AI Sales Agent อนาคตที่ฝ่ายขายจะมี AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัว

Audio Version
AI Sales Agent อนาคตที่ฝ่ายขายจะมี AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัว
7:38
ในปี 2026 เราไม่ได้แข่งขันกันที่จำนวนพนักงานขายหรือจำนวน Lead อีกต่อไป แต่แข่งขันกันที่ความสามารถในการใช้ AI ให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของ AE หรือที่หลายองค์กรเริ่มเรียกกันว่า AI Sales Agent รายงาน HubSpot State of Sales 2025 ระบุชัดว่า AI ไม่ได้เป็นของเล่นในเชิงทดลองอีกต่อไป แต่ได้ย้ายเข้าสู่ระดับปฏิบัติการจริง โดย 92% ของ Sale ใช้งาน AI อยู่แล้ว และ ZoomInfo คาดการณ์ว่าอนาคต AE ทุกคนจะมี AI SDR Pairing แบบ 1:1 ช่วยทำงานประกบเหมือนผู้ช่วยมือขวา

นี่คือสัญญาณสำคัญว่า การขายกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่มนุษย์ขายเชิงกลยุทธ์ ทำงานร่วมกับ AI ที่ทำงานซ้ำ ๆ ได้เร็วกว่าแม่นกว่า และองค์กรที่เริ่มเร็วกว่าจะได้เปรียบอย่างก้าวกระโดด

ทำไม AI Sales Agent ถึงเป็นจุดเปลี่ยนของฝ่ายขาย

HubSpot อธิบายว่า AI กำลังเปลี่ยนทีมขายจากแรงงานที่ต้องทำงานซ้ำ ๆ ไปสู่ “ทีมกลยุทธ์ที่ตัดสินใจเร็วขึ้นจากข้อมูลที่สมบูรณ์กว่า” ทีมนำตลาดรายงานประโยชน์ของ AI ไว้ชัดเจน เช่น

  • 84% ใช้เพื่อทำให้ Sales Cycle มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • 82% บอกว่า AI ช่วยดึง Insight จากข้อมูลได้ดีกว่า
  • 83% ใช้เพื่อทำ Personalization ได้แม่นยำกว่า
  • 80% ช่วยให้สื่อสารกับลูกค้าได้ชัดเจนขึ้น

นั่นหมายความว่า AI Sales Agent ไม่ได้แค่ “ช่วยทำงานให้เร็วขึ้น” แต่เป็นตัวเร่งเครื่องที่ทำให้ Pipeline โตขึ้น, AE ตัดสินใจได้ดีขึ้น และ ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่คมชัดกว่าเดิม

CTA : AI SALE HUB

5 งานสำคัญที่ AI Sales Agent จะเข้ามาทำแทนมนุษย์ (และทำได้ดีกว่า)

1) ค้นหาและจัดลำดับบัญชีเป้าหมายแบบอัตโนมัติ

Henry Schuck (CEO, ZoomInfo) อธิบายว่า AI จะช่วยคัดเลือกบัญชีที่ดีที่สุดจาก Intent Signals จำนวนมหาศาล เช่น การเข้าเว็บไซต์, การเปลี่ยนตำแหน่งในบริษัท, หรือข้อมูล ICP แบบเฉพาะอุตสาหกรรม ทำให้ AE ไม่ต้องเสียเวลาคัดเองทีละบัญชี

ผลลัพธ์: ทีมขายเริ่มวันด้วย “บัญชีที่มีโอกาสปิดสูงที่สุด” แทนการเดาเอง

2) วิเคราะห์ Intent และพยากรณ์ความพร้อมซื้อ

AI จะเชื่อมข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น Social, Email Engagement, Website Behavior และ Conversation Intelligence เพื่อวิเคราะห์ว่า “ลูกค้าคนไหนมีสัญญาณพร้อมคุย” ก่อนที่ AE จะทักไป
นี่คือหัวใจของ AI-powered lead scoring ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในเทรนด์ใหญ่ปี 2026

3) เตรียม Outbound Sequence แบบเฉพาะบุคคล

AI สามารถสร้าง Sequence ที่จัดเนื้อหาให้เหมาะสมกับบทบาท, อุตสาหกรรม และ Pain Point ของแต่ละบัญชีได้ทันที เช่น

  • Email ชุดแรกเน้นปัญหา
  • Email ถัดไปเป็น Social Proof
  • ตามด้วย Case Study เฉพาะ Segment
  • ปิดท้ายด้วย Video Message แบบ Personal

ผู้ขายไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์อีกต่อไป

4) จัดลำดับลีดและ Pipeline อัตโนมัติ

HubSpot รายงานว่า 68% ของทีมขายบอกว่าคุณภาพลีดดีขึ้น แต่ปริมาณข้อมูลก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
AI จึงเข้ามาช่วยจัดลำดับว่า

  • Lead ไหนต้องคุยตอนนี้
  • Lead ไหนควร Nurture ต่อ
  • Lead ไหนไม่มี FIT ควรตัดออก

นี่ทำให้ AE ไม่เสียเวลาและ Pipeline เร็วขึ้นอย่างชัดเจน

5) ช่วยติดตามดีลและบริหารขั้นตอนการซื้อ

AI จะคอยแจ้งเตือนว่า

  • Deal ใดกำลังเสี่ยงเพราะลูกค้าไม่ตอบ
  • ข้อเสนอใดยังไม่ถูกอ่าน
  • ใครใน Buying Committee ยังไม่ได้ Engage
  • ข้อมูลไหนหายไปใน CRM และต้องเติม

และที่สำคัญ AI สามารถสรุปทุกความคืบหน้าให้ AE ภายในไม่กี่วินาทีผ่าน Conversation Intelligence ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ขายใช้มากที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับทีมขาย

จากข้อมูลในรายงาน HubSpot 2025 สามารถสรุปผลลัพธ์ของทีมที่ใช้ AI Sales Agent ได้ชัดเจนดังนี้:

1) ลดงานซ้ำ ๆ ของ AE มากกว่า 50%

AI ทำงานหน้างานแทน SDR จำนวนมาก เช่น Research, Note Taking, Lead Prioritization

2) Pipeline เติบโตเร็วขึ้น

เพราะ AI ช่วยคัดบัญชี + วิเคราะห์ Intent + รัน Sequence ได้เร็วกว่าไม่ใช้หลายเท่า

3) คุณภาพการขายสูงขึ้น

ผู้ซื้อปี 2025–2026 มีข้อมูลมากขึ้น 74% (เพราะ ChatGPT ช่วยรีเสิร์ช) ทำให้ AE ต้องให้ “คุณค่า” มากกว่า “ข้อมูล”—และ AI จะช่วยให้ AE มี Insight ที่ดีกว่ามนุษย์ทำเอง

4) AE โฟกัสงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

  • เนื่องจากงานที่ต้องใช้ “มนุษย์จริง ๆ” คือ
  • สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ
  • ช่วยเจรจาภายในองค์กรลูกค้า
  • ออกแบบ Solution
  • ปิดดีลอย่างมีมนุษยธรรม
    ซึ่ง AI ทำแทนไม่ได้

shutterstock_2248431549สิ่งที่องค์กรต้องเตรียมก่อนใช้ AI Sales Agent

การมี “AI ผู้ช่วยส่วนตัว” ให้ AE ไม่ใช่เรื่องกดปุ่มแล้วจบ แต่ต้องมีรากฐานข้อมูลและระบบที่พร้อมรองรับ HubSpot แนะนำชัดเจนว่าองค์กรต้องเตรียมสิ่งต่อไปนี้:

1) ระบบข้อมูลที่เชื่อมกันครบ

AI ต้องการข้อมูลเพื่อทำงาน เช่น

  • ประวัติลูกค้า
  • Engagement
  • Touchpoints
  • Deal Stage
    หากข้อมูลกระจัดกระจาย AI จะให้ Insight ผิด

2) CRM ที่มี AI ในตัว

เช่น HubSpot, Salesforce, หรือแพลตฟอร์มที่มี Conversation Intelligence + Lead Scoring อัตโนมัติ
เพราะ AI ต้องทำงานแบบ Real-time กับ Pipeline จริง

3) Workflow อัตโนมัติ

AI ทำงานดีได้เมื่อมี Workflow ที่ทำงานร่วมกัน เช่น

  • Lead Score → Assign AE → ส่ง Sequence อัตโนมัติ
  • ใครเปิด Proposal → Trigger ให้ AE โทรหา
  • Deal เงียบ 7 วัน → ส่ง Reminder

4) นโยบายการใช้ AI

เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับ

  • ความถูกต้องของเนื้อหา
  • ข้อมูลลูกค้า (Data Privacy)
  • จริยธรรมในการใช้ AI
  • ความโปร่งใสในการสื่อสารกับผู้ซื้อ

HubSpot เตือนว่าองค์กรต้องกำหนด Guideline ก่อนนำ AI ไปใช้จริงกับลูกค้า

My CTA (15 July 2024 9:59)

AI จะไม่แทนที่ Sale  แต่จะทำให้ Sale เก่งขึ้นหลายเท่า

มาร์ก โรเบิร์จ ได้เน้นย้ำไว้อย่างชัดเจนว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ยอดขายของพนักงานขายที่ใช้ AI เข้ามาช่วย จะสูงกว่า Sale ที่ทำงานคนเดียวถึง 4 เท่า ทั้งนี้เป็นเพราะมนุษย์จะสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่า (Value-added tasks) ขณะที่ AI จะเข้ามาจัดการงานที่ต้องใช้แรง (Laborious tasks) ให้ทั้งหมด

องค์กรที่เริ่มก่อน → ได้ประโยชน์ก่อน
องค์กรที่เริ่มหลัง → ต้องแข่งกับทีมขายที่มี AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัวแล้ว

นี่คือช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนโฉมฝ่ายขายทั้งหมด

อ้างอิง : HubSpot. (2025). 2025 State of Sales Report. Retrieved from https://blog.hubspot.com/sales/hubspot-sales-strategy-report

อ่านบทความเพิ่มเติม : สร้างกลยุทธ์การขายของคุณอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast