<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

ทำโฆษณาด้วย Youtube Ads อย่างไร? ให้แบรนด์เป็นที่จดจำ

Youtube เป็นช่องทางการค้นหาที่ใหญ่และได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ 2 รองจาก Google แถมยังมีผู้ใช้งานที่เป็นผู้สร้างคอนเทนต์วิดีโอมากถึง 50 ล้านราย เรียกได้ว่าเป็นช่องทางที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ที่นักการตลาดจะเข้าไปเล่นและทำโฆษณาในช่องทางนี้ เพราะนอกจากจะเป็นช่องทางการตลาดที่มีผู้ใช้งานเยอะแล้วนั้น ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้ธุรกิจและยูทูปเบอร์ทั้งหลายเติบโตอีกด้วย ทุกวันนี้เวลาที่คุณดู Youtube (ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Youtube Premium) จะเห็นว่ามีโฆษณาโผล่ขึ้นมากวนใจตลอดเวลาและโฆษณาที่โผล่มากวนใจนี่แหละที่ทำให้แบรนด์หรือธุรกิจนั้นกลายเป็นที่จดจำสำหรับผู้ชมบนแพลตฟอร์มนี้ไม่มากก็น้อย โดย Youtube Ads นั้นมีรูปแบบที่แตกต่างกันแล้วแต่การใช้งาน มาดูกันดีกว่าว่ารูปแบบโฆษณาบน Youtube Ads นั้นมีอะไรบ้าง

รูปแบบของโฆษณา Youtube Ads

รูปแบบโฆษณา Youtube Ads แบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

TrueView Ads หรือ Skippable Video Ads

Youtube Ads

โฆษณารูปแบบ TrueView หรือ โฆษณาที่สามารถกด Skip ได้ เมื่อผู้ชมเปิดวิดีโอขึ้นมาชม จะมีวิดีโอรูปแบบนี้เด้งขึ้นมา ถ้าหากผู้ชมไม่ต้องการชมต่อ ต้องการจะข้ามไป ก็สามารถกด Skip โฆษณาเพื่อจะรับชมวิดีโอตัวนั้น ซึ่งปุ่มที่จะให้ผู้ชมกดได้นั้นจะขึ้นมาหลังจากที่โฆษณานั้นเล่นไปแล้ว 5 วินาที แต่บางทีอาจไม่ได้โผล่มาในตอนต้นของวิดีโอ แต่อาจโผล่มาระหว่างที่ผู้ชมกำลังรับชมอยู่ด้วยก็ได้ ซึ่งโฆษณาแบบ TrueView นั้นแบ่งออกได้อีก 2 รูปแบบคือ

    1. TrueView In-Stream Ads
      โฆษณาที่สามารถกด Skip ข้ามได้ ลิงก์ที่อยู่ในวิดีโอที่เป็นโฆษณา สามารถพาไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นได้ ซึ่งเป้าหมายในการทำโฆษณารูปแบบนี้ที่เห็นได้ชัดนั้นคงไม่พ้นการเพิ่มโอกาสในการขายให้กับแบรนด์ที่มากขึ้น สร้างการรับรู้แบรนด์ในรูปแบบใหม่ ๆ แถมยังสามารถลิงก์ไปยังเว็บไซต์ โฆษณารูปแบบนี้ จะสามารถกรองผู้ที่สนใจในแบรนด์ของคุณได้อย่างชัดเจน 
    2. TrueView Discovery Ads
      รูปแบบโฆษณาที่จะโชว์บนหน้า Homepage หรือแสดงด้านบนของหน้าการค้นหา โดยโฆษณาที่โชว์นั้น จะมีลักษณะหรือเรื่องที่คล้ายคลึงกับที่ผู้ชมค้นหา โฆษณารูปแบบนี้มักใช้ภาพปกและข้อความบางส่วน เพื่อเชิญชวนให้ผู้ชมนั้คลิกวิดีโอโฆษณาตัวนั้น 

ซึ่งข้อดีของโฆษณารูปแบบนี้ ช่วยให้คุณสามารถโปรโมทสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคุณได้ เข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น สร้างการรับรู้แบรนด์ ประหยัดต้นทุน เพราะคุณจะเสียค่าใช้จ่ายก็ต่อเมื่อไปเข้าเงื่อนไขที่ทาง Youtube กำหนดมา 

Non-Skippable Video Ads

YouTube Ads

รูปแบบโฆษณาที่ไม่สามารถกด Skip ข้ามได้ ความยาวของวิดีโอโฆษณายาว 15 วินาที วิดีโอที่ต้องการสื่อสารแบรนด์ให้ชัดและเข้าถึงผู้ชมให้ได้มากที่สุด ซึ่งสามารถวางไว้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังวิดีโอแสดงเสร็จ สามารถใส่ CTA เข้าไปในโฆษณา มีโอกาสที่ทำให้ผู้ใช้งานสนใจแบรนด์ โฆษณารูปแบบนี้เหมาะมากสำหรับแบรนด์ที่กำลังเปิดตัวหรือแคมเปญใหญ่ ๆ ในช่วงเวลานั้น การคำนวณค่าใช้จ่ายจะคิดก็ต่อเมื่อแสดงโฆษณาครบ 1,000 ครั้ง รูปแบบ Non-Skippable มี 2 รูปแบบ คือ

  1. Pre-Roll Ads โฆษณาที่ปรากฏก่อนวิดีโอเล่น
  2. Mid-Roll Ads โฆษราที่ปรากฏกึ่งกลางของวิดีโอ

ข้อดีของโฆษณารูปแบบนี้ จะช่วยเล่าเรื่องราวของแบรนด์คุณได้อย่างละเอียด กลุ่มเป้าหมายของคุณจะเข้าใจแบรนด์ของคุณได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งควบคุมการใช้จ่ายต่อโฆษณาได้ดีมากขึ้น

Bumper Ads

Youtube Ads

โฆษณาวิดีโอแบบสั้น ๆ ไม่เกิน 6 วินาที แต่ไม่สามารถกด Skip ได้ สามารถคลิกลิงก์เพื่อไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ สร้างมาเพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มการเข้าถึงไปยังผู้ชม แต่จะทำอย่างไรให้ผู้ชมสนใจแบรนด์ของคุณวิดีโอสั้น ๆ ตัวนั้น ดังนั้นต้องสร้างวิดีโอให้น่าสนใจและดึงดูดให้ได้ภายในเวลานั้น ๆ ข้อดีเพื่อลดการการถูกรบกวนจากโฆษณาเหล่านั้น เพราะในบางทีผู้ชมอาจรู้สึกรำคาญหากได้รับโฆษณาบ่อยครั้ง รวมถึงสามารถนำคอนเทนต์วิดีโอเก่า ๆ มาปรับใช้ให้เป็นรูปแบบใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา 

นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบโฆษณาที่ไม่ไม่ใช่วิดีโอบน Youtube ด้วยกันอีก 3 รูปแบบ ก็คือ

  1. Overlay Ads - โฆษณาที่จะขึ้นเป็นแบนเนอร์ด้านล่างของวิดีโอ จะแสดงเฉพาะหน้า Youtube ที่เปิดบน Desktop ถ้าเปิดชมบนอุปกรณ์พกพา จะไม่แสดง แสดงก็ต่อเมื่อวิดีโอเล่นไปแล้ว
  2. Display Ads - โฆษณาที่แสดงด้านขวามือและวิดีโอแนะนำ ยกเว้นหน้าแรกของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Youtube
  3. Cards and Sponsored Cards - CTA ที่ดึงดูดให้ผู้ชมคลิก จะแสดงบนวิดีโอ โฆษณารูปแบบนี้จะไม่รบกวนการรับชม เพราะตัวการ์ดนี้จะขยายใหญ่ก็ต่อเมื่อผู้ชมคลิกเท่านั้น

รูปแบบโฆษณาที่กล่าวมาด้านบนสามารถนำมาปรับใช้กับแบรนด์หรือธุรกิจของตัวเองได้ ว่าต้องการได้ผลลัพธ์แบบไหน ให้เลือกตัวโฆษณานั้นขึ้นมาใช้ แต่ก็มีหลักในการทำ Youtube Ads อยู่ ว่าทำอย่างไร ให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นที่จดจำได้บ้าง

หลักในการทำ Youtube Ads ให้แบรนด์เป็นที่จดจำ

shutterstock_1294393849

  • แบรนด์ต้องรู้ ว่าผู้ชมที่เป็นเป้าหมายคือใคร
    ก่อนที่จะสร้างวิดีโอแต่ละตัว เพื่อมาโปรโมทแบรนด์ของตัวเองนั้น ต้องรู้ก่อนว่าผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คือใคร จุดประสงค์ในการรับชมวิดีโอนั้นคืออะไร เพราะถ้าทำวิดีโอโฆษณาให้ตอบโจทย์ จะทำให้แบรนด์ของคุณได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นได้ด้วย
  • หา Keyword และศึกษาให้ดี
    Keyword มีผลอย่างมากต่อการทำโฆษณา ดังนั้น ควรศึกษา Keyword ให้ดีก่อน สามารถสร้างเนื้อหาให้ตรงตาม Keyword ที่ใช้ สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นจาก Google มาใช้งานได้เช่นกัน
  • โฆษณาต้องมีความน่าสนใจ
    โฆษณาที่น่าสนใจจะทำให้วิดีโอของคุณไม่ถูกกด Skip ผ่านไปอย่างง่ายดาย ยิ่งวิดีโอที่มีการเล่าเรื่อง มีสตอรี่ เรื่องราวที่บอกเล่าถึงที่มาที่ไป จะยิ่งทำให้วิดีโอน่าติดตามมากว่าเดิม เผลอ ๆ ผู้ชมอาจนั่งชมวิดีโอโฆษณาตัวนั้นของคุณจนจบไปเลย
  • ทำให้ผู้ชมรู้ว่าแบรนด์คุณคืออะไรทันที
    แต่ถ้าหากวิดีโอของคุณไม่น่าสนใจละ ก็ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้ผู้ชมรู้ว่าคุณคือใคร แบรนด์ของคุณทำอะไร ภายในระยะเวลาก่อนที่ผู้ชมจะกด Skip เพราะอย่างน้อยเขาไม่ชม แต่เขาก็จำได้ว่าคุณคือใคร
  • ระบุได้ว่าผู้ชมควรทำอะไรต่อ
    นอกจากให้ผู้ชมจดจำแล้วว่าแบรนด์ของคุณทำอะไร จะดีกว่าไหม ถ้าคุณสามารถบอกได้ว่าต้องการให้ผู้ชมทำอะไรต่อหลังจากที่ชมโฆษณาตัวนั้นจบ การมี CTA ช่วยได้เยอะ พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณ

เพียงเท่านี้คุณก็เห็นความสำคัญและวิธีในการทำ Youtube Ads เพื่อให้แบรนด์ของคุณได้ความสนใจและเพิ่มการจดจำไปยังผู้ชมต่าง ๆ แล้ว สามารถนำไปปรับใช้เพื่อให้แบรนด์ของคุณทำโฆษณาวิดีโอออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อีกด้วย

 

ที่มา : [1], [2]

REMARKABLE CONTENTS

3 ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนคนอ่าน คอนเทนต์ ให้มาเป็นลูกค้าของคุณง่ายๆ ที่ควรรู้

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts