<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

4 โมเดลธุรกิจ E-commerce เลือกแบบไหนให้ตรงกับเป้าหมายของคุณ

Audio Version
4 โมเดลธุรกิจ E-commerce เลือกแบบไหนให้ตรงกับเป้าหมายของคุณ
4:47
ภาพที่แสดงถึงการเชื่อมต่อของธุรกิจในโลกออนไลน์ผ่าน

ทุกวันนี้ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและสามารถแข่งขันได้ในตลาด แพลตฟอร์ม E-Commerce นั้นเพียงแค่เป็นเครื่องมือในการขายสินค้าและบริการ แต่ยังสามารถกลายเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจนำไปสู่ความสำเร็จของ E-Commerce ที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ และนี่คือ 4 โมเดลหลักของ E-Commerce ที่คุณต้องรู้และเลือกใช้ให้เหมาะสม

4 โมเดลหลักของ E-Commerce

  1. B2B (Business-to-Business) : ธุรกิจขายสินค้าให้ธุรกิจ

shutterstock_2038697945

โมเดล E-Commerce B2B คือธุรกิจที่ขายสินค้า บริการ หรือโซลูชันให้กับธุรกิจอื่น เช่น Alibaba ที่เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับการซื้อขายระหว่างองค์กร

ความสำคัญของโมเดล B2B

  • ธุรกิจสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าในปริมาณมาก

  • เหมาะสำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการสินค้าในราคาส่ง

  • การทำธุรกรรมมีมูลค่าสูงและใช้เวลาในการตัดสินใจ

เหมาะสมสำหรับ

ธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการที่มุ่งเน้นไปยังลูกค้าองค์กร เช่น ผู้ผลิตวัตถุดิบ หรือผู้ให้บริการซอฟต์แวร์องค์กร (SaaS)

>>> ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อกระบวนการซื้อ B2B มีอะไรบ้าง?

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business


  1. B2C (Business-to-Consumer): ธุรกิจขายตรงถึงผู้บริโภค

shutterstock_1910296807

โมเดล E-Commerce B2C คือรูปแบบที่แบรนด์ขายสินค้าโดยตรงให้กับผู้บริโภค เช่น Amazon และ Shopee ที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของธุรกิจ B2C

ความสำคัญของโมเดล B2C

  • ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้รวดเร็ว เพราะกระบวนการไม่ซับซ้อน

  • การสื่อสารการตลาดเน้นไปที่ผู้บริโภคทั่วไป

  • มักเน้นประสบการณ์ลูกค้า เช่น การจัดส่งที่รวดเร็วหรือโปรโมชั่นพิเศษ

เหมาะสมสำหรับ

ธุรกิจที่เน้นขายสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภคทั่วไป เช่น ร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าประจำวันหรือเสื้อผ้า

Customer Feedback Management


  1. C2C (Consumer-to-Consumer) : การซื้อขายระหว่างผู้บริโภค

shutterstock_2138212359

โมเดล C2C คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างกัน เช่น eBay หรือ Etsy

ความสำคัญของโมเดล C2C

  • ช่วยให้ผู้ขายรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น

  • ลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ตลาด เนื่องจากต้นทุนเริ่มต้นต่ำ

  • ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าที่ไม่เหมือนใครหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะ

เหมาะสมสำหรับ

ธุรกิจที่ต้องการเปิดพื้นที่ให้ผู้บริโภคทั่วไปเป็นผู้ขาย เช่น แพลตฟอร์มสำหรับขายสินค้าทำมือหรือสินค้ามือสอง


  1. C2B (Consumer-to-Business) : ผู้บริโภคขายสินค้า/บริการให้ธุรกิจ

shutterstock_1466142731

โมเดล C2B คือรูปแบบที่ผู้บริโภคเสนอบริการหรือขายสินค้าของตนให้กับธุรกิจ เช่น เว็บไซต์ที่ช่วยหางานฟรีแลนซ์อย่าง Upwork หรือ Fiverr

ความสำคัญของโมเดล C2B

  • ธุรกิจสามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือบริการเฉพาะทางได้ง่าย

  • เหมาะสำหรับตลาดที่มีความต้องการบริการเฉพาะบุคคลสูง เช่น การออกแบบกราฟิก การเขียนเนื้อหา หรือการทำวิจัย

เหมาะสมสำหรับ

ธุรกิจที่ต้องการใช้บริการหรือจ้างงานเฉพาะกิจ เช่น การทำโฆษณา การตลาดออนไลน์ หรือการเขียนโปรแกรม


การเลือกโมเดลธุรกิจ E-Commerce ที่เหมาะสม

การเลือกโมเดล E-Commerce ควรพิจารณาจาก

  1. ลักษณะของสินค้าและบริการ: ธุรกิจของคุณเหมาะกับการขายสินค้าให้ผู้บริโภคทั่วไปหรือขายให้กับองค์กร?

  2. กลุ่มเป้าหมาย: ลูกค้าของคุณคือใคร และพวกเขามีพฤติกรรมการซื้อแบบใด?

  3. ทรัพยากรและเป้าหมายทางธุรกิจ: คุณมีงบประมาณและทรัพยากรที่จะพัฒนาโมเดลธุรกิจในทิศทางใด?

การเข้าใจและเลือกใช้โมเดลธุรกิจ E-Commerce ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณคือกุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จในตลาดดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น B2B, B2C, C2C หรือ C2B การวางแผนและเลือกแนวทางที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและทรัพยากรของธุรกิจจะช่วยให้คุณสามารถขยายตลาดและสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงในปัจจุบัน

อ้างอิง : Business Explained. (2024). E-commerce EXPLAINED. Retrieved from [bit.ly/3WnkBBc]

อ่านบทความเพิ่มเติม :

8 ปัจจัย ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ E-COMMERCE พร้อมยกตัวอย่าง

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

Ourgreenfish LINE Connect

OGF Podcast