CDP คือคำตอบของ Data Chaos ในธุรกิจการศึกษา จริงหรือไม่?

ทำความเข้าใจ CDP คืออะไร และต่างจาก CRM อย่างไร?
Customer Data Platform หรือ CDP เป็นระบบที่รวมข้อมูลลูกค้าจากหลายช่องทางเข้าไว้ในที่เดียว เช่น เว็บไซต์, Facebook Ads, Call Center, ระบบ Open House หรือ LINE OA โดยจุดเด่นของ CDP คือการ เชื่อมข้อมูลระดับบุคคล (person-level data) เพื่อให้ได้มุมมองแบบ 360 องศาของลูกค้าในทุก journey

หลายคนมักสับสนระหว่าง CDP กับ CRM ซึ่งมีความต่างกันดังนี้

CDP	CRM
ดึงข้อมูลจากหลายแหล่งแบบอัตโนมัติ	เน้นข้อมูลที่ทีมเซลส์หรือเจ้าหน้าที่กรอกเอง
ใช้ได้กับทั้งลูกค้าและผู้ที่ยังไม่ได้ติดต่อโดยตรง	ใช้กับลูกค้าที่เคยมี interaction แล้วเท่านั้น
เชื่อมกับระบบโฆษณา, Email, Web, Call Center ฯลฯ ได้ทันที	จำกัดอยู่ในระบบภายในขององค์กร
มุ่งเน้นการวิเคราะห์เชิงลึกและ Segmentation	เน้นการบริหาร pipeline การขายและบริการลูกค้า

ทำไม Data Chaos จึงเป็นปัญหาใหญ่ในธุรกิจการศึกษา?

ธุรกิจการศึกษายุคใหม่ โดยเฉพาะโรงเรียนกวดวิชา, มหาวิทยาลัยเอกชน หรือสถาบันอบรมต่างๆ มักมีช่องทางการติดต่อผู้สนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

- แบบฟอร์มลงทะเบียนจาก Open House

- แชทจาก Facebook หรือ LINE OA

- โทรศัพท์เข้ามาสอบถาม

- การกรอกข้อมูลในเว็บไซต์

- การกดโฆษณา Facebook / Instagram

ปัญหาคือ “ข้อมูลกระจัดกระจาย” และ “ไม่มีภาพรวมที่แม่นยำของผู้เรียนแต่ละคน” ทำให้

- เจ้าหน้าที่ติดต่อผิดคน/ผิดช่องทาง

- ส่งข้อมูลซ้ำซ้อนหรือไม่ตรงกับความสนใจ

- ยากต่อการติดตามผลว่าผู้เรียนสมัครจริงหรือไม่

CDP คือคำตอบของ Data Chaos จริงหรือ?

คำตอบคือ “จริง ถ้าคุณวางระบบอย่างถูกต้อง”

จากรายงาน Thailand’s MarTech Report 2025 ระบุว่า CDP คือเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจสูงในประเทศไทย โดยเฉพาะในหมวดหมู่ ข้อมูลและการเชื่อมต่อระบบ (Data Integration) ซึ่งผู้ใช้งานมองว่ามีความสำคัญสูงถึง 92%

CDP ที่นิยมใช้ เช่น

- Segment (โดย Twilio): เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้าง real-time audience segmentation และสามารถเชื่อมต่อกับระบบโฆษณาหรือ Marketing Automation อย่าง HubSpot ได้อย่างง่ายดาย

- Treasure Data: รองรับการทำงานกับ Big Data ในระดับองค์กรใหญ่ มีการเชื่อมต่อกับช่องทางดิจิทัลและ POS แบบครบวงจร

ทั้งสองแพลตฟอร์มรองรับการเชื่อมต่อกับ Facebook Ads, LINE OA, Call Center, Website, Google Analytics ได้แบบ Real-time

shutterstock_2128363706

วิธีการเชื่อมข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าสู่ CDP

CDP ที่ดีจะมีระบบเชื่อมต่อ (API) และ event tracking ที่สามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น

- Facebook Lead Ads → เชื่อมผ่าน API หรือใช้ Zapier / HubSpot integration

- LINE OA → ใช้ CDP Partner เช่น Ourgreenfish ร่วมกับ LINE CRM

- Call Center → บันทึกข้อมูลและ tag ผู้เรียนลงใน CDP โดยอิงจากเบอร์โทร

- Open House ลงทะเบียน → ฟอร์มที่เชื่อมกับ CDP โดยตรง เช่น ผ่าน Typeform, HubSpot Form หรือ Google Form

ตัวอย่างระบบของบริษัท Ourgreenfish ใช้ Segment และ Treasure Data เป็น CDP หลัก เชื่อมต่อกับ CRM อย่าง HubSpot และระบบ LINE CRM ทำให้ทีม Admission หรือ Marketing เห็นข้อมูลแบบรวมศูนย์และส่งการสื่อสารได้อย่างแม่นยำ

CDP ไม่ใช่แค่ “เก็บข้อมูล” แต่เป็น “หัวใจของการตลาดการศึกษา”

ในยุคที่การแข่งขันด้านการศึกษาสูงขึ้น CDP ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยีเก็บข้อมูล แต่คือระบบที่ช่วยให้

- เข้าใจความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน

- สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization)

- วางแผนการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation)

- ติดตาม ROI ได้อย่างแม่นยำ

ดังนั้น ธุรกิจการศึกษาที่ต้องการก้าวข้าม Data Chaos และเปลี่ยนเป็นการเติบโตแบบ Data-driven ควรพิจารณา CDP เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของการตลาดในปี 2025 เป็นต้นไป

อ้างอิง

HubSpot. (2025). The State of Marketing 2025 : Data-driven growth tactics and emerging trends to guide marketers into an AI-first business landscape. Retrieved from https://www.hubspot.com/state-of-marketing
Contentshifu. (2025). Thailand’s MarTech Report 2025. Retrieved from https://contentshifu.com/resource/thailands-martech-report-2025/

อ่านบทความเพิ่มเติม : ทำไมการเติบโตของ CUSTOMER DATA PLATFORM (CDP) ถึงสำคัญต่อธุรกิจ?