในการเพิ่มชื่อเสียงบนโลกดิจิทัลของ Startup

เนื้อหาที่คุณสร้างบนเว็บไซต์ยังช่วยสร้างโอกาสในการขายและแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเรา ตัวอย่างเช่น เราามารถสร้าง eBook ที่ให้ข้อมูล และให้ดาวน์โหลดที่หน้า Landing Page บนเว็บไซต์ของเรา จากนั้นผู้เยี่ยมชมสามารถดาวน์โหลด eBook ของเราเพื่อแลกกับข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา ด้วยวิธีนี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการกำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ใช้งานระยะแรก ๆ 

 

เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อมีการสร้าง Blog มากขึ้น

เว็บไซต์ของเราจะกลายเป็นที่เก็บข้อมูลชั้นดี และเราก็จะได้กลุ่มคนที่เหมาะสมเข้ามา

 

การกระจายคอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ

ถ้าเราคิดว่าการรอให้ลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์เป็นวิธีที่ที่คิดว่าช้าและไม่ทันการ การทำคอนเทนต์ที่ให้ประโยชน์สูงสุดสําหรับธุรกิจคือการนำเนื้อหาที่คุณสร้างไว้แล้วบนเว็บไซต์ไปเผยแพร่ลงในช่องทางที่ไม่ใช่ใช้วิธีการค้นหาบน Google เช่น ในยุคปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่สามารถเป็นศูนย์ในการจัดการคอนเทนต์ให้เราได้แชร์คอนเทนต์ไปยังสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้ เช่น HubSpot ที่สามารถเชื่อมต่อโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มพร้อมดึงข้อมูลมาวิเคราะห์ และยังส่งคอนเทนต์ผ่านไลน์หรืออีเมลด้วยระบบแบบ Workflow Automation หรือทำ Retargeting กับกลุ่มคนที่เรามีข้อมูลอยู่ในมือระบบ CRM แล้ว และอีกวิธีหนึ่งที่เหมาะกับธุรกิจ Startup หน้าใหม่ คือการลองโพสต์วิดีโอตัวอย่างสั้น ๆ บนโซเชียลมีเดียให้น่าติดตาม และดึงคนเข้าไปดูฉบับเต็มบนเว็บไซต์เราก็จะสามารถเก็บข้อมูลเข้าระบบ CRM ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแผนการตลาดบนโซเชียลมีเดียควรเป็นส่วนหนึ่งของทุกกลยุทธ์การตลาด

ควรพัฒนากลยุทธ์การตลาดโดยคํานึงถึงการกระจายคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

ถ้าเราต้องการความสำเร็จในการทำธุรกิจอย่างรวดเร็วในระหว่างขั้นตอนการวางแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ คำถามคือทำไมเราต้องเสียเวลาและเสียเงิน ไปกับการเหวี่ยงแหจับปลาในวงกว้างที่ไม่ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ เราสามารถฝึกฝนทีมงานให้ที่มีทักษะในการใช้เครื่องมือ MarTech ในการช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงการหาแนวโน้มของความต้องการของตลาดเพื่อสร้างแคมเปญการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นไปที่ผู้คนที่เหมาะสมที่จะเข้ามาใช้ผลิตภัณฑ์ในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม

ถ้าคุณสนใจอยากพัฒนาวิธีการทำการตลาดด้วย Marketing Technology มารู้จักวิธีการทำการตลาดสมัยใหม่ได้ที่ https://ourgreenfish.com/ 

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts