"B2B Customer Journey" เป็นแนวทางที่ให้ภาพรวมเชิงลึกกว่า แสดงให้เห็นถึงเส้นทางที่ไม่เป็นเส้นตรงของลูกค้าองค์กร และเผยให้เห็น Touchpoint สำคัญที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อได้จริง
จาก Funnel สู่ Journey — การเปลี่ยนมุมมองในโลก B2B
ในอดีต โมเดล Sales Funnel ถูกใช้เป็นเครื่องมือหลักของนักการตลาดและฝ่ายขายในการพาลูกค้าจากจุดเริ่มต้นไปสู่การปิดการขาย แต่สำหรับธุรกิจ B2B ยุคใหม่ที่ต้องรับมือกับกระบวนการตัดสินใจที่มีหลาย Stakeholder การแข่งขันที่รุนแรง และช่องทางการขายที่หลากหลายมากขึ้น โมเดลแบบ Linear Funnel อาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป
แม้คำว่า “Customer Journey” จะดูเหมือนเป็นแนวคิดเดียวกัน แต่ในโลก B2B กับ B2C กลับมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
เส้นทางของ B2B Customers ถูกขับเคลื่อนด้วยความไว้วางใจ, ความชัดเจน และข้อมูลที่แม่นยำ มากกว่าการตลาดที่ใช้แรงกระตุ้นเร้าใจเหมือนใน B2C
ในธุรกิจ B2B ลูกค้าสามารถย้อนกลับจากการ "ใกล้จะซื้อ" ไปยัง "พิจารณาใหม่" ได้ตลอดเวลา หากมีข้อมูลใหม่ หรือมี Stakeholder คนใหม่เข้ามา
Funnel มุ่งเน้นที่การ "ดัน" ลูกค้าจากบนลงล่าง ขณะที่ Journey เน้นการเข้าใจมุมมองของลูกค้าในทุกเฟส
B2B Customer Journey ที่ดีต้องรวมถึง Retention, Upsell, และ Advocacy ด้วย
AI เปลี่ยน Customer Insights ให้เป็น Actionable Data
Marketing Automation สร้างการสื่อสารแบบเฉพาะตัว
หนึ่งในความท้าทายของ B2B คือ “ความไม่ต่อเนื่องของประสบการณ์” เมื่อลูกค้าเปลี่ยนช่องทาง เช่น จากเว็บไซต์ → โทรศัพท์ → เซลล์ → อีเมล ซึ่งส่งผลต่อความไว้วางใจอย่างรุนแรง
กลยุทธ์ Omnichannel สำหรับ B2B
HubSpot ใช้การสร้าง Customer Journey Map ที่ระบุพฤติกรรมของลูกค้าตั้งแต่ Awareness → Engagement → Purchase → Advocacy
โมเดล Sales Funnel อาจยังมีประโยชน์ในบางมิติ แต่ในโลก B2B ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและข้อมูล เส้นทางของลูกค้ากลายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเครื่องมือ “Don’t just move people through a funnel. Move with them through their journey.”
อ้างอิง:
อ่านบทความเพิ่มเติม :
พัฒนาการขายแบบ B2B ให้เติบโต ด้วยระบบ CRM ได้อย่างไร
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com