<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

8 หลุมพรางที่ทำให้โปรเจ็ค Digital Transformation ล้มเหลว (ภาคจบ)

Audio Version

Digital Transformation ล้มเหลว (ภาคแรก) มาต่อกันที่ ภาคจบ กับอีก 4 ข้อที่เหลือของ 8 หลุมพรางที่ทำให้ล้มเหลว...ไม่เป็นท่า

Digital Transformation ล้มเหลว

8 หลุมพรางที่ทำให้โปรเจ็ค Digital Transformation ล้มเหลว (ภาคจบ)

5.  ไม่มีผู้นำที่เหมาะสม

ในองค์กรของควรมีใครสักคนที่สามารถเป็นผู้นำได้ ในที่นี้คือคนที่มีอำนาจในการสั่งการและความน่าเชื่อถือมากพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ในหลายครั้งความล้มเหลวที่เกิดขึ้นก็มาจากการที่องค์กรโยนโปรเจ็คไปที่แผนกใดแผนกหนึ่งให้รับผิดชอบเพียงแผนกเดียว อย่างเช่น การให้แผนกไอทีรับผิดชอบโปรเจ็คการทำ Data Transformation เพียงแผนกเดียวแทนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็ค ซึ่งผลที่ตามมาคือ แม้หัวหน้าแผนกจะเป็นคนมีความสามารถแต่ก็อาจจะขาดสกิลในการเป็นผู้นำ จนทำให้โปรเจ็คไม่ประสบความสำเร็จหรืิไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าเอาไว้

Digital Disruption คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับการทำธุรกิจ

ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือการจัดส่วนความรับผิดชอบให้ชัดเจนและมีคนดูแลโปรเจ็คหรือผู้นำที่มีสกิลในการจัดการบุคลากร และสกิลในการดูแลโปรเจ็ค ส่วนความรู้เฉพาะทางนั้นสามารถเรียนรู้จากแผนกที่เกี่ยวข้องได้

6. ใช้คนไม่ถูกงาน

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว กับคำถามที่ว่าหัวหน้าแผนกไอทีอาจเก่งในด้านการทำงานระบบดิจิตอล แต่อาจไม่ได้หมายความเขาจะถนัดในเรื่องการจัดการ สิ่งสำคัญของการทำ Data Transformation ก็คือ คุณควรแน่ใจว่ามีคนที่ใช่อยู่ในตำแหน่งที่ใช่ เพื่อให้ Data Transformation เกิดขึ้นจริงตามที่ตั้งเป้าไว้ ในการประชุมบอร์ดบริหารคำถามที่ควรเกิดขึ้นคือ ทีมงานมีสกิลดิจิตอลเพียงพอหรือไม่ หรือ ผู้จัดการโครงการสามารถสนับสนุนทีมงานในการทำงานได้ในระดับที่พอใจแล้วหรือยัง เป็นต้น

นอกจากนี้การใช้คนให้ถูกกับงานยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณมีทีมงานที่แข็งแกร่งอีกด้วย ซึ่งทีมงานที่ดีย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีของการทำงาน

7. อย่าให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป

ลองนึกภาพว่าปีนี้องค์กรของคุณมีการเปลี่ยนการทำงานมาเป็นแบบ Data Transformation อีกหนึ่งปีถัดไปคุณคิดว่าพฤติกรรมการทำงานของพนักงานจะเปลี่ยนไปจากปีที่ผ่านมาสักขนาดไหนกัน? คำตอบคืออาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรโฟกัสจึงไม่ใช่การใส่ใจกับวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง (ซึ่งอาจไม่มีผลต่อออฟฟิศของคุณเลย) แต่เป็นการหาบุคลากรที่เป็นศูนย์รวมของบุคลากรคนอื่นๆในออฟฟิศ เพื่อสร้างให้เป็น Influencer ในการค่อยๆปรับเปลี่ยนทัศนคติการทำงานและรูปแบบการทำงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ

เพราะการใส่ใจและให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมมากจนเกินไปอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับธุรกิจของคุณเลยนอกจากเสียเวลาไปเปล่าๆ

8. ควรมีทีมงานสื่อสารภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพ

ในการทำ Digital transformation สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ การจัดการความเปลี่ยนแปลงแบบฮาร์ดคอร์ที่จะนำมาใช้กับบุคลากรของคุณให้ทำงานกับระบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมสื่อสารภายในองค์กรของคุณจึงต้องทำงานอย่างหนักในแคมเปญที่เกี่ยวกับการกระตุ้นผู้คน การชมเชยความสำเร็จ และการให้กำลังใจเมื่อไหร่ก็ตามที่บุคลากรของคุณรู้สึกว่า Digital transformation เป็นเรื่องยากและมีอุปสรรคมากมายเมื่อต้องใช้งาน

การทำแบบนี้ก็เพื่อให้ทีมสื่อสารภายในองค์กรเป็นเหมือนกับทีมที่คอยกระตุ้นให้คนในองค์กรสามารถปรับตัวและทำงานในองค์กรแบบ Digital transformation ได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ

และนี่ก็คือ Tips เพื่อหลบหลุมพรางในการทำ Data Transformation ซึ่งเราหวังว่าจะสามารถช่วยให้คุณเป็นหนึ่งในองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ในการเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจมาเป็นการทำงานแบบ Data Transformation เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดที่นับวันจะเปลี่ยนไปเป็นตลาดแบบดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ

New call-to-action 

New Marketing Plan MarTech Plan

สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter

Cr. smartinsights.com, startupist.com, hrhero.com. axerosolutions.com, brainpills.info

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

 

Recent Posts

OGF Podcast