ปี 2025 ถือเป็นยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกธุรกิจและการตลาดอย่างแท้จริง สถิติชี้ว่าตลาด AI จะมีมูลค่าสูงถึง 190 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 และนักการตลาดกว่า 80% ใช้หรือวางแผนใช้ AI ในกลยุทธ์ของตนแล้ว นั่นหมายความว่าใครที่นำเครื่องมือ AI มาใช้ก่อน ย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน มาดูกันว่ามีเครื่องมือ AI ตัวไหนบ้างที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น CRM, Marketing Automation, Analytics, Content Creation และ Personalization ซึ่งจะช่วยเจ้าของธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดได้อย่างมหาศาล
1) Salesforce Einstein – แพลตฟอร์ม AI สำหรับ CRM อันดับ 1
Salesforce เป็นแพลตฟอร์ม CRM ชั้นนำของโลกที่ผสาน AI “Einstein” เข้ากับระบบเพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและแนะนำการดำเนินการทางธุรกิจอัตโนมัติในขั้นตอนถัดไป (next-best-action) จุดเด่นคือการรวมทุกข้อมูลลูกค้าไว้ในที่เดียว ทำให้การขาย การตลาด และงานบริการเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมระบบ Agentforce (AI Agents) ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อช่วยตอบคำถามและดูแลลูกค้าได้ทันที ประสิทธิภาพของ Salesforce ได้รับการยอมรับระดับโลก
ปี 2024 Salesforce ครองส่วนแบ่งตลาด CRM ถึง ~20.7% และได้รับการจัดอันดับ #1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 12 สะท้อนความนิยมในหมู่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรยักษ์ใหญ่ การใช้ Salesforce Einstein จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพลูกค้าแบบ 360 องศา คาดการณ์โอกาสการขายล่วงหน้า และมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ปิดการขายได้เร็วขึ้นและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าในระยะยาว
2) HubSpot – ระบบการตลาดอัตโนมัติครบวงจรพร้อมผู้ช่วย AI
HubSpot เป็นแพลตฟอร์ม All-in-One ที่รวมทั้ง CRM, การตลาดอัตโนมัติ, การจัดการคอนเทนต์ และการวิเคราะห์ไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยอินเทอร์เฟซใช้ง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจตั้งแต่ SME จนถึงองค์กรขนาดกลาง ขับเคลื่อนด้วย HubSpot AI ที่ช่วยทั้งการเขียนคำโฆษณา แบ่งกลุ่มลูกค้า และปรับแต่งแคมเปญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ภายในปี 2025 HubSpot ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Predictive Engagement Scoring ที่ใช้ AI ทำนายคะแนนความสนใจของลูกค้าและเวลาที่เหมาะสมในการส่งแคมเปญ ส่งผลให้อัตราการตอบรับดีขึ้นถึง 30% นอกจากนี้ HubSpot ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบการตลาดอัตโนมัติที่ครอบคลุมที่สุด ด้วยการผสาน CRM + การตลาด + AI Personalization ในแพลตฟอร์มเดียว เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเครื่องมือเดียวทำได้ครบ ตั้งแต่ดึงดูดลีดใหม่ ดูแลลูกค้าเก่า ไปจนถึงปิดการขายอย่างมีประสิทธิภาพ
3) Google Analytics 4 (GA4) – วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าด้วย AI อัจฉริยะ
GA4 รุ่นใหม่ล่าสุดของกูเกิล แอนะลิติกส์ มาพร้อมความสามารถ AI ในตัว ที่ช่วยเจ้าของธุรกิจเข้าใจลูกค้าเชิงลึกยิ่งขึ้น เครื่องมือนี้จะ วิเคราะห์และทำนายพฤติกรรมผู้ใช้ โดยอัตโนมัติ เช่น ทำนายโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือจะเลิกใช้งาน (churn) พร้อมทั้งแจ้งเตือนเมื่อมีแนวโน้มผิดปกติในข้อมูล (anomaly detection)
นอกจากนี้ GA4 ยังมี Insight อัตโนมัติ ที่สรุปเทรนด์สำคัญให้ทันที ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องคอยเฝ้ารายงานเอง ฟีเจอร์ AI อย่าง Predictive Audiences และ Automated Insights ของ GA4 ช่วยผู้ประกอบการตัดสินใจได้เร็วขึ้น ปรับแคมเปญการตลาดให้ตรงจุด และนำหน้าคู่แข่งเสมอ ตัวอย่างการใช้งาน เช่น การสร้างกลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติจากผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อใน 7 วันข้างหน้า หรือแจ้งเตือนทันทีเมื่อยอดขายตกผิดปกติ เจ้าของธุรกิจจึงสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาดได้อย่างทันท่วงที
4) Jasper AI – เครื่องมือสร้างคอนเทนต์อัจฉริยะ ยกระดับการตลาด
Jasper เป็นผู้ช่วย AI ยอดนิยมด้านการเขียนคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นบทความบล็อก โพสต์โซเชียลมีเดีย หรือข้อความโฆษณา Jasper สามารถสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงตามหัวข้อหรือคำสั่งที่เรากำหนดได้ภายในไม่กี่นาที อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย และยังปรับโทนภาษาให้สอดคล้องกับแบรนด์ของธุรกิจคุณได้อย่างแนบเนียน เครื่องมือนี้รองรับหลายภาษา ทำให้การทำการตลาดในหลายประเทศกลายเป็นเรื่องง่าย จุดแข็งของ Jasper คือช่วยเจ้าของธุรกิจที่อาจมีทรัพยากรจำกัดในการผลิตคอนเทนต์ ให้สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้มากขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับการไม่ใช้ AI (โดยธุรกิจที่ใช้ Jasper รายงานว่าช่วยเพิ่มปริมาณงานเขียนได้ถึง 150%)
