<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

4 เทคนิคการคิด Keyword ให้เข้าถึงลูกค้าอย่างง่าย

สำหรับคนที่กำลังทำเกี่ยวกับ Digital Marketing การคิด Keyword อาจจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะคุณไม่รู้ว่าคุณควรจะใช้คำหรือวลีอะไรที่จะทำให้ลูกค้าค้นหาแล้วมาเจอคุณ แล้วก็ไม่รู้ว่ามีเทคนิคในการคีย์เวิร์ดให้มีประสิทธิภาพนั้นมีอะไรบ้าง โดย E-book เล่มนี้จะเป็นตัวบอกคุณเองว่า คีย์เวิร์ดที่คุณควรจะใช้ควรจะเป็นอย่างไรที่จะทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าคุณเป็นลูกค้า...คุณจะค้นหาสิ่งที่ต้องการด้วยคำว่าอะไร?

ขั้นตอนแรกจะเป็นวิธีการคิดแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้นั่นก็คือ ให้สวมบทบาทว่าตัวเองเป็นลูกค้า Customer Perspective ถ้าหากคุณต้องการที่จะค้นหาข้อมูลสินค้าหรือบริการ คุณจะค้นหาสิ่งๆ นั้นด้วยคำนั้นว่าอะไร เพื่อที่คุณจะได้ใช้คำนั้นมาเป็นคีย์เวิร์ดในการค้นหา เพื่อทำให้เวลาที่มีการค้นหาคำนั้นๆ ก็จะมาเจอคุณ ซึ่งหมายความว่าคำนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับคุณด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้คำที่มีความหมายเกี่ยวกับตัวเอง เช่น คุณทำเกี่ยวกับบริการด้าน Digital Marketing คำที่คุณจะใช้เพื่อให้ลูกค้าค้นหาแล้วมาเจอคุณก็คือคำว่า Digital Marketing ซึ่งเราจะเรียกคำนี้ว่าเป็น “คำหลัก” คุณจะมีกี่คำก็ได้ แต่ควรเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณเอง

คุณสามารถดูได้ว่าคีย์เวิร์ดที่คุณจะนำมาใช้มีการค้นหาเฉลี่ยเดือนละกี่ครั้ง คู่แข่งเยอะหรือน้อย มีราคาคลิกแต่ละครั้งกี่บาท Cost per click หรือที่เรียกว่า CPC ได้ที่นี่ Keyword Tool

ใช้ คีย์เวิร์ด ให้ตรงความกับความต้องการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา

มาถึงขั้นตอนที่สองหลังจากที่เราได้คำหลักมาแล้ว การจะทำให้การค้นหาของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือการใช้คีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้จะเป็นการใช้คีย์เวิร์ดแบบยาวหรือที่เรียกว่า “Long-Tail Keywords” โดยจะเป็นการนำคำหรือวลีที่ความหมายอยู่แล้วของคำสองคำหรือมากกว่ามารวมกันเป็นประโยคเดียวที่มีความหมาย การใช้ Long-Tail Keywords จะมีความ niche หรือมีความเฉพาะตัวสูงกว่า Broad Keyword ทั่วไป จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการค้นหามากยิ่งขึ้น

เพราะแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะค้นหาคำนั้นแบบทื่อๆ โดยที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการค้นหา เช่น ค้นหาคำว่า Digital Marketing เพียงอย่างเดียว พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่มักจะค้นหาด้วย Keyword + Objective เช่น วิธีทำ Digital Marketing, คอร์สเรียน Digital Marketing, Digital Marketing ที่ไหนดี ถ้าหากเราใช้คีย์ที่ตรงกับความต้องการมากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหามากยิ่งขึ้นเท่านั้น เนื่องจากประโยคเหล่านี้เป็นประโยคที่ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะใช้ในการค้นหา และเป็นประโยคที่สามารถดึงดูดการเข้าถึงได้มากกว่าเพราะตรงกับความต้องการ แถมประโยคเหล่านี้ไม่ค่อยมีการแข่งขันเท่ากับคีย์เวิร์ดแบบกว้างๆ แถมยังสามารถจัดอันดับในการค้นหาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ใช้ คีย์เวิร์ด ที่มาจากปัญหาหรือสิ่งที่สร้างความยุ่งยากของลูกค้า

โดยขั้นตอนสุดท้าย จะเป็นการใช้คีย์เวิร์ดที่เกิดจากปัญหาหรือสิ่งที่สร้างความยุ่งยากของลูกค้า โดยเราจะเรียกว่าการใช้คีย์เวิร์ดที่มาจาก “Pain point” ตัวอย่าง ลูกค้ามีปัญหาเกี่ยวกับการการทำโฆษณาออนไลน์ เช่น ทำโฆษณาอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ถ้าหากเรามีการใช้คีย์เวิร์ดคำว่า “โฆษณาออนไลน์” กับ “กลุ่มเป้าหมาย” อยู่ในประโยคก็จะทำให้เวลาที่มีการค้นหามีโอกาสที่เขาจะเจอเรา เพราะเรามีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับความต้องการอยู่ และถ้าหากข้อมูลของเราสามารถตอบสนองต่อความต้องการหรือสามารถแก้ไขปัญหาให้กับเขาได้ ก็มีโอกาสที่เขาจะมาเป็นลูกค้าของคุณได้เหมือนกัน

ใช้เครื่องสำรวจช่วยไกด์คีย์เวิร์ดที่ควรใช้
- ใช้ประโยชน์จาก Google Search Engine ช่องที่เราเอาไว้พิมพ์ค้นหาข้อมูลต่างๆ เวลาที่เราพิมพ์ก็จะมีการ Suggest Keyword แบบ Long-Tail Keywords มาให้เรา ซึ่งเราสามารถนำคีย์เวิร์ดพวกนี้ไปใช้ได้ เพราะเป็นคีย์เวิร์ดที่เป็นที่นิยมในการค้นหา

keyword

- ใช้ Google Trends เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดที่เรากำลังจะใช้นั้นมีการค้นหามากน้อยเพียงใด และมีคีย์เวิร์ดแบบไหนบ้างที่คล้ายกับของเรา Related queries ทำให้เราสามาถเพิ่มเติมในส่วนคีย์เวิร์ดได้

keyword

- Keyword Planner ซึ่งเครื่องมือตัวนี้จะอยู่ใน Google Ads เราจำเป็นจะต้องมี Gmail ในการเข้าใช้งาน ซึ่ง Keyword Planner สามารถดูได้ทั้ง Volume ในการค้นหา ราคาคลิกของคีย์เวิร์ด และคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย

keyword

และนี่คือปัจจัยหลักๆ สำคัญของการใช้คีย์เวิร์ด ที่จะทำให้คุณใช้คีย์เวิร์ดได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น สุดท้ายแล้วการจะได้คีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีการ Continuous improvement คีย์เวิร์ดนั้นๆ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นยิ่งขึ้นมั้ย ซึ่งคุณสามารถ Analytics จาก Result ที่เกิดขึ้นจากการทำแคมเปญได้

สุดท้ายอย่าลืมใช้ประโยชน์จากคำหลักของคุณทุกที่! พยายามแทรกคำหลักของคุณลงในบล็อกโพสต์ ในโพสต์โซเชียลมีเดีย และเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEM หรือ SEO ยิ่งคุณใช้คำหลักในเนื้อหาของคุณมากเท่าไร ลูกค้าก็จะหาคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

3 ตัวช่วย INBOUND MARKETING ให้ประสบผลสำเร็จ

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts