Pricing Strategy การตั้งราคาเพื่อชิงความได้เปรียบทางการแข่งขัน

Pricing Strategy คือการกำหนดราคาสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน, คุณค่า (value), และการตั้งตำแหน่งทางการตลาด (market positioning) การกำหนดราคาที่เหมาะสมมีผลต่อกำไร, การเติบโต, ยอดขาย, และความพึงพอใจของลูกค้า

ประเภทของ Pricing Strategy

1. Premium Pricing - การตั้งราคาสูงเพื่อสะท้อนคุณภาพหรือความหรูหรา เช่น นาฬิกา Rolex, รถยนต์ Bentley
2. Penetration Pricing - การตั้งราคาต่ำเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงเปิดตัว เช่น การลดราคาในช่วงเทศกาลของสายการบิน
3. Economy Pricing - การตั้งราคาต่ำเพื่อเน้นปริมาณการขาย เช่น ผลิตภัณฑ์ซักผ้า Tide
4. Skimming Pricing - การตั้งราคาสูงในช่วงแรกแล้วลดลงเมื่อมีคู่แข่งเข้ามาในตลาด เช่น สมาร์ทโฟนใหม่จาก Apple
5. Freemium - การให้บริการพื้นฐานฟรี และเรียกเก็บค่าบริการสำหรับฟีเจอร์พิเศษ เช่น Dropbox, Trello
6. Psychological Pricing - การตั้งราคาให้ดูเหมือนถูก เช่น การตั้งราคา $9.99 แทน $10.00
7. Dynamic Pricing - การเปลี่ยนแปลงราคาตามความต้องการของตลาด เช่น ตั๋วเครื่องบินที่มีราคาต่างกันในแต่ละเวลา
8. Value-Based Pricing - การตั้งราคาตามมูลค่าที่ลูกค้ามองเห็น เช่น แบรนด์เสื้อผ้าดีไซน์เนอร์ที่ขายในราคาสูง
9. Cost-Plus Pricing - การตั้งราคาจากต้นทุนแล้วบวกกำไร เช่น ราคาของผลิตภัณฑ์ที่รวมค่าแรงและค่าวัตถุดิบ
10. Marginal-Cost Pricing - การตั้งราคาที่รวมต้นทุนในการผลิตเพิ่มเติม เช่น การลดราคาสินค้าที่เหลืออยู่ในคลังสินค้า
11. Odd-Even Pricing - การตั้งราคาให้ดูเหมือนถูกกว่าที่เป็น เช่น การตั้งราคา $19.99 แทน $20.00
12. Loss-Leading Pricing - การตั้งราคาต่ำเพื่อล่อให้ลูกค้าเข้าร้านและซื้อสินค้าราคาเต็ม เช่น การลดราคานมในซุปเปอร์มาร์เก็ต
13. Bundle Pricing - การตั้งราคารวมกันหลายๆ สินค้าในราคาพิเศษ เช่น การขายพ่วงผลิตภัณฑ์หลายๆ ชิ้น

ข้อพิจารณาในการตั้ง Pricing Strategy

• ต้นทุน (Cost): การรวบรวมข้อมูลทางการเงินเช่นต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร
• ลูกค้า (Customer): การพิจารณาความต้องการและความยินดีในการจ่ายของลูกค้า
• คู่แข่ง (Competitors): การวิจัยราคาของคู่แข่ง
• ตำแหน่งทางการตลาด (Market Position): การตัดสินใจว่าต้องการวางตำแหน่งในตลาดแบบใด
• กำไร (Profit): การกำหนดว่ากำไรที่ต้องการอยู่ที่ระดับใด

Pricing Strategy เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มกำไรและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ การเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และเป้าหมายทางธุรกิจจะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความเพิ่มเติม : สรุป AGRITECH BUSINESS MODELS