เทรนด์ Digital Marketing 2019 ยังคงเป็นที่น่าจับตามอง ซึ่งในปี 2018 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป กระแสของการทำ Digital Marketing ได้เติบโตเป็นอย่างมาก ยิ่งเป็นการตอกย้ำ ทำนายอนาคตว่าปี 2019 ที่กำลังจะถึงนี้ กระแส Digital Marketing จะเป็นอย่างไร มีคลื่นไหนพร้อมที่จะเกิดแล้วบ้าง
คอนเทนต์ยังคงเป็น King เสมอ สำหรับเทรนด์ Digital Marketing 2019
คอนเทนต์ยังคงเป็นเทรนด์การทำการตลาดออนไลน์ในปี 2019 ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์วิดีโอ รูปภาพ หรือบทความก็ตาม แต่ต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เน้นการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่เป็นคอนเทนต์ของตัวเอง สามารถแก้ไขปัญหาที่ผู้เสพคอนเทนต์เจออยู่ ความแตกต่างนี้เองจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คอนเทนต์มีอิทธิพลที่เหนือกว่าโฆษณาโดยทั่วไป เพราะว่าผู้เสพจะเชื่อคอนเทนต์มากกว่าการโฆษณา
ดังนั้นการสร้างคอนเทนต์ จึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจให้มาก เพื่อตอบโจทย์กับคนเสพคอนเทนต์ที่อาจเป็นลูกค้าของเราได้ในอนาคต พยายามหลีกเลี่ยงคอนเทนต์คุณภาพต่ำ หรือการเน้นเฉพาะปริมาณ
Influencer ระดับดาราลงมาลุยทำคอนเทนต์ของตัวเอง
แน่นอนว่า Influencer โดยทั่วไปจำเป็นต้องทำคอนเทนต์อยู่แล้ว แต่ Influencer ทรงพลังระดับดาราแม่เหล็ก ยังต้องมาทำคอนเทนต์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น
- มาริโอ้ เมาเร่อ กับช่อง Work with Mario
- ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ช่อง เจ้าป่าเข้าเมือง
- แดน แพทตี้ กับ แดนแพทตี้ Reality
- เวย์ ไทเทเนี่ยม กับ DaBoy Way
จะเห็นได้ว่าดารานักร้องระดับแม่เหล็ก กลับมาลุยตลาดคอนเทนต์เอง ไม่จำเป็นต้องรองานจ้างละคร หรือทำเพลงอีกต่อไป ข้อดีคือรับเงินค่าโฆษณาได้เต็ม ๆ ไม่จำเป็นต้องรองานเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ตัวเองมีกระแสที่ถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลา เหมือนเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับดาราเองด้วย ซึ่งจะช่วยให้ดึงเม็ดเงินโฆษณาจากแบรนด์ได้ดีกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็น Influencer หรือ Micro Influencer ในปี 2019 ต่างมีจุดแข็งที่คล้ายกัน คือจุดแข็งของ Influencer ที่เหนือกว่าแบรนด์คือ คนเชื่อที่ Influencer มากกว่าแบรนด์พูดเอง แต่อาจแตกต่างกันตรงที่ Influencer ยิ่งมีผู้ติดตามมากเท่าไร ยิ่งมีอิทธิพลทางความคิดน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นการที่แบรนด์จะจ้างให้เกิดฮิทธิพลทางความคิด หรือกระแสคงต้องเลือกให้ดี
Inbound Marketing การตลาดแบบดึงดูด
ถีงแม้ว่าในโลกของโฆษณาจะเต็มไปด้วยการผลักการส่งสารออกไป (Outbound Marketing) แต่ก็มีการตลาดแบบหนึ่งที่คอยเติบโตขึ้น นั่นคือ Inbound Marketing หลักการคือการดึงให้คนเข้ามายังเว็บไซต์โดยใช้คอนเทนต์เป็นหลัก ใช้แนวคิด Stranger > Visitor > Lead > Customer > Promoter ซึ่งคอนเทนต์นั้นจะต้องใช้หลักการ SEO สำหรับการลงเว็บไซต์ เพื่อเปลี่ยนจาก Stranger > Visitor จากนั้นจึงเปลี่ยนจาก Visitor ด้วยการ Capture Lead ด้วยคอนเทนต์ที่น่าสนใจ นั่นคือขั้นตอนของ Visitor > Lead จากนั้นจำเป็นที่ต้องใช้ระบบ CRM เพื่อเตรียมให้ Lead ที่ได้พร้อมซื้อสินค้าและบริการ Lead > Customer สุดท้ายเมื่อลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานสินค้าและบริการ ก็พร้อมที่จะบอกต่อ Customer > Promoter
ประโยชน์ของการทำ Inbound Marketing และธุรกิจแบบไหนที่ควรทำ
ซึ่งการตลาดแบบ Inbound Marketing นี้เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะแบรนด์ธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ สุขภาพและความงาม ยานยนต์ การศึกษา หรือสินค้าบริการที่มีมูลค่า ซึ่งโดยธรรมชาติของคนที่ซื้อสินค้าบริการเหล่านี้ จำเป็นต้องค้นคว้าหาข้อมูลเบื้องต้นในอินเทอร์เน็ตก่อนเสมอ ดังนั้น Inbound Marketing ก็เติบโตตามไปด้วย
Marketing Automation ให้ระบบช่วยทำการตลาด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ระบบ Marketing Automation อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด แต่ไม่ค่อยได้รับการพูดถึงมากนัก ซึ่งในปี 2019 Marketing Automation จะกลายเป็นส่วนเติมเต็มของ Digital Marketing ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณเคยอ่านอีเมล์ข่าวสารโปรโมชันที่ส่งมาเป็นประจำในแต่ละเดือน, มี SMS โปรโมชันจากบัตรเครดิตทุกครั้งที่คุณไปเดินห้าง หรือเข้าไปช้อปปิ้งสินค้าบางอย่างใน Lazada หรือ Shopee แล้วเจอโฆษณาต่าง ๆ ที่คล้ายกับของที่เราหยิบใส่ตะกร้าไป นี่แหละคือระบบ Marketing Automation ที่เราสัมผัสกันในชีวิตประจำวัน
ซึ่งปกติแล้วระบบ Marketing Automation จะเป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มที่ทำงานอย่างอัตโนมัติ แต่ก่อนที่จะทำงานได้ จะต้องมีการเซต Workflow ก่อน ซึ่งความยากง่ายของ Workflow ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการวางแผนเป็นหลัก โดยข้อดีของระบบ Marketing Automation ที่เห็นได้ชัดคือ
- ลดการใช้ทรัพยากรมนุษย์
- ประหยัดเวลาได้มาก
- ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากมนุษย์ได้
- นำข้อมูลไปวิเคราะห์ทางการตลาดต่อได้
No Comments