<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

แนวโน้มการทำงานในอนาคต จะเป็นอย่างไร ต้องเตรียมรับมือกับอะไรบ้าง

แนวโน้มการทำงานในอนาคต ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน เนื่องจากการเข้ามาของ อินเทอร์เน็ต AI และ Big Data ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เทรนด์การทำงานจะเป็นแบบไหน  Ewebdy จึงเอาเทรนด์การทำงานในอนาคตมาฝากกัน

ทำงานจากที่ไหนก็ได้ และทำงานพร้อมกันผ่านคลาวด์

แนวโน้มการทำงานในอนาคต

ในทุกๆ ที่ สามารถเข้าถึงแหล่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ในราคาไม่แพง สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ จึงทำให้ขนาดออฟฟิศมีขนาดเล็กลง และการทำงานผ่านระบบคลาวด์ก็จะเป็นระบบการทำงานหลักของหลายบริษัท จึงจำเป็นที่องค์กรจะต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงวัฒนธรรมขององค์กรด้วย ส่วนมนุษย์เงินเดินต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ

ซึ่งในปัจจุบันการทำงานผ่านคลาวด์มีมากขึ้น เช่น Google G Suite หรือ Google Docs, Sheet, Slides ซึ่งเป็นการทำงานผ่านคลาวด์ แก้ไขงานได้พร้อมกัน อัพเดตไฟล์เอกสารเป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ จึงมีองค์กรขนาดใหญ่ใช้เป้นจำนวนมากเช่นกัน

Big Data คือขุมทรัพย์ขนาดใหญ่

แนวโน้มการทำงานในอนาคต

ปริมาณข้อมูลมากมายมหาศาล นับว่าเป็นแหล่งขุมทรัพย์สำคัญ นำมาประยุกต์ใช้กับงานได้หลายด้าน จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่ที่ต้องใช้งาน Big Data มีมากขึ้น ในด้านมหาวิทยาลัยก็ต้องผลิตบุคลากรให้ตรงความต้องการในด้านแรงงาน ส่วนตำแหน่งงานในปัจจุบันก็ต้องปรับตัวเพื่อรองรับอาชีพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น อาจมีเครื่องมือหรือ Tools ที่คอยคัดกรอง จัดอันดับข้อมูล ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และหัดใช้งาน เพื่อเพิ่มทักษะ ประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น

เมื่อ AI มาถึง บางอาชีพต้องหายไปและบางอาชีพเกิดใหม่ทดแทน

แนวโน้มการทำงานในอนาคต

AI (เอไอ :  Artificial Intelligence ) คือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งนับว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในโลกของการทำงาน จึงทำให้ AI มีหน้าที่คอยช่วยมนุษย์ทำงานในด้านต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ซึ่งในอนาคตคาดว่า AI จะเริ่มทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น จนหลายคนกังวลว่า AI จะมาแย่งงานมนุษย์ แต่ในความเป็นจริงแล้วการถือกำเนิดของ AI ไม่ได้มาแย่งงานของมนุษย์ทั้งหมด แต่กลับกันก่อให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ที่ต้องคอยควบคุม หรือบังคับ AI ทดแทน เป็นการทำงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

แต่จากเอกสารอ้างอิง จะพบได้ว่าอาชีพที่ต้องใช้ทักษะสูง ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานติดต่อสื่อสารกับผู้คน ยังคงต้องใช้คนเพื่อสร้างสรรค์ผลงานอยู่ จึงมีความเสี่ยงต่ำที่ AI จะมาแทนที่ได้ยาก เช่นกลุ่มอาชีพแพทย์, HR, นักเขียนนวนิยาย, ทนายความ, เมคอัพ อาร์ตทิสต์, แฟชั่นดีไซน์เนอร์ ฯลฯ

สำหรับอาชีพที่เสี่ยงที่จะตกงานมากที่สุด ที่ AI เข้ามาแทนที่ได้คือ พนักงานรับฝาก-ถอนเงินในธนาคาร, คนขับรถ, แคชเชียร์, พนักงานขายของทางโทรศัพท์ ฯลฯ

สรุป แนวโน้มการทำงานในอนาคต

โดยสรุปอาจกล่าวได้ว่า แนวโน้มในการทำงานจะมีข้อมูลจำนวนมาก อาชีพเฉพาะเจาะจง ที่ทำงานร่วมกับ AI และ Big Data จะผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด บางอาชีพก็สูญหายไปตามกาลเวลาที่ AI สามารถทำงานแทนได้ ผู้คนสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ และยังทำงานได้พร้อมกันทุกที่ทุกเวลา ผ่านคลาวด์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราทุกคนถึงควรเริ่มปรับตัว และเพิ่มพูนทักษะเพื่อรับมือกับการทำงานในอนาคต

4 แนวโน้มในการทำงาน ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า 2018
THAILAND 4.0 กับอาชีพสุดฮอตที่ภายในปี 2020 ทุกบริษัทต้องจ้าง! (ภาคแรก)
THAILAND 4.0 กับอาชีพสุดฮอตที่ภายในปี 2020 ทุกบริษัทต้องจ้าง! (ภาคจบ)

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts