วิธีเลือก Platform E-commerce ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

Audio Version
วิธีเลือก Platform E-commerce ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
4:18

การเลือก Platform E-commerce ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณสร้างยอดขายและเติบโตได้อย่างมั่นคง แพลตฟอร์มที่เหมาะสมไม่เพียงแค่ช่วยให้การขายออนไลน์เป็นเรื่องง่าย แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และรองรับการเติบโตในอนาคตได้อีกด้วย

ประเภทของ Platform E-commerce : Self-hosted vs Hosted

Self-hosted Platforms เช่น WooCommerce

  • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับแต่งเว็บไซต์อย่างเต็มที่
  • คุณต้องดูแล Hosting, Security และการบำรุงรักษาด้วยตัวเอง
  • ตัวอย่าง WooCommerce, Magento

Hosted Platforms เช่น Shopify

  • เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นง่ายและรวดเร็ว
  • มีบริการครบวงจร เช่น Hosting, Security และระบบชำระเงิน
  • ตัวอย่าง Shopify, BigCommerce

ข้อแตกต่างที่สำคัญ

  • Self-hosted : ต้องการความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค และเหมาะกับการปรับแต่งขั้นสูง
  • Hosted : ใช้งานง่าย มีทีมสนับสนุนช่วยเหลือ แต่ปรับแต่งได้น้อยกว่า

>>> อัปเดต 7 พฤติกรรมผู้บริโภค ในธุรกิจ E-COMMERCE ที่คนทำธุรกิจควรรู้


ปัจจัยสำคัญในการเลือก Platform E-commerce

shutterstock_1659699481

  • Web Hosting : ควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีการโฮสต์แบบเสถียร ปลอดภัย และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เช่น Shopify มีการโฮสต์ในตัวที่มีประสิทธิภาพ
  • SEO-Friendly : แพลตฟอร์มควรมีเครื่องมือและความสามารถในการทำ SEO เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Search Engine  เช่น Magento รองรับ SEO อย่างเต็มรูปแบบ
  • การชำระเงิน (Payment Gateway) : ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มรองรับวิธีชำระเงินที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใช้งาน เช่น QR Code, e-Wallet
  • การจัดการสินค้า (Inventory Management) : แพลตฟอร์มควรมีระบบการจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
  • Mobile Optimization : สำคัญในยุคที่การซื้อขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนมือถือ

>>> ออกแบบประสบการณ์การซื้อ E-COMMERCE ที่น่าประทับใจด้วยข้อมูลจาก CRM


เทคนิคในการเพิ่มความสามารถในสเกลแพลตฟอร์ม

ธุรกิจออนไลน์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น Platform E-commerce ที่ดีควรสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจได้ในอนาคต ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มความสามารถในการสเกลแพลตฟอร์มได้โดย

  • Integrations : เชื่อมต่อแพลตฟอร์มกับแอปพลิเคชัน เช่น ระบบ CRM, การตลาดผ่านอีเมล
  • การรองรับ Multi-Channel Sales : ขายผ่านช่องทางหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, Instagram, และ TikTok
  • การใช้งาน Big Data และ A I: วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล
  • การปรับปรุงระบบคลังสินค้า : ใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับการจัดส่งสินค้า (Fulfillment Automation)My CTA (15 July 2024 10:05)

ตัวเลือกยอดนิยม : Shopify, Magento, WooCommerce

  • Shopify
    ข้อดี: ใช้งานง่าย มีธีมสำเร็จรูป
    ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูง
  • Magento
    ข้อดี: ปรับแต่งได้เต็มที่ รองรับธุรกิจขนาดใหญ่
    ข้อเสีย: ต้องการทีมเทคนิคที่เชี่ยวชาญ
  • WooCommerce
    ข้อดี: ฟรีและเปิดกว้างสำหรับการปรับแต่ง
    ข้อเสีย: ต้องดูแลระบบ Hosting และ Security ด้วยตัวเอง

การเลือก Platform E-commerce ที่เหมาะสมกับธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์ม เพื่อให้ได้แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจมากที่สุด

อ้างอิง : Business Explained. (2024). E-commerce EXPLAINED. Retrieved from [bit.ly/3WnkBBc]

อ่านบทความเพิ่มเติม :

8 ปัจจัย ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ E-COMMERCE พร้อมยกตัวอย่าง

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

 

Recent Posts

OGF Podcast