B2B Customer Journey : ทำไม Sales Funnel เดิมๆ ใช้ไม่ได้อีกต่อไป

Audio Version
B2B Customer Journey : ทำไม Sales Funnel เดิมๆ ใช้ไม่ได้อีกต่อไป
5:25

"B2B Customer Journey" เป็นแนวทางที่ให้ภาพรวมเชิงลึกกว่า แสดงให้เห็นถึงเส้นทางที่ไม่เป็นเส้นตรงของลูกค้าองค์กร และเผยให้เห็น Touchpoint สำคัญที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อได้จริง

จาก Funnel สู่ Journey — การเปลี่ยนมุมมองในโลก B2B

ในอดีต โมเดล Sales Funnel ถูกใช้เป็นเครื่องมือหลักของนักการตลาดและฝ่ายขายในการพาลูกค้าจากจุดเริ่มต้นไปสู่การปิดการขาย แต่สำหรับธุรกิจ B2B ยุคใหม่ที่ต้องรับมือกับกระบวนการตัดสินใจที่มีหลาย Stakeholder การแข่งขันที่รุนแรง และช่องทางการขายที่หลากหลายมากขึ้น โมเดลแบบ Linear Funnel อาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป

ความแตกต่างระหว่าง B2B Customer Journey และ B2C

แม้คำว่า “Customer Journey” จะดูเหมือนเป็นแนวคิดเดียวกัน แต่ในโลก B2B กับ B2C กลับมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

  • Cycle ยาวกว่า และซับซ้อนกว่า: การตัดสินใจใน B2B มักใช้เวลา 3–12 เดือน โดยมีหลายฝ่ายเข้ามามีบทบาท เช่น ผู้บริหาร, ฝ่ายจัดซื้อ, ฝ่ายเทคนิค ฯลฯ
  • อิงข้อมูลมากกว่าอารมณ์: ลูกค้า B2B ต้องการข้อมูลเชิงลึก เช่น Case Study, ROI Analysis และการสนับสนุนเชิงเทคนิคมากกว่าความรู้สึกตื่นเต้นชั่วขณะ
  • ความสัมพันธ์ระยะยาวมีความสำคัญ: เป้าหมายไม่ใช่แค่การปิดการขาย แต่คือการสร้าง Partnership ที่ยั่งยืน

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

เส้นทางของ B2B Customers ถูกขับเคลื่อนด้วยความไว้วางใจ, ความชัดเจน และข้อมูลที่แม่นยำ มากกว่าการตลาดที่ใช้แรงกระตุ้นเร้าใจเหมือนใน B2C


B2B Customer Journey : ทำไม Sales Funnel แบบเดิมใช้ไม่ได้อีกต่อไป?

  1. Funnel ไม่สามารถแสดงพฤติกรรมย้อนกลับหรือ Loop ได้

ในธุรกิจ B2B ลูกค้าสามารถย้อนกลับจากการ "ใกล้จะซื้อ" ไปยัง "พิจารณาใหม่" ได้ตลอดเวลา หากมีข้อมูลใหม่ หรือมี Stakeholder คนใหม่เข้ามา

  1. ไม่มีพื้นที่สำหรับการเลี้ยงดูลูกค้า (Nurturing)

Funnel มุ่งเน้นที่การ "ดัน" ลูกค้าจากบนลงล่าง ขณะที่ Journey เน้นการเข้าใจมุมมองของลูกค้าในทุกเฟส

  1. Funnel มักละเลยประสบการณ์หลังการขาย

B2B Customer Journey ที่ดีต้องรวมถึง Retention, Upsell, และ Advocacy ด้วย


B2B Customer Journey : กลยุทธ์ใหม่ ใช้ AI และ Marketing Automation วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

shutterstock_2193099059

AI เปลี่ยน Customer Insights ให้เป็น Actionable Data

  • Behavior Prediction: ใช้ Machine Learning วิเคราะห์การคลิก, การเปิดอีเมล และการเข้าชมหน้าเว็บ เพื่อคาดการณ์ว่า Prospect คนไหนมีโอกาสปิดการขายสูง
  • Dynamic Lead Scoring: ให้คะแนนลีดตามพฤติกรรมแบบ Real-Time แทนที่คะแนนจากข้อมูลพื้นฐาน

Marketing Automation สร้างการสื่อสารแบบเฉพาะตัว

My CTA (15 July 2024 10:05)

  • Personalized Email Flow ตาม Industry หรือ Pain Point

  • Trigger-Based Nurture Campaign: เช่น ถ้า Prospect ดาวน์โหลด Whitepaper เกี่ยวกับ Data Security ก็ส่ง Case Study ที่เกี่ยวข้องต่อทันที

B2B Customer Journey : สร้าง Omnichannel Experience ให้ลูกค้าองค์กร

หนึ่งในความท้าทายของ B2B คือ “ความไม่ต่อเนื่องของประสบการณ์” เมื่อลูกค้าเปลี่ยนช่องทาง เช่น จากเว็บไซต์ → โทรศัพท์ → เซลล์ → อีเมล ซึ่งส่งผลต่อความไว้วางใจอย่างรุนแรง

กลยุทธ์ Omnichannel สำหรับ B2B

  • CRM เชื่อมข้อมูลทุกช่องทาง เช่น HubSpot

  • Unified Content Strategy : เนื้อหาบนเว็บไซต์, พรีเซนต์เซลล์, และอีเมลต้องพูดภาษากลยุทธ์เดียวกัน

  • Live Chat + Human Handoff : ผสาน AI Chat กับเซลล์มืออาชีพเพื่อลด Friction

กรณีศึกษา HubSpot กับการใช้ Customer Journey Mapping เพื่อเพิ่มยอดขาย B2B

HubSpot ใช้การสร้าง Customer Journey Map ที่ระบุพฤติกรรมของลูกค้าตั้งแต่ Awareness → Engagement → Purchase → Advocacy

  • ใช้ AI วิเคราะห์ว่าลูกค้าแต่ละ Persona มี Pain Point ตรงไหน
  • ส่ง Content แบบ Dynamic ตามเฟสของแต่ละบริษัท
  • Result : เพิ่ม Conversion Rate ได้มากกว่า 40% ในกลุ่ม Mid-Funnel

B2B Customer Journey : ยุคใหม่ของ B2B ต้องเข้าใจ “เส้นทาง” ไม่ใช่แค่ “ช่องทาง”

โมเดล Sales Funnel อาจยังมีประโยชน์ในบางมิติ แต่ในโลก B2B ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและข้อมูล เส้นทางของลูกค้ากลายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเครื่องมือ “Don’t just move people through a funnel. Move with them through their journey.”

อ้างอิง:

อ่านบทความเพิ่มเติม :

พัฒนาการขายแบบ B2B ให้เติบโต ด้วยระบบ CRM ได้อย่างไร

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast