<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

3 ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนคนอ่าน คอนเทนต์ ให้มาเป็นลูกค้าของคุณ

Audio Version

การทำ คอนเทนต์ ถือเป็นเรื่องสำคัญ คุณสามารถเพิ่ม Traffic เข้ามายังเว็บไซต์ของตัวเองได้มากมาย ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ของคุณตอบโจทย์ของคนที่กำลังค้นหาข้อมูลเหล่านั้นอยู่หรือเปล่า? การทำคอนเทนต์นอกจากจะช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ตัวเองแล้ว ยังสามารถนำ Traffic มาใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing โดยจะเป็นการทำโฆษณากลับไปยังคนที่เคยเข้ามายังในเว็บไซต์ Remarketing เพื่อ Remind ผู้ที่เข้าชมให้เกิดความสนใจในสินค้าหรือบริการของเรา

แต่คุณรู้หรือไม่ว่าคอนเทนต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่จะทำให้เกิด Traffic เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำให้คุณมีโอกาสที่จะเปลี่ยนผู้ชมให้มาเป็นลูกค้าได้เหมือนกัน ทำให้คุณสามารถขายของได้โดยที่คุณอาจจะไม่ต้องเสียเงินทำโฆษณาแม้แต่บาทเดียวเลยก็ได้ ในเมื่อพูดแบบนี้คุณก็คงอยากจะรู้แล้วว่าจะต้องทำคอนเทนต์แบบไหน แล้วจะต้องทำอย่างไร สุดท้ายถึงจะได้ลูกค้าเรามาดูกัน

คอนเทนต์

สร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับ Buyer Persona

การสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยตอบสนองต่อความต้องการได้มากยิ่งขึ้น แต่การจะสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้นั้น คุณจำเป็นจะต้องมีตัวแทนกลุ่มเป้าหมายก่อน เราเรียกว่าการสร้าง Buyer Persona แล้วคุณจะสร้างกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร การจะสร้างกลุ่มเป้าหมายเริ่มจากคุณจะต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นใคร มีปัญหาอะไรที่พบอยู่บ่อยๆ เป้าหมายของเขาคืออะไร เพื่อที่จะได้คิดวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เพื่อใช้ในการวางแผนในการทำคอนเทนต์ที่เหมาะกับคนกลุ่มนั้น ว่าเขาชอบอ่านคอนเทนต์แบบไหน เขาต้องการข้อมูลอะไร โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการสร้าง Buyer Persona อย่างง่ายๆ โดยนำข้อมูลของลูกค้าที่เกิดขึ้นจริงและดูมีคุณภาพสำหรับคุณมาใช้เป็นตัวแทนกลุ่มเป้าหมาย หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 คือ...พยายามเก็บข้อมูลของผู้ชมที่เข้ามา

พยายามเก็บข้อมูลของผู้ชมที่เข้ามา

โดยขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการขอข้อมูลลูกค้า เพราะเราจะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ชมที่เข้ามาข้อมูลแล้วออกไปเฉยๆ เราพยายามจะเก็บข้อมูลของคนที่เข้ามาให้ได้มากที่สุด เช่น ในแต่ละเดือนมีผู้ชมเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณอยู่ที่เดือนละ 20,000 คน แต่เป็นลูกค้าจริงๆ อยู่ประมาณ 10 คนต่อเดือน ซึ่งไม่ถึง 1% แปลว่าอีก 99.99% หรือ 19,990 ที่เหลือ คุณปล่อยให้เขาหายไปฟรีๆ โดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรกับเขา ถ้ามองในมุมของการทำตลาด คนเหล่านั้นเขาก็มีโอกาสที่จะมาเป็นลูกค้าของคุณได้เหมือนกัน เพราะมีการค้นหาแปลว่าเขากำลังสนใจหรือต้องการข้อมูลเหล่านั้นอยู่

แล้วเราจะสามารถเก็บข้อมูลของคนเหล่านี้ได้อย่างไร? สิ่งที่เราจะทำต่อไปก็คือการทำ CTA หรือที่เรียกว่า Call-to-Action เป็นการเรียกหรือกระตุ้นให้เกิดการลงมือกระทำอะไรบางอย่างกับเรา โดยเราจะให้เขากรอกข้อมูลพวก ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร และอีเมล แต่เราก็ไม่ได้ให้เขากรอกฟรีๆ เราต้องมีอะไรแลกกับเขาด้วย เช่น กรอกข้อมูลเพื่อตรวจสุขภาพฟรี เพื่อรับข้อมูล Insights ที่ไม่มีที่ไหนมาก่อน หรือเพื่อโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนที่ลงทะเบียนเท่านั้น เพื่อให้เขายอมกรอกข้อมูลให้กับเรา

จัดการกับข้อมูล Nurturing Lead ให้มี Quality

หลังจากที่เราได้ข้อมูลของเขามาแล้ว คุณก็จะรู้แล้วว่าคนที่กรอกข้อมูลมาในแต่ละ CTA เขามีความสนใจอะไร จากนั้นเราก็จะส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เขาในเรื่องนั้นๆ ไปให้อย่างสม่ำเสมอ เราเรียกกระบวนการนี้ว่าเป็นการ Nurturing Leads และถ้าหากถึงวันทีเขาต้องการเขาก็จะนึกถึงคุณ หรือถ้าหากคุณเห็นพฤติกรรมของ Lead เหล่านั้นว่ามีคุณภาพมากพอ คุณก็อาจจะส่ง Sales Team เข้าไปปิดการขายก็ยังได้ โดยแต่ละครั้งที่ส่งข้อมูลไปคุณอาจจะแนบ CTA อันใหม่ไปด้วย เช่น รับส่วนลดพิเศษ 20% ภายในเดือนนี้ หรือใช้โค้ดนี้เพื่อรับของแถมพิเศษ เพื่อให้เขาเริ่มมีการคิดและต้องตัดสินใจ

และนี่คือ 3 ขั้นตอนที่จะช่วยทำให้คุณมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากการทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ และยิ่งถ้าคอนเทนต์ของคุณทำให้เขารู้สึกได้ว่า “ทำไมเขาถึงต้องการคุณ” คุณอาจจะได้เขามาเป็นลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลยก็ว่าได้

พัฒนาทีมงานให้ก้าวทันเทคโนโลยีด้วยหลักสูตร Digital Marketing Basic

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

 

Recent Posts

OGF Podcast