นอกจากนี้ Jasper ได้รับความนิยมและความน่าเชื่อถือสูง มีผู้ใช้กว่าหนึ่งแสนรายและรีวิวเฉลี่ยระดับ 4.8/5 ดาวบนหลายแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังถูกจัดอันดับเป็น เครื่องมือ AI ด้านการเขียนคอนเทนต์อันดับหนึ่งสำหรับทีมองค์กรบน G2 จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและผลลัพธ์ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการคอนเทนต์การตลาดสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องพึ่งทีมครีเอทีฟขนาดใหญ่
5) Adobe Marketing & Personalization – แพลตฟอร์มสร้างประสบการณ์ลูกค้าเฉพาะบุคคล
Adobe Experience Cloud (ซึ่งครอบคลุมเครื่องมืออย่าง Adobe Marketo Engage สำหรับ Marketing Automation และ Adobe Target สำหรับ Personalization) เป็นอีกตัวเลือกชั้นนำสำหรับองค์กรที่จริงจังกับการตลาดยุคใหม่ จุดเด่นคือการใช้ AI ที่เรียกว่า Adobe Sensei ในการประมวลผลข้อมูลและปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการ แนะนำสินค้า ที่ลูกค้ามีแนวโน้มสนใจ หรือการ ปรับเนื้อหาเว็บไซต์ หรืออีเมลให้ตรงกับพฤติกรรมแต่ละคน โดยอัตโนมัติ
ทั้งยังสามารถทดสอบรูปแบบเนื้อหา (A/B testing) และเลือกเวอร์ชันที่ได้ผลดีที่สุดด้วย AI (ฟีเจอร์ Auto-Target ของ Adobe Target) ความแข็งแกร่งของ Adobe ถูกยืนยันโดยรายงาน Gartner ล่าสุดที่จัดให้ Adobe อยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leader) ด้านเครื่องมือ Personalization เคียงข้าง Salesforce, Dynamic Yield, Insider และ Bloomreach หมายความว่าทั้งวิสัยทัศน์และศักยภาพการทำงานอยู่ในระดับแนวหน้า กรณีการใช้งานที่เหมาะกับเจ้าของธุรกิจ เช่น การทำเว็บไซต์หรือแอปที่ปรับเนื้อหาให้ตรงใจผู้ชมแต่ละราย, การส่งแคมเปญการตลาดอัตโนมัติข้ามช่องทาง (อีเมล, LINE, SMS) ตามเงื่อนไขพฤติกรรมลูกค้า, และการทำ Personalized Marketing ที่สร้างความประทับใจเฉพาะบุคคล ผลลัพธ์คือ อัตราแปลง (conversion) ที่สูงขึ้นและความภักดีของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากการได้รับประสบการณ์ที่ “โดนใจ” มากกว่าเดิม
จากแนวโน้มการใช้งานจริงของธุรกิจในปี 2025 เครื่องมือ AI ที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 2026 จะ ไม่ใช่แค่เก่งด้าน AI แต่ต้อง เชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าได้จริง และ สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่วัดได้ โดยสรุปได้ดังนี้
1) AI ที่ฝังอยู่ใน CRM และ Customer Platform
เครื่องมืออย่าง Salesforce Einstein และ HubSpot AI ยังได้ไปต่อ เพราะธุรกิจต้องการ AI ที่เข้าใจ “ข้อมูลลูกค้าทั้ง Journey” ไม่ใช่แค่สร้างคอนเทนต์ แต่ช่วยทำนายโอกาสขาย, churn และ next-best-action ได้จริง
2) AI ด้าน Analytics & Predictive Insight
แพลตฟอร์มอย่าง Google Analytics 4 จะยิ่งสำคัญขึ้นในปี 2026 เมื่อการตลาดต้องตัดสินใจเร็วขึ้น AI ที่ช่วยคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้าและแจ้ง Insight อัตโนมัติ จะกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานของทุกธุรกิจ
3) AI ที่ทำ Personalization ได้แบบ Real-time
เครื่องมือกลุ่ม Adobe Experience Cloud จะได้เปรียบในยุคที่ลูกค้าคาดหวังประสบการณ์เฉพาะบุคคลในทุกช่องทาง AI ที่ปรับคอนเทนต์ ข้อเสนอ และข้อความแบบเรียลไทม์ จะช่วยเพิ่ม Conversion และ Loyalty ได้ชัดเจนกว่าเดิม
4) AI ที่เชื่อม Automation + Data + Workflow
ในปี 2026 ธุรกิจจะเลือก AI ที่ “ลดงานคน” ได้จริง เช่น ระบบ Marketing Automation, AI Agent และ Workflow Automation มากกว่า AI ที่แยกใช้งานเดี่ยว ๆ
เครื่องมือ AI ทั้ง 5 ที่คัดมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นสำคัญที่มี ข้อมูลล่าสุดและเสียงตอบรับน่าเชื่อถือในปี 2025 การนำ AI มาช่วยในงาน CRM, การตลาดอัตโนมัติ, การวิเคราะห์, การสร้างคอนเทนต์ และ Personalization ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เจ้าของธุรกิจที่เริ่มปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถประหยัดเวลา ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญคือธุรกิจของคุณจะพร้อมแข่งขันในยุคที่การตลาดขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ
อ่านบทความเพิ่มเติม : FAQ เกี่ยวกับ Marketing Trends 2026 ที่นักการตลาดต้องรู้
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com