นี่คือสัญญาณสำคัญว่า การขายกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่มนุษย์ขายเชิงกลยุทธ์ ทำงานร่วมกับ AI ที่ทำงานซ้ำ ๆ ได้เร็วกว่าแม่นกว่า และองค์กรที่เริ่มเร็วกว่าจะได้เปรียบอย่างก้าวกระโดด
HubSpot อธิบายว่า AI กำลังเปลี่ยนทีมขายจากแรงงานที่ต้องทำงานซ้ำ ๆ ไปสู่ “ทีมกลยุทธ์ที่ตัดสินใจเร็วขึ้นจากข้อมูลที่สมบูรณ์กว่า” ทีมนำตลาดรายงานประโยชน์ของ AI ไว้ชัดเจน เช่น
นั่นหมายความว่า AI Sales Agent ไม่ได้แค่ “ช่วยทำงานให้เร็วขึ้น” แต่เป็นตัวเร่งเครื่องที่ทำให้ Pipeline โตขึ้น, AE ตัดสินใจได้ดีขึ้น และ ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่คมชัดกว่าเดิม
1) ค้นหาและจัดลำดับบัญชีเป้าหมายแบบอัตโนมัติ
Henry Schuck (CEO, ZoomInfo) อธิบายว่า AI จะช่วยคัดเลือกบัญชีที่ดีที่สุดจาก Intent Signals จำนวนมหาศาล เช่น การเข้าเว็บไซต์, การเปลี่ยนตำแหน่งในบริษัท, หรือข้อมูล ICP แบบเฉพาะอุตสาหกรรม ทำให้ AE ไม่ต้องเสียเวลาคัดเองทีละบัญชี
ผลลัพธ์: ทีมขายเริ่มวันด้วย “บัญชีที่มีโอกาสปิดสูงที่สุด” แทนการเดาเอง
2) วิเคราะห์ Intent และพยากรณ์ความพร้อมซื้อ
AI จะเชื่อมข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น Social, Email Engagement, Website Behavior และ Conversation Intelligence เพื่อวิเคราะห์ว่า “ลูกค้าคนไหนมีสัญญาณพร้อมคุย” ก่อนที่ AE จะทักไป
นี่คือหัวใจของ AI-powered lead scoring ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์ใหญ่ปี 2026
3) เตรียม Outbound Sequence แบบเฉพาะบุคคล
AI สามารถสร้าง Sequence ที่จัดเนื้อหาให้เหมาะสมกับบทบาท, อุตสาหกรรม และ Pain Point ของแต่ละบัญชีได้ทันที เช่น
ผู้ขายไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์อีกต่อไป
4) จัดลำดับลีดและ Pipeline อัตโนมัติ
HubSpot รายงานว่า 68% ของทีมขายบอกว่าคุณภาพลีดดีขึ้น แต่ปริมาณข้อมูลก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
AI จึงเข้ามาช่วยจัดลำดับว่า
นี่ทำให้ AE ไม่เสียเวลาและ Pipeline เร็วขึ้นอย่างชัดเจน
5) ช่วยติดตามดีลและบริหารขั้นตอนการซื้อ
AI จะคอยแจ้งเตือนว่า
และที่สำคัญ AI สามารถสรุปทุกความคืบหน้าให้ AE ภายในไม่กี่วินาทีผ่าน Conversation Intelligence ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ขายใช้มากที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
จากข้อมูลในรายงาน HubSpot 2025 สามารถสรุปผลลัพธ์ของทีมที่ใช้ AI Sales Agent ได้ชัดเจนดังนี้:
1) ลดงานซ้ำ ๆ ของ AE มากกว่า 50%
AI ทำงานหน้างานแทน SDR จำนวนมาก เช่น Research, Note Taking, Lead Prioritization
2) Pipeline เติบโตเร็วขึ้น
เพราะ AI ช่วยคัดบัญชี + วิเคราะห์ Intent + รัน Sequence ได้เร็วกว่าไม่ใช้หลายเท่า
3) คุณภาพการขายสูงขึ้น
ผู้ซื้อปี 2025–2026 มีข้อมูลมากขึ้น 74% (เพราะ ChatGPT ช่วยรีเสิร์ช) ทำให้ AE ต้องให้ “คุณค่า” มากกว่า “ข้อมูล”—และ AI จะช่วยให้ AE มี Insight ที่ดีกว่ามนุษย์ทำเอง
4) AE โฟกัสงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
การมี “AI ผู้ช่วยส่วนตัว” ให้ AE ไม่ใช่เรื่องกดปุ่มแล้วจบ แต่ต้องมีรากฐานข้อมูลและระบบที่พร้อมรองรับ HubSpot แนะนำชัดเจนว่าองค์กรต้องเตรียมสิ่งต่อไปนี้:
1) ระบบข้อมูลที่เชื่อมกันครบ
AI ต้องการข้อมูลเพื่อทำงาน เช่น
2) CRM ที่มี AI ในตัว
เช่น HubSpot, Salesforce, หรือแพลตฟอร์มที่มี Conversation Intelligence + Lead Scoring อัตโนมัติ
เพราะ AI ต้องทำงานแบบ Real-time กับ Pipeline จริง
3) Workflow อัตโนมัติ
AI ทำงานดีได้เมื่อมี Workflow ที่ทำงานร่วมกัน เช่น
4) นโยบายการใช้ AI
เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับ
HubSpot เตือนว่าองค์กรต้องกำหนด Guideline ก่อนนำ AI ไปใช้จริงกับลูกค้า
มาร์ก โรเบิร์จ ได้เน้นย้ำไว้อย่างชัดเจนว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ยอดขายของพนักงานขายที่ใช้ AI เข้ามาช่วย จะสูงกว่า Sale ที่ทำงานคนเดียวถึง 4 เท่า ทั้งนี้เป็นเพราะมนุษย์จะสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่า (Value-added tasks) ขณะที่ AI จะเข้ามาจัดการงานที่ต้องใช้แรง (Laborious tasks) ให้ทั้งหมด
องค์กรที่เริ่มก่อน → ได้ประโยชน์ก่อน
องค์กรที่เริ่มหลัง → ต้องแข่งกับทีมขายที่มี AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัวแล้ว
นี่คือช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนโฉมฝ่ายขายทั้งหมด
อ้างอิง : HubSpot. (2025). 2025 State of Sales Report. Retrieved from https://blog.hubspot.com/sales/hubspot-sales-strategy-report
อ่านบทความเพิ่มเติม : สร้างกลยุทธ์การขายของคุณอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com