ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม ธุรกิจการศึกษา เองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) ได้อีกต่อไป แต่สำหรับเจ้าของโรงเรียน สถาบันกวดวิชา หรือมหาวิทยาลัยเอกชน คำถามสำคัญคือ “จะเริ่มยังไงให้ไม่เจ็บตัวและไม่เปลืองงบ?”
Digital Transformation ในภาคการศึกษาไม่ใช่แค่การนำระบบลงทะเบียนออนไลน์หรือเว็บไซต์มาใช้ แต่คือ การสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ให้กับผู้เรียน ตั้งแต่การค้นหาหลักสูตร สมัครเรียน ไปจนถึงการติดตามผลการเรียน หรือรับบริการหลังการเรียนจบ
ตัวอย่างที่เห็นผลชัดเจน เช่น
- สถาบันที่ใช้ระบบ CRM ช่วยติดตามผู้เรียนจาก Inquiry จนถึง Conversion
- มหาวิทยาลัยที่ใช้ CDP เพื่อทำ Personalized Communication กับนักเรียนแต่ละกลุ่ม
- โรงเรียนเอกชนที่ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ปกครอง เพื่อนำเสนอแพ็คเกจเรียนเสริมแบบเฉพาะบุคคล
หลายธุรกิจพลาดเพราะ “ซื้อระบบดี แต่คนไม่ใช้” นั่นคือ Pain Point หลักของการเปลี่ยนระบบ
Digital Adoption Platform (DAP) เช่น WalkMe หรือ Whatfix ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ด้วยการสร้างคู่มือใช้งานอินเตอร์แอคทีฟในหน้าจอจริงแบบ Step-by-step เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายทะเบียน ครู หรือแม้แต่ผู้ปกครอง ใช้ระบบใหม่ได้ โดยไม่ต้องอบรมซ้ำหลายรอบ
ประโยชน์ของ DAP
- ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
- เพิ่มอัตราการยอมรับและใช้งานระบบ
- ลด Human Error ที่เกิดจากการคลิกผิด หรือทำงานซ้ำซ้อน
จากรายงานใน Change Management Strategies Explained ระบุว่า “การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างวัฒนธรรมที่พร้อมเปลี่ยนแปลง” คือหัวใจสำคัญของการ Transformation ที่ยั่งยืน
หลายองค์กรกลัว “จมทุนกับระบบ” เพราะมักเริ่มต้นใหญ่เกินไป วิธีที่แนะนำคือเริ่มแบบ Minimum Viable Tech Stack และค่อย ๆ ขยาย
เริ่มจาก CRM
ใช้เครื่องมืออย่าง HubSpot CRM ที่มีทั้ง Marketing, Sales, และ Service อยู่ในแพลตฟอร์มเดียว พร้อมใช้งานบน Cloud ไม่ต้องติดตั้งระบบใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฟีเจอร์
- Email Automation
- Lead Tracking
- Workflow การจัดการ Inquiry – Enrollment – Retention
HubSpot ยังรองรับ AI-powered Content & Predictive Analytics ที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมนักเรียนและผู้ปกครองล่วงหน้าได้อีกด้วย
ต่อยอดด้วย CDP
เมื่อมีฐานข้อมูลเพียงพอ องค์กรสามารถเพิ่มเครื่องมือ Customer Data Platform (CDP) อย่าง Segment หรือ Treasure Data เพื่อรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง (LINE OA, Website, Facebook Lead, Walk-in) มาไว้ที่เดียว ทำให้
- มองเห็นภาพรวมพฤติกรรมผู้เรียน
- ส่งข้อมูลไปยังระบบโฆษณาหรือ Retarget ได้แม่นยำขึ้น
- วางแผนกลยุทธ์ Retention หรือ Upsell ได้เฉพาะกลุ่ม
หนึ่งในข้อผิดพลาดขององค์กรที่เปลี่ยนระบบแล้วล้มเหลว คือการ “ทำใหญ่ทีเดียว” จนทีมไม่ทันปรับตัว และระบบใหม่ไม่เหมาะกับวิธีทำงานเดิม
แนวคิดที่แนะนำคือ Modular Digital Foundation หรือการวางระบบให้ยืดหยุ่น เสริมทีละส่วน เช่น
- เริ่มจากระบบสอบถามข้อมูล (Inquiry Form)
- เชื่อมต่อกับ CRM
- จากนั้นจึงต่อยอดเป็น CDP หรือ DAP
ข้อดีคือสามารถ Pilot Test ได้ก่อนขยายจริง ลดความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น
หนึ่งในลูกค้าในกลุ่ม ธุรกิจการศึกษา ที่ Ourgreenfish ให้คำปรึกษา เคยมีปัญหา:
- มีผู้เรียนสมัครผ่านหลายช่องทาง แต่ข้อมูลไม่รวมศูนย์
- มีทีมการตลาดแยกจากทีมแนะแนว ทำให้ follow-up ไม่ต่อเนื่อง
หลังจากใช้ HubSpot CRM + LINE CRM Integration + AI Automation ทีมสามารถ
- เพิ่มอัตราการสอบถามหลักสูตรขึ้น 33%
- ลดระยะเวลาการปิดการขายจาก 21 วัน เหลือ 8 วัน
- ได้ฐานข้อมูลนำมาใช้ทำ Retarget และ Loyalty Program ในภายหลัง
หากคุณคือเจ้าของธุรกิจการศึกษา จำไว้ว่าการทำ Digital Transformation ที่ดี ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกอย่างพร้อมกัน สิ่งที่สำคัญคือ
- เริ่มจากระบบที่คนใช้งานง่ายและไม่กลัว
- ลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยให้เปลี่ยนผ่านได้ลื่นไหล เช่น DAP, CRM
- ขยายจากระบบเล็ก ๆ ไปสู่ Platform ขนาดใหญ่เมื่อทีมพร้อม
อ้างอิง
Business Explained. (2023). Change Management Strategies Explained. Retrieved from https://business-explained.com/shop/change-management-strategies-explained/
Business Explained. (2023). Customer Relationship Explained. Retrieved from https://business-explained.com/shop/customer-relationship-explained/
HubSpot. (2025). The State of Marketing 2025 : Data-driven growth tactics and emerging trends to guide marketers into an AI-first business landscape. Retrieved from https://www.hubspot.com/state-of-marketing
อ่านบทความเพิ่มเติม :
เจาะลึก ADKAR Model ปรับตัวอย่างไรในยุค EdTech
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com