หลายธุรกิจที่มีการทำโฆษณาบนเฟซบุ๊กแล้วไม่เข้าใจ แผนการตลาด ที่วางไว้ ก็มักจะมองในเรื่องของยอดไลก์เป็นหลัก เพราะยอดไลก์เยอะแสดงว่าคนให้ความสนใจเยอะ เลยทำให้รู้สึกว่าตัวเอง “ทำสำเร็จ” แต่พอได้ไลก์น้อยแล้วรู้สึกว่าตัวเอง “ทำไม่สำเร็จ” ยิ่งเวลาที่ได้เห็นโฆษณาของคนอื่นที่มียอดไลก์ที่เยอะกว่า ก็มักจะมองว่าทำไมของตัวเองนั้นด้อยกว่าทั้งๆ ที่ก็ทำเหมือนกัน อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่ามันเป็นเพราะอะไรเรามาดูกัน
ปัจจัยที่มีผลทำให้ยอดไลก์ปัง มีอะไรบ้าง
Content – คอนเทนต์ที่เป็นสาระประโยชน์ หรือ คอนเทนต์ที่เป็นไวรัลทำให้คนเกิดความชอบ
Budget – ยิ่งมีงบเยอะ ก็ยิ่งทำให้เฟซบุ๊กโชว์โฆษณาให้เราเยอะ
Target Audience – ยิ่งกลุ่มเป้าหมายกว้างก็มีโอกาสมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายเล็กก็มีโอกาสน้อย
อัลกอริทึม Facebook ปัจจัยไหนที่ส่งผลต่อโพสต์ใน Facebook สูงสุด
ถามใจตัวเองดูว่าอยากได้ยอดไลก์ หรือ ยอดขายกันแน่
ถ้าเห็นโฆษณาที่มียอดไลก์เยอะๆ ส่วนหนึ่งมาจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพราะการกำหนดกลุ่มเป้าหมายก็จะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ เช่น ถ้าธุรกิจคุณมีวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาเพื่อที่จะ "เน้นขาย" ก็ไม่แปลกที่คุณจะต้องโฟกัสกลุ่มเป้าหมายไปยังคนที่มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้าของคุณ ซึงแปลว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณจะก็ "แคบลง" ทำให้มีโอกาสที่คนจะกดไลก์ก็ย่อมน้อยกว่า แต่คุณจะได้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงกว่า แต่ถ้าธุรกิจมีวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาเพื่อ "เน้นให้คนเห็น" กลุ่มเป้าหมายก็จะ "กว้างกว่า" เพราะกลุ่มเป้าหมายของเป็นใครก็ได้ ที่เห็นแล้วแค่รับรู้ไม่จำเป็นต้องซื้อ
- ยอดไลก์เยอะไม่ได้แปลว่าจะขายดี
- ยอดไลก์น้อยไม่ได้แปลว่าจะขายไม่ได้
ยอดขายพัง เพราะไม่ตามแผน หรือ ไม่ตามใจ
หลายธุรกิจมักจะหวังผลกำไรที่เกิดขึ้นหลังจากการทำโฆษณา เมื่อได้ยอดขายกลับมาไม่ได้ตามความต้องการก็มักจะบอกตัวเองว่าไม่ประสบความสำเร็จ ไม่คุ้มกับการลงทุนที่เสียไป สิ่งที่กำลังจะบอกคือ อย่ามองว่าลงทุนไปเท่านี้ต้องได้ทุนคืนเท่านี้ เพราะสิ่งที่คุณได้รับมันไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่คุณยังได้ในส่วนของ Brand Awareness และบางทีเขาอาจจะเห็นจากออนไลน์แล้วไปซื้อออฟไลน์ก็ได้
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Aphikiat Techajarupun X Ourgreenfish
No Comments