Scale Up Business ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดด้วย MarTech Stack

หากวันนี้องค์กรของคุณมีความต้องการเร่งประสิทธิภาพการทำการตลาดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ง่าย และรวดเร็ว รวมถึงประหยัดงบประมาณในการดำเนินงาน เราสามารถขยับขยายหรือปรับปรุงกระบวนการทำงานของธุรกิจ (Scale Up Business) ด้วยวิธีการที่ทันสมัย ตอบโจทย์แนวทางของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลมากขึ้น ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีอย่าง MarTech Stack และต่อไปนี้คือจุดเด่นของ MarTech ที่จะช่วยให้ธุรกิจของเรามีการทำงานที่ทันสมัยตอบโจทย์การแข่งขันในเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน

• Big Data, Data Analytics & Customer Insights: ช่วยรวบรวมข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบที่จำเป็นต่อธุรกิจมาวิเคราะห์หาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทำให้รู้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบการตัดสินใจ การใช้เครื่องมือ MarTech เปรียบเหมือนมีผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญด้าน Big Data มาช่วยเสริมความมั่นใจ
• Automatisierter Content: ในยุคที่มีโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มคือยุคที่เราสามารถสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาได้หลากหลายตามใจชอบ แต่จะดีกว่าถ้าเราสามารถใช้เครื่องมือ MarTech ช่วยส่งคอนเทนต์ไปยังกลุ่มเป้าหมายแบบอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องเข้ามาตั้งค่าอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นทาง Line Official Account, Email หรือทางสื่อโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
• CRM Technology: การรักษาลูกค้าคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจะต้องมีกลยุทธ์สำหรับทำ CRM เก็บข้อมูลลูกค้าคนสำคัญ และส่งมอบความพึงพอใจด้วยการออกแบบ Loyalty Program ที่ตอบโจทย์ลูกค้าของธุรกิจเรา
• Data & Automation: การจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ MarTech มาช่วยในการทำ Segmentation เพราะพฤติกรรมการซื้อการใช้จ่ายของลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน การนำ Automation System มาช่วยจัดการการตลาดสามารถช่วยลดเวลาในการจัดระเบียบข้อมูลและยกระดับการทำงานของทีมตลาดให้ดีขึ้น

เราจะสร้าง MarTech Stack เพื่อยกระดับการดำเนินงานของธุรกิจที่ทำให้กระบวนการทางการตลาดมีความทันสมัย คุ้มค่ากับเงินลงทุน และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร บทความนี้จะช่วยให้เราได้เข้าใจทุกสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการ Scale up ธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วย MarTech Stack

MarTech Stack คืออะไร 

MarTech stack คือกลุ่มเทคโนโลยีที่ทีมการตลาดใช้ในการดำเนินการด้านแคมเปญการตลาดให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น หน้าที่หลักของ MarTech Stack คือการทำให้การบริหารจัดการการตลาดเป็นไปแบบอัตโนมัติ มีการปรับปรุง Workflow Automation ให้เป็น Workflow ที่ดีที่สุดในการตอบสนองกับกลุ่มเป้าหมาย เราสามารถเปิดใช้งาน MarTech เพื่อทำการตัดสินใจจากข้อมูลที่แม่นยำ และช่วยนักการตลาดวัดผลและปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญให้ดีขึ้น

ทำไมเราจึงต้องการ MarTech Stack 

การจัดการกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและแผนธุรกิจสมัยใหม่นั้น ถ้าเราทำด้วยตนเองทั้งหมดอาจจะใช้เวลานานเกินไปและไม่มีประสิทธิภาพที่จะนำไปใช้ได้จริง การทำให้งานในด้านดิจิทัลบางอย่างเป็นไปแบบอัตโนมัติจะช่วยปรับกระบวนการทำงานของเราให้เหมาะสมและง่ายมากขึ้น และการผสานรวมองค์ประกอบของเครื่องมือ MarTech ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพเข้ากับแคมเปญของเราสามารถเพิ่มเวลาให้ทีมของเรามีสมาธิกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เชิงกลยุทธ์มากขึ้น

นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว MarTech Stack ยังช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นอีกด้วย ด้วยจำนวนข้อมูลที่มีความซับซ้อนสำหรับทีมการตลาดในปัจจุบัน เราต้องมีเครื่องมือที่เปลี่ยนข้อมูลจำนวนมากเหล่านั้นให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว MarTech ช่วยให้เราสร้างตัวเลือกการใช้ข้อมูลที่ชาญฉลาดขึ้นและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลโดยการรวบรวมและวิเคราะห์ตัวเลขสำหรับธุรกิจ

เพียงเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม ทีมของเราจะสามารถบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์ ตรวจสอบผลลัพธ์ และปรับปรุงแคมเปญการตลาด ด้วย MarTech Stack ที่เลือกใช้ ทีมของเราสามารถสร้าง Lead เพิ่มขึ้น กระตุ้นการเข้าชมมากขึ้น เพิ่มการมีส่วนร่วม และเพิ่ม Conversion Rate ที่ดีขึ้น

แนวทางการสร้าง MarTech Stack สำหรับธุรกิจ 

ทีมการตลาลต่างก็มีความต้องการเฉพาะด้านเพื่อบรรลุเป้าหมายการดำเนินงาน ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกลุ่ม ทีม หรือธุรกิจที่ใช้ MarTech ที่จะหมือนกันทุกประการ สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกใช้เครื่องมือ MarTech ให้สอดคล้องกับความต้องการ เป้าหมาย และโครงสร้างขององค์กรของเรา และด้วยเครื่องมือนับพันในตลาด การจำกัดตัวเลือกให้เจาะจงไปที่เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องง่าย การทุ่มเงินให้กับปัญหาไม่น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน จึงควรใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ระมัดระวังมากขึ้นในการเลือกใช้  MarTech Stack ให้เหมาะสมกับองค์กร

ขั้นแรก ต้องระบุปัญหาที่ธุรกิจกำลังเผชิญ ก่อนที่จะเพิ่มเทคโนโลยีใด ๆ ลงไปในกลยุทธ์ ต้องเข้าใจก่อนว่าเทคโนโลยีใดที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้จริง ในขณะเดียวกัน ฝ่ายการตลาดควรใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อวัดผลข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ดังนั้นการเลือกเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกในการตัดสินใจด้วยข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

โปรดจำไว้ว่า เครื่องมือ MarTech ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือเครื่องมือที่เราเข้าใจและใช้งานได้อย่างถูกต้อง โดยปกติแล้วธุรกิจสมัยใหม่มักจะเลือกใช้แพลตฟอร์มแบบครบวงจร เช่น HubSpot CRM ที่มีตัวเลือกหรือฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายและยังสามารถผสานรวมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้

ขั้นตอนที่ 1: ระบุความต้องการของทีมการตลาด 

ในขั้นตอนนี้เราควรจะดำเนินการเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจและจบลงด้วยการสรรหา MarTech Stack ที่ตรงตามแผนการแก้ปัญหาของทีม การปรับพื้นฐานให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ ไม่อย่างนั้นเราอาจเสี่ยงที่จะต้องเสียเวลาไปกับเงินลงทุนที่ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ 

วิธีที่ดีในการหลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่จำเป็น คือการถามถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข ปัญหาเหล่านี้อาจรวมถึง:

• การเพิ่มผลผลิต
• การจัดการโครงการให้บรรลุเป้าหมาย
• ปรับปรุงกระบวนการทำงานร่วมกันภายในองค์กร
• การรายงานผลงานดำเนินงานแบบอัตโนมัติ
• การสรุปข้อมูลเชิงลึก
• ทำงานที่ใช้ทรัพยากรมากและจัดการโดยใช้เครื่องมือที่บริหารจัดการแบบอัตโนมัติ
• ทำใช้งบประมาณการตลาดของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น
• การผสานรวมกับเครื่องมืออื่น ๆ ระบบ และซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ของเรา
• ขยายความพยายามในการสร้างกลยุทธ์การตลาดของเรา
• ทำความเข้าใจกับข้อมูลเชิงลึกที่ซับซ้อน

ขั้นตอนที่ 2: เลือกเครื่องมือที่ช่วยเราตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก 

เมื่อเราได้สร้างข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับการเลือกใช้ MarTech Stack แล้ว ก็ถึงเวลาพิจารณาว่าเครื่องมือนี้จะช่วยเราในการเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นได้อย่างไร จากการรายงานของ Forrester บอกว่าธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกกำลังเติบโตโดยเฉลี่ย 30% ต่อปี นั่นทำให้ทีมการตลาดสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันผ่านการเลือกเทคโนโลยีของ MarTech มาใช้

เราจะไม่สามารถเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึกได้หากปราศจากการเข้าถึงข้อมูล นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเลือก MarTech ที่เหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเครื่องมือที่สามารถใช้งานเรื่องต่อไปนี้ได้:

• การควบคุมและวิเคราะห์ข้อมูล
• การตรวจสอบความคืบหน้าที่จัดการ
• การรายงานผลการดำเนินงานขั้นสูง
• การติดตามความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายของเราควบคู่ไปกับทีมอื่น ๆ
• ช่วยกำหนดเป้าหมายด้านดิจิทัลที่สอดคล้องกันซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของเรา

ขั้นตอนที่ 3: ลดความซับซ้อนของ MarTech Stack ด้วยเทคโนโลยีแบบครบวงจร 

ด้วยเครื่องมือ MarTech ที่มีอยู่มากมาย จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะสร้างเครื่องมือที่เชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสมระหว่างฟังก์ชันต่าง ๆ ถ้าเราต้องการลดความซับซ้อนของการทำงานลง เราต้องเลือกเครื่องมือที่ใช้งานได้จริงและลดข้อทำผิดการทำงานได้ หากเราเลือกแก้ไขปัญหาด้วยเครื่องมือที่ไม่ตรงจุด เราอาจจะเสียเวลาไปกับการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้ใช้งานซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น หากต้องการทำงานแบบการกระจายศูนย์รวมการจัดการไปยังคนในทีมหรือคนในองค์กร และลดขั้นตอนการทำงานที่ล้าช้า เราควรสร้าง MarTech Stack จากการรวมฟังก์ชันของหลาย ๆ เครื่องมือหรือข้อมูลไว้ในที่เดียวกัน เช่น HubSpot CRM สามารถเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม และไลน์ พร้อมกับวิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำเพื่อให้ทีมนำข้อมูลไปใช้งานได้จริง

ประโยชน์ของการรวมเครื่องมือเข้าด้วยกัน และเราสามารถจัดกลุ่มเครื่องมือได้เป็น 4 ประเด็นหลัก:

• ได้รับการตรวจสอบข้อมูลที่ดีขึ้นจากการสร้างแคมเปญทั้งหมด
• ลดข้อผิดพลาดด้านการดำเนินงาน
• การกำหนดเป้าหมายและการพยากรณ์อย่างแม่นยำ
• ลดต้นทุนด้านเทคโนโลยีและการจ้างงาน

ในปัจจุบันเราสามารถใช้เครื่องมือที่รวมเข้ากับ MarTech Stack ที่มีอยู่อย่างง่ายดาย หรือการเลือกเครื่องมือที่มีฟังก์ชันให้ใช้งานหลายด้านบนแพลตฟอร์มเดียวอย่าง HubSpot CRM ที่มีฟังก์ชันด้าน Marketing Hub, Sales and CRM Hub และ Service Hub มักจะเหมาะสมกว่าการใช้เครื่องมือหลายชิ้นที่ไม่ได้เชื่อมต่อกัน การใช้เครื่องมือที่มีฟังก์ชันครบเครื่องจะช่วยลดภาระที่มักถูกมองข้ามหรือเรื่องที่ต้องทำซ้ำ ๆ แต่ก็ยังผิดพลาด และเพื่อให้แน่ใจว่าทีมของเราได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมในการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือแต่ละอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราต้องเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน MarTech Solutions ให้สอนวิธีการใช้งานจนชำนาญ

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ MarTech Stack 

นับตั้งแต่ปี 2020 มีธุรกิจจำนวนมากที่หันมาใช้ MarTech เพิ่มมากขึ้น และมีเครื่อง MarTech ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อมีเครื่องมือที่มากเกินไปวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการจำกัดตัวเลือกการใช้เครื่องมือที่จำเป็นที่สุดคือการประเมินพื้นฐานของธุรกิจและตัดเครื่องมือที่ไม่สามารถใช้งานได้จริงออกไป แล้วเริ่มต้นศึกษาจากเครื่องมือที่จำเป็นเท่านั้น แล้วเติมช่องว่างให้ทีมของเราจากเครื่องมือเทคโนโลยีเหล่านั้น

โปรดทราบ: เครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมดช่วยประหยัดเวลา สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้า สร้างผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า และช่วยให้เราส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น หรือที่เรียกว่าการสร้าง Data Culture ให้กับองค์กร เครื่องมือ MarTech ควรมีองค์ประกอบด้านการใช้งานที่สามารถทำให้เป้าหมายธุรกิจของเราเป็นจริงได้

การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) 

CRM คือระบบที่ใช้สำหรับจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าของเรา CRM ที่ดีจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับวงจรชีวิตทั้งหมดของลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา และทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อการสื่อสารหลักระหว่างทีมการตลาดและทีมขายของ เครื่องมือ CRM นั้นมีทั้งที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดเล็กไปจนถึง Solutions ระดับองค์กรขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการ Lead และสร้างโอกาสการขายผ่านจำนวนข้อมูลลูกค้าที่หลากหลาย

การตลาดแบบอัตโนมัติ หรือ Marketing Automation 

ซอฟต์แวร์การตลาดที่ทำงานแบบอัตโนมัติมักจะใช้สำหรับกิจกรรมการสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ข้อได้เปรียบหลักของระบบอัตโนมัติด้านการจัดการการตลาดคือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เพื่อลดข้อผิดพลาด การจัดกำหนดการนัดหมายต่าง ๆ และการประสานงานการสื่อสารล่วงหน้า และแน่นอนว่า Marketing Automation ทำให้กิจกรรมที่ใช้ทรัพยากรหรือใช้เวลาเป็นจำนวนมากกลายเป็นกิจกรรมการดำเนินงานที่ง่ายขึ้น เช่น การจัดการข้อมูล การทำ Segmentation เป็นไปโดยอัตโนมัติ บริการด้าน Marketing Automation มีตั้งแต่บริการอีเมลขั้นพื้นฐานไปจนถึงแพลตฟอร์มที่รวมความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างลูกค้าเป้าหมาย

โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม 

ถ้าเรามีความจำเป็นสำหรับการสร้างการรับรู้ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย การจัดการโซเชียลมีเดียจำเป็นต้องมีการดูแลจัดการโพสต์ การติดตามความสำเร็จของแคมเปญบนโซเชียล การตรวจสอบการวิเคราะห์ และการตรวจสอบว่ามีคนพูดถึงแบรนด์มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียในปัจจุบันยังถูกแบ่งออกเป็นหลายแพลตฟอร์ม และเราสามารถเลือกเครื่องมือที่ช่วยให้สร้างแคมเปญบนโซเชียลมีเดียได้โดยง่ายและวางแผนจากข้อมูลที่เป็นศูนย์กลางจาก CRM Software เครื่องมือมีตั้งแต่แพลตฟอร์มเฉพาะทาง เช่น Tiktok ที่เน้นไปทางสร้างความสนุกสนานไปจนถึงแพลตฟอร์มการจัดการโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุม ซึ่งนำเสนอทั้งการจัดการโฆษณาบนโซเชียล การวิเคราะห์ และแดชบอร์ดที่ปรับแต่งได้

ระบบจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ 

เว็บไซต์ของเราเป็นองค์ประกอบพื้นฐานใน MarTech Stack ที่ช่วยให้เรากำหนดเวลา เผยแพร่ และแก้ไขเนื้อหาทั่วไปได้อย่างง่ายดาย เป็นความคิดที่ดีที่จะเลือกเว็บไซต์ที่มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เพื่อให้สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ต้องมีการฝึกอบรมเชิงลึกหรือใช้เวลาเรียนรู้นานเกินไป

การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา (SEO) 

การติดตามการเปลี่ยนแปลง การตรวจสอบคู่แข่งในการค้นหาของเรา การสร้างลิงก์ย้อนกลับไปยัง Landing Page การวิจัย Keyword ที่เหมาะสม และการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพต่ำให้กลายเป็นเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นงานที่สำคัญในการรักษาเว็บไซต์ของเราให้ติดอันดับการค้นหาสูงสุดของผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาอย่าง Google แพลตฟอร์ม Enterprise SEO มีประโยชน์สำหรับการทำงานที่ต้องใช้เวลามากเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ และเพิ่มผลการค้นหาทั่วไปของเราให้ดีขึ้น เครื่องมือที่เป็นมิตรกับผู้ใช้บางอย่างได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้กลยุทธ์ SEO ให้ประสบความสำเร็จได้โดยใช้แพลตฟอร์มเดียว

การเข้าถึงเว็บไซต์ 

การเข้าถึงเว็บไซต์อาจไม่ใช่สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องการสร้าง MarTech Stack ของเรา แต่สำหรับองค์กรที่ใส่ใจในการดึงดูดผู้ชมหรือกลุ่มเป้าหมายบนช่องทางออนไลน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การเพิ่ม Solutions สำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์นั้นค่อนข้างมีความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงการเข้าถึงเว็บไซต์ของตนเอง เครื่องมือที่ช่วยให้เราวิเคราะห์ผลลัพธ์หรือข้อมูลจากเว็บไซต์มีความสำคัญต่อการดำเนินการด้านการตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นการผสานการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่มีคุณสมบัติด้านการจัดการข้อมูลอย่าง HubSpot CRM เพื่อช่วยให้เราเก็บข้อมูลที่จำเป็นไปด้ง่ายและช่วยปรับปรุงการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น

การขยายฐานลูกค้ามีความสำคัญต่อการขยายขนาดธุรกิจของเราและเราจำเป็นต้องดึงดูดผู้ชมหน้าใหม่เข้ามาเสมอ และเนื้อหาบนเว็บไซต์มีความสำคัญต่อภาพลักษณ์ธุรกิจ จึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์จาก Google Ads ที่มีประสิทธิภาพ การมีซอฟต์แวร์สำหรับจัดการ SEO ใน MarTech Stack จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายโดยการตรวจสอบผลลัพธ์และโฆษณาบนหน้า Landing Page และงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อเพิ่มการเข้าชมด้วยต้นทุนที่ต่ำลง และจัดการกับ Blog และ Conversion Rate ได้

คุณสามารถปรับปรุงการจัดการการตลาดด้วย MarTech Stack ได้อย่างไร 

การมีเครื่องมือ MarTech มากเกินไปอาจสร้างความสับสน งบประมาณสูง และท้ายที่สุดก็ส่งผลเสียให้กับธุรกิจ Solutions การตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร เช่น HubSpot CRM ที่รวมเอาสิ่งจำเป็นหลายอย่างของ MarTech เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งรวมถึง SEO การปรับปรุงการเข้าถึงเว็บไซต์ และเป็นศูนย์กลางการจัดการโฆษณาในที่เดียว เรายังสามารถผสานรวมเครื่องมือการตลาดอื่น ๆ เช่น Line Official Account และเครื่องมือสำหรับ Loyalty Program เข้าด้วยกันได้ พร้อมกับแก้ปัญหาการเก็บข้อมูลที่ไม่เป็นระบบให้กลายเป็นข้อมูลที่ช่วยให้เราสามารถทำการตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น

ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อกับเครื่องมือ MarTech 

เมื่อพูดถึงการสร้าง MarTech Stack ที่ประสบความสำเร็จ หรือการเลือก MarTech Solutions ที่รวมเครื่องมือการตลาดก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะท้ายที่สุดแล้ว เครื่องมือที่ทำงานแบบแยกระบบออกจากกันมักจะเป็นเครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพ การใช้วิธีการเชื่อมต่อเครื่องมือต่าง ๆ ด้วย HubSpot CRM เป็นการผสานรวมฟังก์ชันที่สร้างไว้ล่วงหน้าแล้วสำหรับเครื่องมือทางธุรกิจที่เรานิยมใช้เป็นประจำ สำหรับธุรกิจไทยนั้นเราสามารถเชื่อมต่อ Line Official Account, Facebook และ Website เพื่อให้ทั้ง 3 เครื่องมือนี้ผสานการทำงานร่วมกันที่ศูนย์กลางการจัดการอย่าง HubSpot CRM ได้ ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลโดยอัตโนมัติระหว่างแพลตฟอร์ม หมายความว่าเราจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เราต้องการ พร้อมใช้งานสำหรับทุกอย่างตั้งแต่การตลาดแบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์เว็บไซต์ ไปจนถึงการวางแผนการตลาดในอนาคต

ปรับปรุงการเชื่อมต่อ API 

HubSpot CRM ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมการทำงานด้านการดึงข้อมูลและจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อ HubSpot CRM เข้ากับเครื่องมืออื่น ๆ และจะช่วยให้เรามีโอกาสมากขึ้นในการรวมข้อมูลและสร้าง Workflow Automation ของเราและดึงข้อมูลมาจัดการใน Solutions ที่เราสามารถกำหนดเองได้ เช่น การดึงข้อมูลจาก Rich Menu บน Line Official Account หรือการรวมข้อมูลการซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้าเข้ามาในระบบของ Loyalty Program ของเราเพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายนี้นักการตลาดหรือผู้บริหารยุคใหม่ต้องท่องจำเอาไว้ว่า MarTech Stack ไม่ใช่แค่เครื่องมือเท่านั้น ทีมของเราต้องสามารถใช้ MarTech Stack ทั้งหมดได้อย่างมั่นใจ จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า 64% ของธุรกิจบอกว่าพวกเขาไม่มีทักษะหรือความสามารถเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการตลาดของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเลือก Solutions ที่สอดคล้องกับผู้ใช้ และมีการประยุกต์ใช้อย่างดีซึ่งรวมเอาศาสตร์ด้าน Digital Marketing หลายสาขาไว้ในแพลตฟอร์มเดียวเป็นวิธีที่ดีในการลดช่องว่างด้านทักษะและใช้ประโยชน์จากการใช้จ่ายด้าน MarTech ให้มากขึ้น

กลยุทธ์หลักของ MARTECH คือการให้ความสำคัญกับ DATA 

แหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก https://siteimprove.com/en/