<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

4 วิธียกระดับบริษัท อย่างง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเป็นที่ต้องการของลูกค้า

ไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือใหญ่ต่างก็ขวนขวายหาวิธีที่จะทำให้ได้ใจลูกค้า และนี่คือ 4 วิธียกระดับบริษัท อย่างง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเป็นที่ต้องการของลูกค้า มีอะไรบ้างมาดูกัน

4วิธียกระดับบริษัท

1.ปรับปรุงตัวเองให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดี

การปรับตัวเองให้มีภาพลักษณ์ที่ดูดี ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างแรกเพราะมันคือหน้าตาของบริษัท สิ่งแรกที่ผู้บริโภคจะเข้าถึงเราคือ เว็บไซต์ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของผู้บริโภคว่าจะไปต่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตรงนี้ ถ้าหากหน้าเว็บไซต์ดูดีและเร็ว จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความน่าสนใจ รู้สึกไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และควรเก็บทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าคนสังเกตเห็นจะทำให้เข้าใจว่าเราให้ความใส่ใจในทุกอย่าง เช่น การใช้ G Suite ในการอัพเกรด Gmail ให้สามารถใช้ชื่อของบริษัทได้ เช่น admin@yourcompany.com  หรือ การทำหน้า Landing page ให้เว็บเป็นที่น่าสนใจและยังช่วยเพิ่ม Quality Score ในการค้นหาอีกด้วย

 

Customer

2.รู้จักผู้บริโภคให้มากขึ้น

ขั้นตอนนี้จะเป็นการเจาะลึกข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของคุณอย่างแท้จริง โดยการดูว่าหน้าไหนในเว็บไซต์ของคุณ ถูกเข้ามากที่สุด และเข้ามาทำอะไรบ้าง เข้ามาแล้วออกไปหรือมีการเข้ามาแล้วมีการดูอย่างอื่นเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปรับปรุงหน้าเว็บให้เอื้ออำนวยต่อวัตถุประสงค์ของกลุ่มเป้าหมายเรา และลดโอกาสในการตีกลับ อย่างเช่น เข้ามาจากบทความใน Facebook แล้วมีการดูบทความอื่นต่อแสดงว่า ข้อมูลที่เรามีนั้นได้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ นอกจากนี้ควรเพิ่มช่องทางอื่น เช่น Line และ Twitter เพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นและการเข้าถึงผู้บริโภคให้เขามีจุด Touch point ในแบรนด์เราได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น

 

reband

3.ทำให้แบรนด์ดูน่าสนใจ Rebrand

การสร้างภาพใหม่ ไม่ใช่การเปลี่ยนโลโก้และสีของแบรนด์คุณ แต่เป็นการทำให้แบรนด์คุณมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้น บางครั้งความได้เปรียบทางธุรกิจก็เกิดจากการทำให้รูปลักษณ์และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของแบรนด์ว่ามีชีวิตชีวา จะกลายเป็นสิ่งทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ และถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย คนก็จะสังเกตเห็น ถึงการเปลี่ยนแปลงและทำให้คิดว่าก็ต้องมีอะไรใหม่ๆ มาแน่นอน ช่วยกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นในมนุษย์เรา เช่น Starbucks ที่มีการปรับเปลี่ยนรูป จนเหลือแค่รูปโดยที่ไม่ต้องมีข้อความ แค่เห็นโลโก้ทุกคนก็รู้จักว่าคือแบรนด์อะไร และไม่ว่าจะออกแบบผลิตภัณฑ์อะไรออกมาขอแค่มีโลโก้ของ Starbucks อยู่ก็กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนหวนหา

 

Google Apps

4.หาเครื่องมือช่วยในการผลิต

การที่คุณมีเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะฟรีหรือไม่ฟรี ในการทำงานเกี่ยวกับออนไลน์ ถ้าสามารถดึงศักยภาพของเครื่องมือ ออกมาช่วยเหลือในการทำงานได้มาก ก็จะทำให้แบรนด์ของคุณก้าวได้อย่างถูกจุดและมั่นคงมากขึ้น เพราะในแต่ละเครื่องมือนั้นจะมีข้อมูล Insight ที่บ่งบอกถึงพฤติกรรม ช่องทาง ช่วงเวลาการใช้งานของผู้บริโภค และเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น การทำงานบน Cloud จะช่วยทำให้ประหยัดเวลาและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับไฟล์งาน อาจะใช้โซลูชั่นของ G Suite เพื่อเปลี่ยนวิถีการทำงานใหม่ ทำงานร่วมกันได้อย่าง Real Time โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องลงโปรแกรม Office ก็สามารถใช้ Google Docs, Sheet, Slides แทนได้และหมดปัญหาการเปิดข้ามแพลตฟอร์มอื่นๆ ไม่ว่าคุณจะเปิดจาก Windows  หรือ mac OS ก็ใช้ได้เหมือนกัน และยังสามารถใช้ได้จากทุกที่ทุกเวลา

 

เคล็ด(ไม่)ลับที่ทำให้ ธรุกิจประสบความสำเร็จ ได้อย่างง่ายดาย

สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter

Aphikiat Techajarupun X Ourgreenfish

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts