<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

7 KPI ที่ชี้ชัดว่า Market Research ของคุณได้ผลจริงหรือไม่

Audio Version
7 KPI ที่ชี้ชัดว่า Market Research ของคุณได้ผลจริงหรือไม่
6:21
 

ทำไม “การตั้ง KPI ที่ถูกต้อง” คือกุญแจสำคัญของ Market Research?
Market Research ไม่ได้วัดกันที่จำนวนข้อมูลที่เก็บได้ แต่ต้องวัดที่คุณค่าของข้อมูล และผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงหลังจากนำ Insight ไปใช้ โดยการวิจัยที่ดีต้องมี KPI กำกับ เพื่อให้ทีมรู้ว่า insight ที่ได้ คุ้มค่า, ใช้งานได้จริง และนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้นเพราะท้ายที่สุดแล้ว การวิจัยตลาดที่ขาดตัวชี้วัดก็คือผลงานที่ไม่สามารถประเมินความคุ้มค่าได้ แต่ถ้ามี KPI ที่ดี คุณจะรู้ทันทีว่า

  • คุณภาพของข้อมูลที่จัดเก็บเป็นอย่างไร
  • ต้องใช้เวลานานเท่าไรจึงจะได้รับข้อมูลเชิงลึก (Insight)
  • ผลลัพธ์ที่ได้มีความคุ้มค่ากับเงินและทรัพยากรที่ลงทุนไปหรือไม่
  • สิ่งที่ทำส่งผลกระทบต่อยอดขาย ลูกค้า หรือผลิตภัณฑ์จริงหรือไม่

ต่อไปนี้คือ “7 KPI สำคัญที่สุด” ที่เจ้าของธุรกิจต้องใช้ในการวัด Market Research ของตัวเอง


7 KPI ที่ชี้ชัดว่างาน Market Research ของคุณได้ผลจริง

1) Net Promoter Score (NPS) – ตัวชี้วัดคุณค่าที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์

NPS คือ KPI เชิงความพึงพอใจที่ใช้กันทั่วโลก NPS จะบอกว่าลูกค้ายินดีบอกต่อหรือไม่ ซึ่งสะท้อนคุณภาพประสบการณ์และความผูกพันของลูกค้า

ใช้ประเมิน :

  • ความภักดีลูกค้า
  • โอกาสเกิด Word-of-Mouth
  • ความน่าจะเป็นในการซื้อซ้ำ

2) Response Rate – คนตอบแบบสอบถาม “เยอะพอไหม”

Response Rate คือเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามจากจำนวนที่เชิญทั้งหมด หาก Response Rate ต่ำ ข้อมูลจะไม่สามารถเป็นตัวแทนกลุ่มเป้าหมาย และ Insight จะคลาดเคลื่อน

ใช้ประเมิน :

  • ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
  • การมีส่วนร่วมของผู้ตอบ
  • ความเหมาะสมของช่องทางเก็บข้อมูล

3) Completion Rate – คนตอบจนจบหรือไม่?

Completion Rate เป็นตัวบ่งชี้สำคัญด้านคุณภาพข้อมูล ถ้าคนออกจากแบบสอบถามกลางคัน อาจหมายความว่าแบบสอบถามยาวเกินไป หรือคำถามไม่ชัดเจน

ใช้ประเมิน :

  • ความเหมาะสมของโครงสร้างแบบสอบถาม
  • คุณภาพประสบการณ์ในการตอบ
  • ความน่าเชื่อถือของ Insight ที่ใช้

4) Time to Insight (TTI) – ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าได้ Insight ที่ใช้ได้จริง

TTI เป็น “ตัววัดความเร็วในการเปลี่ยนข้อมูลเป็น Insight” ยิ่ง TTI สั้น ธุรกิจยิ่งปรับกลยุทธ์ได้เร็วขึ้น

ปัจจัยที่กระทบ TTI ได้แก่

  • คุณภาพข้อมูล
  • ความสามารถของทีม
  • เครื่องมือจัดการข้อมูล
  • ความพร้อมของระบบ Analytics

ใช้ประเมิน :

  • ความคล่องตัวของทีมวิจัย
  • ความเร็วในการตัดสินใจ
  • ความสามารถแข่งขันในตลาด

5) Cost per Insight (CPI) – ได้ Insight หนึ่งชิ้นต้องจ่ายเท่าไร?

CPI เป็น “ต้นทุนทั้งหมด ÷ จำนวน Insight ที่นำไปใช้ได้จริง”

ต้นทุนรวม เช่น

  • การเก็บข้อมูล
  • การประมวลผล
  • ค่าเครื่องมือ Analytics
  • ค่าแรงทีมงาน

ใช้ประเมิน :

  • ความคุ้มค่าของเงินที่ลงทุน
  • ประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน
  • ช่วยตัดสินใจว่าควรเพิ่ม หรือลดขั้นตอนใด

6) Sample Quality – คุณภาพของกลุ่มตัวอย่าง

“คุณภาพข้อมูลส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ Insight” และ Response หรือ Completion Rate คือกุญแจของความน่าเชื่อถือ

การวัด Sample Quality ต้องพิจารณา

  • ตัวอย่างตรงตาม Target Audience หรือไม่
  • มี Bias หรือความลำเอียงหรือไม่
  • ขนาดตัวอย่างมากพอหรือไม่

ใช้ประเมิน :

  • ความน่าเชื่อถือของผลวิจัย
  • ความถูกต้องของ Insight
  • ความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาด

7) RORI (Return on Research Investment) – งานวิจัยคืนทุนแค่ไหน?

 RORI = (Net Benefits ÷ Cost of Research) x 100%

Net Benefits อาจเป็น

  • ยอดขายเพิ่มขึ้น
  • สินค้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จ
  • ลดต้นทุนการตลาด
  • ลดการตัดสินใจผิดพลาด

ใช้ประเมิน :

  • ผลลัพธ์การวิจัยต่อธุรกิจ
  • ความคุ้มค่าเชิงกลยุทธ์
  • ศักยภาพการสร้างกำไรในอนาคต

shutterstock_2034819878

วิธีใช้ KPI ทั้ง 7 ตัวเพื่อวัดประสิทธิภาพ Market Research 

1) วัดคุณภาพข้อมูล

ใช้ Response Rate, Completion Rate, Sample Quality → ยิ่งคุณภาพข้อมูลดี Insight ยิ่งแม่นยำ

2) วัดประสิทธิภาพของกระบวนการ

ใช้ TTI และ CPI → ยิ่งเร็วและประหยัด ยิ่งทำให้ทีมวางแผนได้ทันตลาด

3) วัดผลลัพธ์ต่อธุรกิจ

ใช้ NPS และ RORI → บอกได้ว่างานวิจัย “แก้ปัญหาจริง” หรือไม่


แบรนด์ที่ใช้ KPI ขับเคลื่อนนวัตกรรมสินค้า

หลายองค์กรระดับโลก เช่น Netflix และ Tesla ใช้ KPI วัดงานวิจัยอย่างจริงจัง เช่น

Netflix

  • ใช้ Completion Rate และพฤติกรรมผู้ใช้วัดความสนใจคอนเทนต์
  • ใช้ TTI เพื่อปรับ Recommendation แบบเรียลไทม์
  • ผลลัพธ์ : พัฒนา Content ใหม่ได้ตรงใจผู้ชมกว่าเดิม

Tesla

  • ใช้ข้อมูลจริงจากผู้ขับ (Sample Quality สูงมาก)
  • ประเมิน RORI ของงานพัฒนา Feature ใหม่
  • ผลลัพธ์ : นวัตกรรมซอฟต์แวร์รถยนต์ที่คู่แข่งตามไม่ทัน

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

Market Research ที่ดี ไม่ใช่เก็บข้อมูลเยอะ แต่ “ต้องวัดผลได้” ถ้าคุณตั้ง KPI ชัดเจนตั้งแต่ต้น คุณจะรู้ทันทีว่า
✔ ข้อมูลคุณภาพดีไหม
✔ Insight ใช้ได้จริงหรือไม่
✔ คุ้มค่ากับงบที่ลงไปหรือเปล่า
✔ งานวิจัยช่วยให้ธุรกิจเติบโตจริงหรือไม่

นี่คือความแตกต่างระหว่างทำวิจัยพอเป็นพิธี และ “ทำวิจัยที่สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง”

อ้างอิง : Business Explained. (2024). Market Research Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com

อ่านบทความเพิ่มเติม : 100 METRICS ทางการตลาดและการบริหารลูกค้า สำหรับ TECH STARTUP BUSINESS

คำศัพท์คำที่  1-50  |  51-100  |  101-150  |  151-200  |  201-250  |  251-300

 

LINE Connect

OGF Podcast