6 กลยุทธ์การขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2024

ในยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทุกปีจะมีแนวโน้มและกลยุทธ์การขายใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปี 2024 ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เราได้เห็นกลยุทธ์การขายบางอย่างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งจากความสำเร็จในการสร้างการมีส่วนร่วมและผลตอบแทนที่คุ้มค่า กลยุทธ์การขายที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด ในปี 2024 นี้ มีกลยุทธ์การขายบางประการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงกับลูกค้า และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค

6 กลยุทธ์การขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2024

1. การขายผ่านอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing)

การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์เติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในปี 2024 ด้วยการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้โซเชียลมีเดียและผู้บริโภคที่ต้องการความใกล้ชิดและส่วนตัวมากขึ้น อินฟลูเอนเซอร์ก็กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมประสานการสื่อสารของแบรนด์เข้ากับผู้บริโภค

ในปี 2024 เราจะเห็นว่าอินฟลูเอนเซอร์จะมีบทบาทมากกว่าการเป็นเพียงผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ พวกเขาจะร่วมสร้างแคมเปญการตลาดและมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากขึ้น เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ ตระหนักถึงคุณค่าของการสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมายและสามารถสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ดีกว่าการโฆษณาแบบเดิม

นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ จะเริ่มมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับอินฟลูเอนเซอร์แทนที่จะเป็นแค่แคมเปญแบบครั้งคราว เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความผูกพันระยะยาวกับผู้บริโภคได้ดีกว่า การเลือกและจับคู่อินฟลูเอนเซอร์กับแบรนด์อย่างถูกต้องจึงมีความสำคัญมากในปี 2024

2. การขายผ่านวิดีโอสั้น (Short Video Marketing)

คอนเทนต์วิดีโอสั้นๆ ที่น่าสนใจและเข้าใจง่ายกำลังได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในปี 2024 ผู้บริโภคมีความต้องการคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ และเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น TikTok, Instagram Reels และ YouTube Shorts ตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

สถิติแสดงให้เห็นว่าในปี 2024 ผู้บริโภคใช้เวลาดูวิดีโอสั้นถึง 2 ชั่วโมงต่อวันเฉลี่ย ทำให้แบรนด์หันมาใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อสร้างการรับรู้ ความผูกพัน และการแปลงค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถสื่อสารได้อย่างตรงประเด็น กระชับ และน่าสนใจ

การตลาดโดยใช้วิดีโอสั้นในปี 2024 จะมุ่งเน้นไปที่การเล่าเรื่องราวและการสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจ การใช้อินฟลูเอนเซอร์และผู้มีชื่อเสียงร่วมถ่ายทำก็เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงฐานผู้ติดตามที่กว้างขวางและได้รับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น

3. การใช้เทคโนโลยี AI ในการปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้า (Experiential Marketing)

ในโลกที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ การให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำและเหนือความคาดหมายกับลูกค้าถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่างและความภักดีต่อแบรนด์ ด้วยเหตุนี้ การตลาดโดยใช้ประสบการณ์เสมือนจริงจึงได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2024

แบรนด์ต่างๆ นำเสนอประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจำลองสถานการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ การให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ในสภาพแวดล้อมจำลอง หรือการจัดกิจกรรมพิเศษที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์และการสร้างช่วงเวลาพิเศษกับลูกค้า

เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น วิดีโอ 360 องศา เสมือนจริงเสริม (AR) และเสมือนจริงเสมือน (VR) ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ช่วยสร้างความรู้สึกเสมือนอยู่ในสถานที่จริงและสามารถสัมผัสประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ ได้อย่างแท้จริง

นอกจากการสร้างความประทับใจและเพิ่มการรับรู้แบรนด์แล้ว ประสบการณ์เสมือนจริงยังช่วยทำให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและปฏิกิริยาของลูกค้าได้อีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

4. การใช้ประโยชน์จาก Point and Conquer Marketing

เทคโนโลยีระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และอุปกรณ์พกพาที่ซับซ้อนมากขึ้นได้นำมาสู่การเติบโตของ Point and Conquer Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์การใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของผู้บริโภคในการจัดส่งข้อมูลโฆษณาที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ

ในปี 2024 แบรนด์ชั้นนำจะใช้เทคโนโลยีพื้นที่ขั้นสูงเพื่อระบุและกำหนดตำแหน่งกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับร้านค้าปลีกหรือสถานที่สำคัญของพวกเขา แล้วจัดส่งข้อเสนอพิเศษ คูปอง หรือข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไปยังอุปกรณ์พกพาของผู้บริโภคกลุ่มนั้นแบบเรียลไทม์

การโฆษณาแบบเจาะจงนี้มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างการรับรู้และกระตุ้นการซื้อ เนื่องจากเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความชอบและสถานที่ตั้งของผู้บริโภคอย่างแม่นยำ ทำให้โฆษณามีความโดดเด่นมากกว่าข้อความจากแบรนด์อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม Point and Conquer Marketing จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคก่อนในการติดตามข้อมูลพื้นที่ เนื่องจากเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนเรื่องความเป็นส่วนตัว แบรนด์จึงควรใช้กลยุทธ์นี้อย่างระมัดระวังและโปร่งใสให้มากที่สุด

5. การขายผ่านอีเมลเฉพาะบุคคล (Hyper-Personalized Email Marketing)

ในปี 2024 แบรนด์ชั้นนำจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลพฤติกรรมและประวัติของลูกค้าอย่างเต็มที่ในการสร้างอีเมลการตลาดที่เป็นส่วนตัวและตรงตามความสนใจของผู้รับอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ด้วยการวิเคราะห์ดาต้าลึกและใช้เทคนิคปัญญาประดิษฐ์ อีเมลสามารถปรับเนื้อหา ข้อความโปรโมชัน และการออกแบบให้สอดคล้องกับรสนิยม ประวัติการซื้อ และขั้นตอนของการตัดสินใจซื้อของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ

การทำอีเมลเฉพาะบุคคลในระดับนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ดีเยี่ยม เพิ่มอัตราการเปิดอ่านและคลิกมากกว่าการส่งข้อความมวลรวมตามดั้งเดิม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างความผูกพันและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าเพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การตลาดโดยใช้อีเมลเฉพาะบุคคลนั้นต้องการการจัดการข้อมูลอย่างระมัดระวังและการวิเคราะห์ข้อมูลลึกซึ้ง รวมถึงการใช้เครื่องมือออโตเมชันการตลาดที่ซับซ้อนในการดำเนินการด้วย ดังนั้นจึงเป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับแบรนด์ขนาดเล็ก

6. การตลาดดิจิทัลออร์แกนิกที่เน้นการสร้างคุณค่า (Value-Driven Organic Marketing)

ในขณะที่แบรนด์จำนวนไม่น้อยยังคงใช้งบประมาณการตลาดจำนวนมากเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์และบริการของตนอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีแนวโน้มการตลาดในรูปแบบอื่นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2024 นั่นคือการตลาดดิจิทัลออร์แกนิกที่เน้นการสร้างคุณค่า

กลยุทธ์นี้เน้นการสร้างเนื้อหาและประสบการณ์ที่มีคุณภาพและมีคุณค่าต่อผู้บริโภค แทนที่จะเป็นการโปรโมตขายสินค้าตรงๆ เช่น การให้คำแนะนำและเคล็ดลับที่มีประโยชน์ ความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรม หรือแม้แต่บทความบันเทิงที่น่าสนใจ

ด้วยวิธีนี้ แบรนด์จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาได้ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มการรับรู้แบรนด์และยอดขายในระยะยาว

สื่อดิจิทัลออร์แกนิกที่ได้รับความนิยมสูงในปี 2024 ได้แก่ บล็อก, บทความบนเว็บไซต์, วิดีโอที่มีคุณค่าบนยูทูบ, แคมเปญในโซเชียลมีเดีย และการจัดกิจกรรมเสมือนจริงเพื่อสร้างประสบการณ์ การทำการตลาดในรูปแบบนี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายามสูงกว่าการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างตรงจุดและสร้างความผูกพันระยะยาวนั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การตลาดดิจิทัลออร์แกนิกที่สร้างคุณค่าก็เป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและผูกพันระยะยาวกับผู้บริโภค แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในปี 2024 จะต้องลงทุนในการสร้างเนื้อหาและประสบการณ์ที่มีคุณภาพสูง ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การวางแผนและประสานงานกลยุทธ์การตลาดเหล่านี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลงตัว การใช้ Omnichannel Strategy การใช้ Social Commerce และเทคนิคที่แตกต่างกันไปนั้นจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละแบรนด์ด้วย

นอกจากนี้ การเลือกใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่เหมาะสมและการบูรณาการแพลตฟอร์มต่างๆ เข้าด้วยกันก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้สามารถจัดการแคมเปญ วิเคราะห์ผลลัพธ์ และปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยสรุป ปี 2024 เป็นปีแห่งนวัตกรรมและการปรับตัวอย่างต่อเนื่องในวงการการตลาด แบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์การเชื่อมต่อที่น่าจดจำและมีคุณค่าต่อผู้บริโภค พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายและปรับกลยุทธ์การขายให้ตรงจุดมากที่สุด เพียงเท่านี้ก็จะทำให้แบรนด์สามารถตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน