หลังจากที่เราได้เสนอ 10 วิธี(เลือก)ทำการตลาดออนไลน์…ให้ธุรกิจ ecommerce มีแต่โตกับโต (ภาคแรก) กันไปแล้ว สีดาก็จะมาว่ากันต่อกับอีกห้าข้อหลังที่รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กัน
รู้จักใช้ Landing Pages
การที่คุณลิ้งค์โฆษณาไปที่หน้าสินค้าหรือบริการโดยตรงอาจทำให้คนดูเกิดอาการชะงัก และงงว่าจะต้องทำอะไรต่อไปในเว็บไซต์ของคุณ โดยเฉพาะหากนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยเข้ามาที่เว็บไซต์นี้ ดังนั้นหน้า Landing page จึงทำหน้าที่เสมือนหน้าแรกที่ไว้คอยรับหน้าคนที่คลิกโฆษณาเข้ามาดู ว่าพวกเขากำลังจะเข้าไปเจอกับอะไร และต้องทำยังไงต่อไป แทนที่จะนำพวกเขาเข้ามาที่หน้าสินค้าแบบกะทันหันและเสี่ยงที่จะเจอกับ bounce rate
LinkedIn Ads
โซเชี่ยลมีเดียสำหรับ Business to Business (B2B) ที่เรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายสังคมคนทำงานอย่างแท้จริง หากคุณต้องการโฆษณาแบบ B2B คุณไม่ควรมองข้าม LinkedIn และนีี่คือเหตุผลว่าทำไม
- ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆได้อย่างง่ายดาย
- มีประเภทของ ads ให้สร้างได้หลากหลายประเภท
- โฆษณาบน LinkedIn เปิดโอกาสให้คุณได้สนทนากับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญได้มากขึ้น
เลือกสร้าง Ads บน LinkedIn ให้ถูกประเภท
เปลี่ยนความยุ่งยากในการวางแผน การตลาด ให้เป็นเรื่องง่ายๆ
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว สำหรับการสร้างโฆษณาบบน LinkedIn นั้น สิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามคือ ประเภทของโฆษณาที่คุณจะสร้าง บน LinkedIn มีโฆษณาอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทคือ
- Sponsored Content
- Text and Image Ads
Sponsored Content หมายถึง การอัพเดตข้อมูลของบริษัทคุณ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ซึ่งจะปรากฏข้อมูลบนหน้า LinkedIn page ของคุณเองและหน้า feeds ของคนที่คุณมี Connection ด้วย เหมาะสำหรับการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นที่มีระยะเวลาแคมเปญสั้นๆ
Text and Image Ads จะเป็นกาารโฆษณาแบบเต็มรูปแบบที่มีทั้งรูปภาพ หัวเรื่อง และเนื้อหา เป็นประเภทโฆษณาระยะยาว ที่คุณสามารถกำหนดคุณลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย ประเภทของกลุ่มเป้าหมาย และประเภทของธุรกิจได้
สร้างคุณค่าให้กับโฆษณาของคุณ
ไม่ใช่แค่ทำให้โฆษณาของคุณเป็นที่น่าสนใจแต่ต้องทำให้คนดูรู้ว่าเมื่อคลิกโฆษณาของคุณแล้วจะได้อะไร วิธีที่ง่ายที่สุดคือสื่อสารลงไปในโฆษณานั้นว่าหากพวกเขาใช้บริการของคุณจะได้อะไรกลับไป คุณจะแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้อย่างไร
การตัดสินใจ
การทำการตลาดออนไลน์ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีใครบอกคุณได้ว่าวิธีนี้ได้ผลดี หรือวิธีนั้นเป็นวิธีที่ผิด คุณต้องลองผิดลองถูกจนกว่าจะเจอวิธีการที่เหมาะ กการตัดสินใจจึงเป็นส่วนสำคัญ หากคุณตัดสินใจที่จะใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง ก็ควรจะลองใช้จนรู้ว่าวิธีนั้นๆมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เหมาะกับธุรกิจของคคุณหรือไม่
เหมือนกับที่ข้อสุดท้ายได้บอกไว้ การทำการตลาดออนไลน์ไม่มีถูกหรือผิด สิ่งที่คุณต้องทำคือ ทดลองใช้และหาให้เจอว่าวิธีไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ แต่การทดลองก็มาพร้อมค่าใช้จ่าย จึงสมควรที่จะได้อะไรตอบแทนกลับมา ซึ่งสีดารับรองว่าหหากคุณทำตามวิธีการข้างต้น การทดลองของคุณก็จะไม่เสียเปล่า
อ่านบทความเพิ่มเติม : 8 ปัจจัย ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ E-COMMERCE พร้อมยกตัวอย่าง
No Comments