ใครว่า startup ที่ทันสมัยอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องสนใจ digital transformation? บทความนี้จะทำให้รู้ว่ามีหลายสิ่งที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจต้องเรียนรู้จากการเปลี่ยนแปลงในด้านนี้
5 สิ่งที่ Startup ควรเรียนรู้จาก Digital Transformation
1. ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลง คือ ผู้คน
เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งสำคัญคือคุณไม่ควรตกอยู่ในกับดักของเทคโนโลยีด้วยการให้ค่ากับเทคโนโลยีมากกว่าทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในทุกธุรกิจนั้นคือ: คน เพราะคนคือสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เทคโนโลยี ในการเริ่มต้นคุณต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือกผู้ก่อตั้ง ผู้จัดจำหน่าย ผู้ให้บริการ ผู้มีความสามารถและพันธมิตร โดยต้องอาศัยทักษะในการตัดสินใจการเลือกคนผิดพลาด แม้จะมีฝีมือและความเข้าใจในเทคโนโลยี พวกเขาก็อาจจะสามารถทำลายบริษัทจากภายในจนถถึงภายนอกได้ ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตรต่อธุรกิจและความไม่เคารพกฏในการเข้าสู่ระบบดิจิตอล คุณจะไม่สามารถแข่งขันได้เลยคุณต้องเปลี่ยนพนักงานที่ไม่สามารถปรับพฤติกรรมของตนได้อยู่ตลอดเวลา
Digital Transformation คืออะไร…ใช้ทำอะไรได้บ้างในโลกธุรกิจ
2. ใช้ความยืดหยุ่นในการนำไปสู่ความสำเร็จ
พนักงานในอุดมคติของบริษัท การเริ่มต้นธุรกิจ ต้องมีความคล่องตัวและยืดหยุ่น รวมถึงมีความกระตือรือร้นที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง การเริ่มต้นธุรกิจยังไม่ได้มีแรงงานหรือสภาพคล่องในการทำงานมากพอที่จะกำหนดงานให้แก่พนักงานแบบ เฉพาะเจาะจงได้ อย่างไรก็ตามธุรกิจสมัยใหม่กลับมีแนวคิดที่จะรวบรวมพนักงานที่การทำงานจะมีผลต่อธุรกิจแบบองค์รวมมากกว่าพนักงานที่มุ่งเน้นการทำงานเพียงด้านเดียว ความสามารถในการปรับตัวมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจ และบริษัทที่มีขนาดใหญ่จำนวนมากกำลังพยายามปรับตัวให้เข้ากับแรงงานที่มีความยืดหยุ่นทางด้านทักษะและความคล่องตัวในการทำงานคล้ายกับบริษัท startup ความว่องไว หมายถึง การป้องกันความเคยชิน อย่าปล่อยให้พนักงานของคุณตกอยู่ในกิจวัตรแบบเดิมๆ กระตุ้นให้พนักงานค้นพบวิธีใหม่ ๆ จากการทำงานในส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจเพื่อส่งเสริมการเติบโตจากภายใน เพราะความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับบริษัท startup ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้นำยืดหยุ่นไม่พอที่จะปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้
3. วัฒนธรรมองค์กรควรเป็นที่เข้าใจแก่พนักงานทุกคน
วัฒนธรรมองค์กรควรสะท้อนถึงคุณค่าหลักที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณเริ่มต้นธุรกิจและกำหนดวิสัยทัศน์ของคุณในอนาคต เมื่อคุณวางพนักงานลงในระบบของการเปลี่ยนแปลง พวกเขาอาจสูญเสียวิสัยทัศน์ในภาพรวมของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคุณมุ่งเน้นไปที่ความคล่องตัวมากกว่าทักษะความสามารถพิเศษ พนักงานจะสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ถึงอีกแง่มุมของบริษัทได้มากขึ้น เมื่อนั้นสาส์นจากองค์กรจะสะท้อนถึงความเป็นตัวตนของธุรกิจได้มากกว่าเดิม
4. ให้คุณค่ากับข้อมูล แต่ยังคงความเกี่ยวข้องเอาไว้
ข้อมูลเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีค่าที่สุดในโลก ทุกธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมมีข้อมูลของลูกค้าและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้วิธีใช้และตีความให้ออกว่าคุณต้องการให้ข้อมูลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในการตลาดของคุณหรือไม่ เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกค้าและพฤติกรรมของพวกเขาได้ตลอดเวลา รวมทั้งการติดตามแบบเรียลไทม์จะช่วยให้คุณสามารถระบุแรงจูงใจสำคัญ ๆ ในการทำการตลาดของคุณได้ข้อมูลต้องเป็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจสำคัญๆ ทั้งหมดของคุณ บริษัท Startup จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของการเก็บรวบรวมข้อมูลและการจัดเรียงข้อมูล เมื่อคุณเข้าใจถึงวิธีการเข้าถึงและดึงดูดฐานลูกค้าของคุณแล้ว บริษัทของคุณจะมีอนาคตที่สดใสในการทำกำไร
5. มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้า
บริษัทขนาดใหญ่มักจะสูญเสียการมองเห็นความสำคัญของปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานของพวกเขาและลูกค้า พวกเขามักตัดสินใจว่าวิธีนี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่แท้จริงของลูกค้า แต่แล้วพวกเขาก็จะกลับมาพยายามสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในภายหลังเพราะมันหมายถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่บริษัทขนาดใหญ่ปรารถนาที่จะมีวัฒนธรรมองค์กรอย่างบริษัท startup ก็เพราะบริษัทเหล่านั้นมีความใกล้ชิดกับลูกค้ามากกว่า พนักงานของบริษัทขนาดใหญ่มักประสบกับปัญหาในการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่พวกเขาต้องทำในชีวิตประจำวันและสิ่งที่ต้องทำเพื่อช่วยเหลือลูกค้า
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Cr. entrepreneur.com, peoplehro.com, chemanager-online.com, howng.com, nissatech.com, aasa-web.org, scommerce.com
No Comments