การตลาดแบบ Inbound Marketing จะเป็นการตลาดแบบดึงดูดลูกค้า โดยอาศัยคอนเทนท์รูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการ ซึ่งจะไม่เหมือนกับการตลาดแบบ Outbound Marketing แล้วกลยุทธ์ในการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing มีอะไรยังไงเรามาดูกัน
การตลาดแบบ Inbound Marketing ไม่จำเป็นต้องต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้ลูกค้า แต่เป็นการใช้วิธีการทำให้เป็นที่สนใจน่าสนใจ โดยการสร้างคอนเทนท์ที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ หรือแก้ไขปัญหา และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้
ขั้นตอนการกำหนดกลยุทธ์ในการทำ Inbound Marketing
ขั้นที่ 1 Attract
การเปลี่ยนจากคนแปลกหน้า (Strangers) ให้กลายมาเป็นผู้ชมของเรา (Visitors) ด้วยคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ และมีคุณค่า ซึ่งคนแปลกหน้าที่ว่านี้จะต้องเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราที่เป็นลูกค้าในอุดมคติของเราเรียกว่า Customer Persona หรือ Buyer Persona ที่ชื่นชอบผลงานหรือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่
ขั้นที่ 2 Convert
เมื่อเราได้ผู้ชมมาแล้ว (Visitors) ก็เปลี่ยนจากผู้ชมให้กลายเป็นผู้คาดหวัง (Leads) ซึ่งผู้คาดหวังในที่นี้หมายถึง จากคนที่ไม่ได้มีความต้องการที่จะซื้อสินค้าหรือบริการเลย แต่เมื่อให้ผู้ชมเกิดความสนใจและกระทำการอะไรบางอย่าง (Call to Action – CTA) เช่น การกรอกข้อมูล ชื่อ-สกุล อีเมล์ เบอร์โทร สิ่งที่ต้องการ เพื่อแลกกับ Content ที่เกี่ยวข้องและอัปเดรทข้อมูลก่อนใครจากการลงทะเบียน หรือทำ Campaign อะไรก็ตามแต่ที่สามารถทำให้ได้ข้อมูลส่วนนี้มา เช่น ลงชื่อเพื่อจองวันเวลาในการทดลองขับรถ ลงชื่อเพื่อรับของรางวัล หรือแม้แต่การกด Subscribe ก็ถือว่าเป็น Leads ได้เหมือนกัน
จากนั้นเราก็จะสามารถคัดกรองคนที่มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าที่มีโอกาสจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์เรา จากรายชื่อที่กรอกเข้ามายิ่งมีข้อมูลเยอะยิ่งดี ซึ่งจุดประสงค์ในขั้นตอนนี้ก็คือ ต้องการสร้างรากฐานรายชื่อกลุ่มผู้มุ่งหวัง คนที่มีโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าของเรา ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Lead Generation แปลได้ง่ายๆว่าคือการสร้างฐานรายชื่อของกลุ่มผู้มุ่งหวังนั่นเอง
ขั้นที่ 3 Close
เมื่อเราได้กลุ่มผู้คาดหวังมาแล้ว (Leads) สิ่งต่อไปคือการเปลี่ยนให้เขากลายมาเป็นลูกค้าเรา (Customers) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ทุกๆ แบรนด์ต่างตั้งหน้าตั้งตารออยากจะให้เกิดขึ้นก็คือการทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น เราจะนำข้อมูลจากฐานรายชื่อผู้คาดหวังที่สร้างขึ้นเอาไว้ในขั้นตอนที่ 2 เอามาใช้โดยการโทรกลับไปติดต่อ ขั้นตอนนี้เราจะเรียกว่า Customer Relationship Management หรือ CRM คือการสานความสัมพันธ์ สอบถามข้อมูล และนำเสนอสิ่งที่เขาต้องการ ไปจนกระทั่งเกิดการซื้อขายกันในที่สุด
เช่น ลูกค้าต้องการทำเกี่ยวกับ Digital Marketing แต่ไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง สิ่งแรกที่ควรทำคือการถามถึงวัตถุประสงค์ในการทำที่จะทำ เพื่อที่เราจะได้หาสิ่งที่สามารถตอบโจทย์แก่กลุ่มผู้คาดหวังได้ เมื่อ Leads เห็นถึงสิ่งเรานำเสนอไปในแผนแล้วว่าสามารถตอบโจทย์ธุรกิจของเขาได้ เขาก็จะกลายเป็นลูกค้าของเรานั่นเอง
ขั้นที่ 4 Delight
การสานสัมพันธ์อันดีงาม การเปลี่ยนจากลูกค้า (Customers) ของเราให้กลายมาเป็นนักโปรโมท (Promoters) จากขั้นตอนที่แล้ว จะพบว่าเมื่อเกิดการซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Inbound Marketing จะไม่หยุดเพียงแค่การซื้อขายแล้วจบ เพราะสิ่งที่ทรงพลังกว่าการเป็นลูกค้าก็คือ การบอกปากต่อปากของลูกค้า และที่ดีไปกว่านั้นคือการที่เราสามารถทำให้คนกลุ่มเดิมของเรา ซื้อสินค้าและใช้บริการของเราต่อไป
“การหาลูกค้าใหม่ยากกว่า การรักษาลูกค้าเก่า”
ความแตกต่างระหว่าง QUALIFIED LEAD, COLD LEAD และ WARM LEAD คืออะไร มาทำความรู้จักกัน
อยากทำความรู้ใช่มั้ยว่า บริษัทของคุณเหมาะกับการทำ Inbound Marketing หรือไม่สามารถเช็คได้จาก E-book เล่มนี้ได้เลย
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ
เริ่มต้นทำ INBOUND MARKETING อย่างไร?
No Comments