Emotional Analytics การวัดอารมณ์ลูกค้าจาก Data เพื่อยกระดับประสบการณ์

Audio Version
Emotional Analytics การวัดอารมณ์ลูกค้าจาก Data เพื่อยกระดับประสบการณ์
11:36

เจ้าของธุรกิจหลายคนอาจคุ้นเคยกับการวัดผลจากตัวเลขและพฤติกรรมแบบเดิม เช่น ยอดขาย หรือความพึงพอใจโดยรวม (NPS/CSAT) อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก HubSpot ชี้ให้เห็นว่าแนวคิดทางการตลาดได้เปลี่ยนจาก Business-to-Business (B2B) หรือ Business-to-Consumer (B2C) ไปสู่ยุค B2H (Business-to-Human) อย่างสมบูรณ์

แก่นแท้ของ B2H คือการสร้างความสัมพันธ์กับ "มนุษย์" ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วย "อารมณ์" เป็นหลัก ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้จึงไม่ได้ขายเพียงแค่สินค้าหรือบริการ แต่ขาย "ความรู้สึก" ที่ทำให้ผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วมด้วย เพราะลูกค้าจดจำว่าแบรนด์ทำให้พวกเขารู้สึกอย่างไร ยาวนานกว่าที่พวกเขาจำข้อความที่แบรนด์สื่อสาร  

ทำไมการวัด "พฤติกรรม" จึงไม่เพียงพออีกต่อไป

Emotional Analytics (EA) คือศาสตร์ที่นำเอาจิตวิทยาและเทคโนโลยีมาหลอมรวมกัน เพื่อวัดผล ตีความ และปรับปรุงอารมณ์ของมนุษย์ผ่านข้อมูลแบบเรียลไทม์ แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของตัวชี้วัดแบบเดิมที่เจ้าของธุรกิจคุ้นเคย

  • ตัวเลขซ่อนความจริง: ตัวชี้วัดความพึงพอใจแบบเดิมมักวัดได้เพียงสิ่งที่ลูกค้าคิด (Opinion) แต่ตัวเลขเดียวกันอาจมีความหมายทางอารมณ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น ลูกค้าสองคนอาจให้คะแนน "พอใจ" เหมือนกัน แต่คนหนึ่งรู้สึกพอใจเล็กน้อย แต่อีกคนอาจรู้สึกโล่งใจที่มันไม่ได้แย่กว่าที่คิด การใช้ EA ช่วยให้แบรนด์มองเห็นเบื้องหลังตัวเลขเพื่อเข้าใจ "แรงผลักดันทางอารมณ์" ที่แท้จริง   
  • ผลตอบแทนทางอารมณ์ (Emotional ROI): การสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับลูกค้าเป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลกำไรสูง ลูกค้าที่มีความผูกพันทางอารมณ์กับแบรนด์ (Emotionally Connected) มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายสูงกว่าถึง 2 เท่าต่อครั้ง และมีโอกาสสูงกว่า 2-3 เท่าในการแนะนำผู้อื่น พวกเขายังเป็นกลุ่มที่ให้อภัยแบรนด์ได้ง่ายกว่าเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น

เจาะลึกความแตกต่าง : จาก Sentiment Analysis สู่ Emotional Pattern

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังพิจารณานำ AI มาใช้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างเครื่องมือพื้นฐานกับการวิเคราะห์เชิงลึกที่เรียกว่า Emotional Analytics

Sentiment Analysis (SA): การวัดขั้วอารมณ์แบบพื้นฐาน

Sentiment Analysis เป็นการวัดพื้นฐานที่ช่วยตัดสินว่าข้อความใด ๆ ที่แสดงความคิดเห็นนั้นเป็นไปในทิศทาง "บวก" "ลบ" หรือ "เป็นกลาง" เครื่องมือนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการติดตามภาพรวมชื่อเสียงของแบรนด์ (Social Media Monitoring)   

แต่ปัญหาคือการจำแนกแค่บวกหรือลบนั้นไม่เพียงพอต่อการดำเนินการทางธุรกิจ เพราะไม่สามารถระบุได้ว่า "ลบ" นั้นเกิดจากความโกรธ หรือความผิดหวัง

shutterstock_2234845083

 

Emotional Detection Analysis (EDA): การจำแนกอารมณ์เฉพาะเจาะจง

Emotional Analytics ก้าวข้ามขีดจำกัดของ SA ด้วยการทำ Emotion Detection Analysis (EDA) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เพื่อระบุและจำแนกอารมณ์ของผู้เขียนข้อความได้อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากทฤษฎีทางจิตวิทยา เช่น ความสุข (Joy), ความโกรธ (Anger), ความเศร้า (Sadness), ความกลัว (Fear) หรือความวิตกกังวล (Anxiety) ซึ่งอาจวัดได้ 6-8 ระดับ    

การแยกแยะอารมณ์เฉพาะเจาะจงมีความสำคัญต่อกลยุทธ์ เพราะ "ลบ" ที่เกิดจากความโกรธ (Anger) ต้องการการแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนทันที ต่างจาก "ลบ" ที่เกิดจากความเศร้า (Sadness) ซึ่งอาจต้องการการปลอบโยนหรือความเห็นอกเห็นใจ   

นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ที่เรียกว่า Aspect-based Sentiment Analysis (ABA) เทคนิคนี้ช่วยให้ AI สามารถวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้ใช้ในแต่ละองค์ประกอบ หรือประเด็นเฉพาะได้อย่างแม่นยำ เช่น หากลูกค้าบอกว่า “ฉันชอบคุณภาพสินค้ามาก แต่การจัดส่งล่าช้าและน่าหงุดหงิด” ระบบ ABA จะแยกวิเคราะห์ได้ว่า แง่มุม "คุณภาพสินค้า" คือความคิดเห็นเชิงบวก ในขณะที่แง่มุม "บริการจัดส่ง" คือความคิดเห็นเชิงลบ    

EA จึงเป็นการเปลี่ยนผ่านจากการวินิจฉัยความไม่พอใจโดยทั่วไป ไปสู่การระบุความล้มเหลวในการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์


บทบาทของ AI ตรวจจับสัญญาณความต้องการที่ซ่อนอยู่ (Intent Detection)

หัวใจสำคัญของการทำ Emotional Analytics คือการใช้เทคโนโลยี AI และ Natural Language Processing (NLP) เพื่อจัดการกับ Unstructured Data ที่มีปริมาณมหาศาลจากช่องทางต่าง ๆ เช่น รีวิว, อีเมล และแชท ทำให้ธุรกิจสามารถเปลี่ยนจากการตั้งรับไปสู่การคาดการณ์เชิงรุกได้

My CTA (15 July 2024 9:59)

การจัดลำดับความเร่งด่วนทางอารมณ์ใน Customer Service

ในระบบบริการลูกค้า (Customer Service) AI ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ตอบคำถาม แต่ทำหน้าที่เป็นตัวกรองอารมณ์ Machine Learning Algorithm สามารถจัดลำดับความสำคัญของบทสนทนาตามความเร่งด่วนที่ได้จากระดับอารมณ์    

ยกตัวอย่างเช่น หาก AI ตรวจพบข้อความของลูกค้าที่แสดงความโกรธ (Anger) หรือความหงุดหงิดสูงเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคในการติดตั้งสินค้า อัลกอริทึมจะสามารถแยกโพสต์ดังกล่าว และส่งตรงไปยังผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคทันที การตอบสนองที่แม่นยำและรวดเร็วนี้ช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะยกเลิกใช้บริการได้อย่างมาก

Emotional AI ในการขายและการสร้างความผูกพัน

แม้แต่ในการขายที่มีมูลค่าสูง เช่น B2B Emotion AI ก็เข้ามามีบทบาทในการเพิ่ม Empathy (ความเห็นอกเห็นใจ) โดยเครื่องมือสามารถวิเคราะห์น้ำเสียง สีหน้า หรือการเลือกใช้คำ เพื่อจับสัญญาณทางอารมณ์ เช่น ความลังเล หรือความกังวล    

หาก AI ตรวจพบสัญญาณเหล่านี้ ทีมขายสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การนำเสนอทันทีเพื่อตอบสนองต่ออารมณ์นั้นโดยตรง  การทำความเข้าใจและตอบสนองต่อสัญญาณทางอารมณ์เหล่านี้ จะสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มอัตรา Conversion ได้


ตัวชี้วัดแห่งอนาคต : Emotion-to-Action Rate (E-A Rate)

หลังจากที่ธุรกิจสามารถประเมินและวัดอารมณ์ได้อย่างละเอียด ขั้นตอนที่สำคัญถัดไปคือการนำอารมณ์เหล่านั้นมาเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ ซึ่งนำไปสู่การกำหนดตัวชี้วัดผลงานหลัก (KPI) ชุดใหม่ที่มีอารมณ์เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน

การทำนาย Churn จากความหงุดหงิด (Frustration Score)

Emotional Analytics ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุและทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าที่เรียกว่า "Silent Sufferers" ซึ่งคือลูกค้าที่รู้สึกไม่พอใจอย่างมากตลอดเส้นทางการซื้อ (Customer Journey) แต่ไม่ได้แจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเปิด Ticket พวกเขาเลือกที่จะออกจากกระบวนการก่อนที่จะเกิด Conversion

การวิเคราะห์สามารถเปลี่ยนสัญญาณทางอารมณ์ที่ยากจะจับต้องได้เหล่านี้ ให้กลายเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้าง ซึ่งนำไปใช้ในโมเดลการคาดการณ์การยกเลิกบริการ (Churn Prediction Model) ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น  การที่ผู้บริหารสามารถเชื่อมโยง "ความไม่พึงพอใจ" ของลูกค้าเข้ากับผลลัพธ์ทางการเงินได้นั้น จะช่วยให้สามารถคำนวณต้นทุนที่แท้จริงของการบริการที่บกพร่องได้อย่างแม่นยำ

Emotion-to-Action Rate (E-A Rate) และ Emotional Loyalty Score

Emotion-to-Action Rate (E-A Rate) คืออัตราส่วนที่วัดว่าอารมณ์ที่ตรวจจับได้ เช่น ความตื่นเต้น หรือความหงุดหงิด ที่นำไปสู่การดำเนินการทางธุรกิจที่พึงประสงค์หรือไม่พึงประสงค์ 

  • การเพิ่ม Conversion: เมื่อพบว่าลูกค้ามีความสนใจ (Excitement) ในสินค้าบางรายการสูง การนำเสนอข้อเสนอที่มีเวลาจำกัดทันที จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น โดยอาศัยสถานะทางอารมณ์เชิงบวกนั้นเป็นแรงผลักดัน
  • การลด Bounce Rate: ธุรกิจสามารถตั้งค่าระบบให้ดำเนินการเสนอความช่วยเหลือเฉพาะบุคคล หรือข้อเสนอพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้ใช้ยังคงใช้บริการต่อไปได้ทันที ในกรณีที่ตรวจพบว่าผู้ใช้มีคะแนนความไม่พอใจ (Frustration Score) สูง

นอกจากนี้ ยังมี Emotional Loyalty Score (ELS) ซึ่งเป็น KPI ที่วัดความผูกพันทางอารมณ์ในระยะยาว ELS ช่วยให้แบรนด์ระบุลูกค้าที่มีความผูกพันทางอารมณ์สูง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่สร้าง CLV ได้สูง    

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

การจัดการความไว้วางใจในยุค Emotional Analytics

Emotional Analytics เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถ "เข้าใจ" อย่างลึกซึ้งถึงอารมณ์ที่เป็นแรงผลักดันพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยี Emotional AI มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับความรู้สึกของบุคคล เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญสูงสุดกับประเด็นด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว แจ้งลูกค้าเมื่อใช้ AI วิเคราะห์อารมณ์ ระบุวิธีการวิเคราะห์และการใช้ข้อมูลทางอารมณ์ในนโยบายความเป็นส่วนตัว ความโปร่งใสในการใช้ข้อมูลสร้างความรู้สึกว่าลูกค้าได้รับการเอาใจใส่ ซึ่งเป็นรากฐานสู่ความภักดีของลูกค้าที่ยั่งยืนในยุค B2H

อ้างอิง : 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 8 แนวทางหลักใน การทำ Digital Marketing พร้อมวิธีการใช้งาน

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast