Scale up ธุรกิจ กลายเป็นเรื่องที่หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น จากการเติบโต (Growth) ไปเป็นการปรับขยาย (Scale up) ธุรกิจแทน 

นั่นมาจากผลกระทบจาการระบาดของเชื้อ Covid-19 ทำให้การเดินหน้าของหลายธุรกิจแปรเปลี่ยนไป สำหรับธุรกิจไหนที่ตั้งเป้า มีโครงการว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้าสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบก็ง่ายหน่อย แต่แค่ต้องลงมือทำให้เร็วกว่าเดิม ส่วนใครที่ยังไม่เริ่มก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบ ซึ่งการเติบโต (Growth) อย่างต่อเนื่อง อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย และกลายเป็นคำว่า Scale up การปรับขยายธุรกิจต่างหาก ที่เข้ามามีบทบาท เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนมากที่สุด 

Growth VS Scale up ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน แต่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง

หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของกลยุทธ์นี้ เพราะยังแยกไม่ออกว่า 2 ว่าคำนี้แตกต่างกันอย่างไร? และให้ผลลัพธ์อย่างไร? 

การสร้างธุรกิจให้เติบโต หรือ Growth จะเน้นมุ่งเป้าหมายสำคัญไปที่รายได้ แต่ การใช้กลยุทธ์การปรับขยาย หรือ Scale up เป้าหมายจะเน้นไปที่การปรับรูปแบบการทำงาน โครงสร้างภายในต่าง ๆ เพื่อทำให้ธุรกิจใช้ทรัพยากรหรือการลงทุนที่น้อยลง ในขณะเดียวกับกลับได้งานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม จุดนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะนำพาธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ตอบโจทย์กับธุรกิจในระยะยาวมากกว่า 

Scaling Your Business แนวคิดง่าย ๆ แต่ต้องตั้งใจ 

ไม่ว่าจะเป็นองค์กรแบบใด หรือธุรกิจแบบไหนก็สามารถใช้คำว่า Scale up เป็นเป้าหมายสำคัญได้ทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องพัฒนาทั้งกำลังคนและสมอง ควบคู่ไปกับเครื่องมือ เพื่อปลี่ยนความคิดให้ไปในทิศทางเดียวกันให้ได้

• ปรับ Mindset

  เพื่อรับมือกับเทรนด์การทำธุรกิจที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนความคิดให้เชื่อ กำหนดพฤติกรรม สร้างกรอบความคิดที่ว่าเราพร้อมจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบก่อนเป็นอันดับแรก เปลี่ยนคนให้มี Outward Mindset มองเห็นภาพรวมเป้าหมายของธุรกิจ สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ พร้อมช่วยกันผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายของธุรกิจอย่างพร้อมเพรียงกัน เพียงแค่คิด และเชื่อว่าจะเป็นแบบนั้นก็มีโอกาสสำเร็จไปมากกว่าครึ่ง 

• กล้าผิด กล้าพลาด ล้มแล้วต้องลุกให้ไว

  เป็นเรื่องที่ต้องเกิดหากคิดจะ Scale up เพราะการปรับขยายคือการแหวกกรอบ ทดลองและลงมือทำ เดินออกมาจากเรื่องเดิม ๆ เพื่อขยับขยายธุรกิจ ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะมีเดินผิดไปบ้าง แต่หากล้มแล้วต้องลุกให้ไว ทำความเข้าใจกับข้อผิดพลาด นำมาวิเคราะห์ ปรับใช้ต่อ เพื่อให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดในอีกครั้งต่อ ๆ ไป

• คนในองค์กรต้องมีทั้ง Mindset และ Skillset

  ถึงแม้ว่าผู้บริหารจะมีวิสัยทัศน์ใหม่ ก้าวไกลไปอยู่แถวหน้าสุดมากแค่ไหน แต่ถ้าคนในองค์กรยังอยู่กับความคิด และมีความสามารถที่จำกัดอยู่ ธุรกิจก็จะไม่สามารถ Scale up ได้เลย จุดนี้จึงกลายเป็นฟันเฟืองที่สำคัญมากที่สุดในการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ เมื่อคนในองค์กรมีพร้อมทั้ง Mindset และ Skillset  แล้ว ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ทุกคนวางใจในผลงานกันและกัน กล้าที่จะกระจายงานไปยังพนักงาน ให้โอกาสในการแสดงศักยภาพด้วยตัวเอง เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาธุรกิจเข้าสู่เป้าหมาย แต่ยังคงมี Work Life Balance ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถึงความใส่ใจ ซื้อใจด้วยความคิดแบบรุ่นใหม่ที่ไม่เอารัดเอาเปรียบ กลายเป็นการปรับขยายธุรกิจที่ทั้งแข็งแรง มั่นคง และยั่งยืนอย่างแท้จริง 

แต่นอกจากเรื่องการปรับความคิด Mindset ความสามารถ พฤติกรรม รูปแบบการทำงานของผู้บริหาร และคนภายในองค์กรแล้ว การใช้เครื่องมือ (Tools) เก็บข้อมูล เพื่อนำมาต่อยอดทางการตลาด สามารถนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ในทุก ๆ ส่วน ทั้งในแง่มุมของผลิตภัณฑ์ ความต้องการที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด ถือเป็นทางลัดที่จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถปรับขยาย Scale up ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีขีดจำกัดผ่านการเก็บข้อมูลภายใน Hubspot CRM ระบบที่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการ Scale up และเปลี่ยนคุณให้เข้าสู่การใช้ “ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ” อย่างแท้จริง 

Wannakarn Pommadilok X Ourgreenfish 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Brand buffet 

บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ

กลยุทธ์หลักของ MARTECH คือการให้ความสำคัญกับ DATA

ธุรกิจของคุณต้องเตรียมตัวอย่างไร หลังวางแผนใช้งาน MARTECH