วางแผนอย่างไร? ให้บริษัท Agency เข้าใจคุณ

Agency เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม เอเจนซีในปัจจุบันนั้น มีหลากหลาย แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักจะเป็นเอเจนซีโฆษณา ซึ่งเอเจนซีประเภทนี้สามารถทำการตลาดได้มากมายหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมทั้งยังเป็นธุรกิจที่หลาย ๆ องค์กรให้ความสนใจที่จะให้เข้ามาทำการตลาดให้ เนื่องจากบางองค์กร ไม่มีทีมที่สามารถซัพพอร์ตงานทางด้านนี้โดยเฉพาะหรืออาจจะไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่มากพอ เลยจำเป็นต้องให้เอเจนซีเหล่านี้ เข้ามาช่วยสนับสนุน แต่ก่อนที่จะเข้าไปพูดคุยหรือว่าจ้างบริษัทเอเจนซีคุณควรจะมีแผนงานของธุรกิจคุณก่อน ว่าต้องการพูดคุยอะไรกับเอเจนซี แนวทางในการทำงานให้ออกมาในรูปแบบไหน ก่อนอื่นเลย มาลองลิสต์กันก่อนดีกว่า ว่าจะวางแผนอย่างไร เพื่อให้เข้าไปคุยกับเอเจนซีแล้วเขาเข้าใจจุดประสงค์ของแผนงานคุณทันที

วัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน

ก่อนที่จะเริ่มทำการตลาดดิจิทัล คุณควรรู้ก่อนว่าจุดประสงค์หลักของแต่ละแคมเปญนั้น ต้องการทำอะไรและผลลัพธ์ที่อยากได้เป็นอย่างไร อย่างเช่น ต้องการให้มีลูกค้าเข้ามายังธุรกิจมากขึ้น อยากให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก เป็นต้น หลาย ๆ อย่างนี้ เป็นสิ่งที่ควรกำหนดและควรจะบอกจุดมุ่งหมายของสิ่งที่จะทำให้ชัดเจน เพื่อที่ Agency จะได้เข้าใจจุดประสงค์ในการทำของคุณ พร้อมทั้งวางแผนการตลาดต่าง ๆ และนำพาธุรกิจคุณไปยังจุดมุ่งหมายที่คุณต้องการได้

กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ
ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญของธุรกิจ เพราะแต่ละธุรกิจมีกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุ เพศ อาชีพ และสำคัญที่สุดคือพฤติกรรมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ดังนั้น ลองสำรวจกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณก่อนว่าเป็นกลุ่มไหน ต้องการเจาะกลุ่มไหน แล้วบอกความต้องการไปกับเอเจนซี เพื่อที่เวลาทำการตลาดออนไลน์แล้ว จะได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้อง เพราะบางทีหากคุณไม่ได้บอกกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ เอเจนซีทำการตลาดไม่ตรงกลุ่มขึ้นมา ผลลัพธ์ที่คุณต้องการก็อาจไม่เกิดผล

งบประมาณสำหรับแผนงาน

ก่อนที่จะเริ่มทำการตลาดดิจิทัล คุณควรจะต้องกำหนดงบประมาณของแต่ละแคมเปญก่อนว่าจะใช้เท่าไหร่ แต่งบประมาณที่ว่านี้ ต้องสอดคล้องกับแผนงานและเป้าหมายของคุณด้วย ไม่ใช่ว่า สโคปอลังการ แต่งบประมาณน้อยนิด อาจทำให้ไม่สำเร็จตามที่คาดหวัง บางเอเจนซีก่อนที่จะเริ่มวางแผนงานให้คุณ เขาจะถามถึงงบประมาณก่อนว่าคุณมีงบประมาณเท่าไหร่ ถ้ามีงบประมาณเท่านี้ พวกเขาสามารถทำอะไรให้คุณได้บ้าง ดังนั้นควรบอกงบประมาณให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ผิดพลาดเรื่องงบประมาณ เพราะส่วนใหญ่ที่มีปัญหาก็น่าจะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นี่แหละ

Scope งานต้องชัดเจน
งานแต่ละชิ้น มักมีขอบเขตของงานที่ชัดเจน เพื่อที่เอเจนซีจะได้ทำงานไม่เกินขอบเขตที่ตั้งไว้ เพื่อเซฟทั้งฝั่งของธุรกิจและฝั่งเอเจนซีเอง หากไม่มีการคุยสโคปงานที่ชัดเจนระหว่างกัน อาจเกิดปัญหาในการทำงานให้กับบริษัทเอเจนซีที่รับงานนั้นได้

ช่องทางการตลาดที่ต้องการทำ

ช่องทางการตลาดเป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะในตอนนี้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้นมากมาย จากที่เมื่อก่อนมีแค่เฟซบุ๊กหรือกูลเกิลเท่านั้น แต่ในตอนนี้กลับมีช่งองทางอื่นเข้ามาเพิ่มเติม เช่น Instagram, LINE, TikTok เป็นต้น ดังนั้นคุณควรเลือกช่องทางการตลาดที่ดีและเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ และเสนอกับทางเอเจนซีว่าต้องการทำการตลาดช่องทางนี้ ระบุช่องทางพร้อมเหตุผล เพื่อที่เอเจนซีจะได้รับเรื่องและทำงานต่อได้

ภาพลักษณ์ต้องการให้ออกมาแบบไหน
ธุรกิจควรมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ต้องรู้ว่าต้องการให้คนมองมาที่ธุรกิจแล้วมีภาพลักษณ์แบบไหน ภาพในหัวของผู้บริโภคหลาย ๆ ท่านเมื่อนึกถึงธุรกิจคุณนั้นต้องเป็นอย่างไร ดังนั้นภาพเหล่านั้น ต้องเสนอให้กับ Agency อย่างชัดเจน ไม่ใช่ว่ากลาง ๆ ไม่มีความชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง ไม่งั้นธุรกิจของคุณจะไม่มีภาพลักษณ์ที่ทำให้คนจดจำได้เลย

ข้อจำกัดในการทำงาน

ข้อจำกัดในการทำงานก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกับเอเจนซีให้เข้าใจ ทั้งในฝั่งของธุรกิจ ที่สามารถให้ข้อมูลกับทางเอเจนซีได้เท่าไหร่ สามารถใช้ข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน เรื่องของงบประมาณว่าจำกัดในแต่ละเดือนนั้นไม่ควรเกินเท่าไหร่ และในฝั่งเอเจนซี ที่จะสามารถทำงานให้กับธุรกิจได้อย่างไรบ้าง ระยะเวลาในการทำงาน ระยะเวลาในการแก้ไข ข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้านที่คุณกังวล ควรแจ้งและคุยกันให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงาน

ถ้าธุรกิจต้องการเข้าไปคุยกับเอเจนซี ก็ควรเตรียมข้อมูลตามลิสต์เหล่านี้ไว้ เพื่อที่เวลาเข้าไปพูดคุยตกลงกันทั้งสองฝ่าย จะได้เข้าใจกันได้ง่ายมากขึ้น เอเจนซีจะได้ทำงานให้คุณได้บรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการ อย่างไม่ขาดตกบกพร่องและเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อธุรกิจของคุณ