InsurTech เป็นการผสมผสานระหว่าง Insurance (การประกันภัย) และ Technology (เทคโนโลยี) เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการบริการประกันภัย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ประวัติของ InsurTech
- เริ่มเกิดขึ้นในปี 2010 โดยเป็นสาขาหรือด้านข้างของ FinTech ที่รวมเทคโนโลยีเข้ากับระบบการเงิน
- ในช่วงการระบาดของ COVID-19 InsurTech ได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ความสำคัญของ InsurTech
InsurTech หรือเทคโนโลยีที่ใช้ในอุตสาหกรรมประกันภัย เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและบริการประกันภัยเพื่อปรับปรุงการให้บริการและประสบการณ์ของลูกค้า การใช้งาน InsurTech มีความสำคัญอย่างยิ่งในหลายๆ ด้าน ดังนี้:
-
การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (Operational Efficiency):
- การใช้เทคโนโลยีช่วยลดเวลาที่ใช้ในการดำเนินกระบวนการต่างๆ เช่น การประเมินความเสี่ยง การคำนวณค่าเบี้ยประกัน และการเคลมประกัน
- การลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและการใช้ทรัพยากรในการบริหารจัดการ ทำให้สามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
-
การปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience Improvement):
- การให้บริการผ่านแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
- การใช้แชทบอท (Chatbot) และ AI ในการตอบคำถามและให้คำปรึกษาทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
-
การเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัย (Transparency and Security):
- การใช้บล็อกเชน (Blockchain) เพื่อเก็บข้อมูลและดำเนินการทำธุรกรรมช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดความเสี่ยงจากการทุจริต
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น
-
การสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ (Innovation and New Product Development):
- การใช้ข้อมูลจาก IoT (Internet of Things) และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Data Analytics) ช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
- การพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น ประกันภัยแบบ on-demand หรือการประกันภัยที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า
-
การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย (Access to Diverse Customer Groups):
- การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลทำให้บริษัทประกันภัยสามารถเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลหรือกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยใช้บริการประกันภัยมาก่อน
- การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ประกันภัยสำหรับผู้สูงอายุหรือประกันภัยสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว
-
การลดต้นทุนและเพิ่มกำไร (Cost Reduction and Profit Increase):
- การใช้เทคโนโลยีในการดำเนินงานช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดการข้อมูล การประมวลผลคำร้อง และการประเมินความเสี่ยง
- การปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานทำให้บริษัทสามารถเพิ่มกำไรได้มากขึ้น
InsurTech ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของบริษัทประกันภัย แต่ยังช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า เพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยในการดำเนินงาน และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการให้บริการประกันภัย ทำให้ InsurTech เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัยในยุคดิจิทัล
วิธีการทำงานของ InsurTech
- InsurTech ใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงกระบวนการประกันภัย ทำให้การซื้อประกันง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น
- ใช้ข้อมูลจริงในการประเมินความเสี่ยงและเสนอราคาประกันที่แข่งขันได้
- ใช้แชทบอทและแอปพลิเคชันเพื่อให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
โมเดลธุรกิจของ InsurTech
- Direct Insurers หรือ Tied Agents: ขายประกันโดยตรงให้กับลูกค้าโดยไม่มีคนกลาง
- Process-Improvement: ปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น Wefox, Rentablo, Getsafe
- Marketplaces/Aggregators: แพลตฟอร์มที่รวมผลิตภัณฑ์ประกันหลายๆ รายการไว้ให้ลูกค้าเปรียบเทียบ เช่น PolicyBazaar, CoverHound, Insurify
- Peer-to-Peer/Cashback: ให้ผู้ใช้รวมเงินกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงร่วมกัน เช่น Friendsurance, Lemonade
- Sales, Marketing, Engagement: ใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงการขาย การตลาด และการมีส่วนร่วม เช่น Zywave, Welltok, KASKO
ประโยชน์ของ InsurTech
- สำหรับผู้บริโภค: ทำให้การซื้อและการเคลมประกันสะดวกขึ้น มีความปลอดภัยสูงขึ้น และมีผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล
- สำหรับผู้ให้บริการประกันภัย: ลดต้นทุนและเวลาในการดำเนินการ เพิ่มความแม่นยำในการประเมินความเสี่ยง และป้องกันการทุจริต
เทรนด์และโอกาสใน InsurTech
- การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML)
- การใช้ข้อมูลจาก IoT เพื่อปรับปรุงการบริการ
- การใช้บล็อกเชนเพื่อความปลอดภัยและการจัดการข้อมูล
- การใช้แพลตฟอร์ม No-code และ Low-code เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัล
InsurTech เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงวิธีการให้บริการประกันภัย ทำให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ให้บริการ
อ่านบทความเพิ่มเติม : สรุป AGRITECH BUSINESS MODELS
No Comments