ในตลาด B2B ที่การตัดสินใจซื้อมีหลายขั้นตอนและเกี่ยวข้องกับหลาย Stakeholder ธุรกิจไม่สามารถพึ่งพา “ความรู้สึก” หรือ “ไอเดียสร้างสรรค์” เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป การทำการตลาดต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริงแบบ Data-Driven Decision Making เพื่อวัดผลอย่างแม่นยำ และเพิ่ม Marketing ROI อย่างต่อเนื่อง
การวางกลยุทธ์บนพื้นฐานของตัวชี้วัดสำคัญ (KPIs) ไม่เพียงช่วยให้คุณเห็นภาพว่าแคมเปญไหนเวิร์ก แต่ยังช่วยคุณปรับงบประมาณและทรัพยากรไปสู่จุดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด
ค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้า 1 ราย = (งบการตลาด + งบฝ่ายขาย) ÷ จำนวนลูกค้าใหม่
หากคุณไม่สามารถควบคุม CAC ได้ แคมเปญก็อาจมีต้นทุนสูงเกินจริงและไม่ยั่งยืน
มูลค่าตลอดอายุของลูกค้า = (ค่าเฉลี่ยการซื้อ x ความถี่การซื้อ x อายุลูกค้าเฉลี่ย)
CLV จะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณควร “ลงทุนเท่าไร” กับลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้คุ้มค่าระยะยาว
วัดว่าสัดส่วนของผู้เข้าชมที่กลายเป็นลูกค้า (หรือทำ Action ใดที่คุณต้องการ) คือเท่าไร
Return on Marketing Investment = (รายได้จากการตลาด - ต้นทุน) ÷ ต้นทุน
การวัด ROI เป็น KPI ที่ชัดที่สุดในการวัดประสิทธิภาพแคมเปญและช่วยสื่อสารผลลัพธ์ให้กับผู้บริหารหรือฝ่ายบัญชีได้ง่าย
>>> 5 KPI สำคัญที่บอกว่าระบบ MARKETING CRM ของคุณได้ผลจริง
Marketing ROI คือเป้าหมายสูงสุดของทุกแคมเปญในโลก B2B และการวัดผลที่แม่นยำต้องใช้ทั้ง Data-Driven Strategy, KPIs ที่ชัดเจน, และ เทคโนโลยีที่ช่วยให้เห็นภาพรวมแบบ Real-Time
การลงทุนใน Dashboard และ Analytics อาจดูยุ่งยากในช่วงแรก แต่เมื่อคุณสามารถเห็นว่าเงินทุกบาทที่ใช้ในแคมเปญให้ผลตอบแทนอย่างไร ก็จะสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น เพิ่มกำไรได้เร็วขึ้น และสร้างความได้เปรียบที่คู่แข่งตามไม่ทัน
อ้างอิง :
อ่านบทความเพิ่มเติม :
พัฒนาการขายแบบ B2B ให้เติบโต ด้วยระบบ CRM ได้อย่างไร
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com