<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

300 คำศัพท์ทางการตลาด ที่นักการตลาดควรรู้ ปี 2024 (Update) 3/6

Audio Version
300 คำศัพท์ทางการตลาด ที่นักการตลาดควรรู้ ปี 2024 (Update) 3/6
17:43
การตลาดเป็นด้านสำคัญของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์และเทคนิคที่ใช้ในการดึงดูด สื่อสาร และรักษาลูกค้า ในปี 2024 มีคำศัพท์ทางการตลาดมากมายที่ธุรกิจควรรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและประสิทธิภาพในการทำการตลาดในยุคดิจิทัล คำศัพท์เหล่านี้จะถูกจำแนกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ 
เช่น การตลาดดิจิทัล, การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย, และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยแต่ละคำจะมีคำอธิบายและตัวอย่างที่ใช้ในบริบทของการตลาดในปัจจุบัน

การตลาดแบบไฮบริด (Hybrid Marketing)

  1. Phygital Marketing - การผสมผสานระหว่างประสบการณ์ทางกายภาพและดิจิทัลเพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ตัวอย่าง: การติดตั้งป้ายโฆษณาที่มีความเป็นโต้ตอบซึ่งผู้บริโภคสามารถสแกน QR โค้ดเพื่อเข้าถึงโปรโมชั่นพิเศษได้ทันทีผ่านมือถือ.

  2. Agile Marketing - การนำหลักการ Agile มาใช้ในการตลาดเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและปรับปรุงกลยุทธ์ตามข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า ตัวอย่าง: การทำการทดสอบ A/B อย่างต่อเนื่องและการปรับแต่งแคมเปญโฆษณาตามปฏิกิริยาของผู้บริโภค.

การตลาดดิจิทัลขั้นสูง (Advanced Digital Marketing)

  1. Voice-Activated Strategies - การใช้เทคโนโลยีการเปิดใช้งานด้วยเสียงในการตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้าผ่านอุปกรณ์เช่นสมาร์ทสปีกเกอร์และผู้ช่วยเสมือน ตัวอย่าง: การพัฒนาแคมเปญที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ผ่าน Alexa หรือ Google Home.

  2. Augmented Reality Experiences - การสร้างประสบการณ์ที่มีการเสริมความจริงซึ่งผู้บริโภคสามารถโต้ตอบกับสินค้าหรือบริการในสภาพแวดล้อมเสมือนได้ ตัวอย่าง: การใช้ AR เพื่อช่วยให้ลูกค้าทดลองใช้เครื่องสำอางก่อนการซื้อผ่านแอปพลิเคชัน.

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาการ (Science-driven Marketing)

  1. Neuromarketing - การใช้หลักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสมองเพื่อวิเคราะห์ว่าแคมเปญการตลาดส่งผลต่ออารมณ์และการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างไร ตัวอย่าง: การใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของตาเพื่อปรับปรุงการออกแบบโฆษณา.

  2. Behavioral Economics in Marketing - การประยุกต์ใช้หลักการเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมเพื่อสร้างแคมเปญที่สนับสนุนการตัดสินใจของลูกค้าในแบบที่พวกเขาต้องการ ตัวอย่าง: การนำเสนอการทดลองใช้ฟรีเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า.

การตลาดตามสถานการณ์ (Contextual Marketing)

  1. Contextual Targeting - การกำหนดเป้าหมายโฆษณาหรือเนื้อหาตามบริบทหรือเนื้อหาที่ผู้ใช้กำลังดูอยู่ ตัวอย่าง: การแสดงโฆษณาสินค้ากีฬาบนเว็บไซต์ข่าวกีฬา.

  2. Situation-based Promotions - การนำเสนอโปรโมชั่นที่เฉพาะเจาะจงตามเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในชีวิตของลูกค้า ตัวอย่าง: การเสนอส่วนลดในวันเกิดหรือโปรโมชั่นเนื่องจากการเปลี่ยนฤดูกาล.

    New call-to-action

การตลาดด้วยการมีส่วนร่วมแบบรวม (Inclusive Marketing)

  1. Diversity Marketing - การสร้างแคมเปญที่สะท้อนถึงความหลากหลายของผู้บริโภคในแง่ของเชื้อชาติ, เพศ, วัฒนธรรม, และเอกลักษณ์อื่นๆ ตัวอย่าง: โฆษณาที่แสดงความหลากหลายของครอบครัวในสังคมสมัยใหม่.

  2. Accessibility Marketing - การออกแบบแคมเปญที่ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงของทุกคน, รวมถึงผู้ที่มีความพิการ ตัวอย่าง: การใช้คำบรรยายเสียงในโฆษณาวิดีโอเพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาการได้ยินสามารถเข้าถึงได้.

การตลาดเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Marketing)

  1. Strategic Alliances - การร่วมมือกับองค์กรอื่นเพื่อขยายขอบเขตและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ตัวอย่าง: การร่วมมือกับแบรนด์เทคโนโลยีเพื่อสร้างโซลูชันใหม่ที่รวมเอาความสามารถของทั้งสองแบรนด์.

  2. Market Segmentation Strategy - การแบ่งตลาดออกเป็นกลุ่มย่อยโดยอิงตามคุณลักษณะหรือความต้องการของผู้บริโภคเพื่อเป้าหมายการตลาดที่แม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่าง: การแบ่งกลุ่มตลาดเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น, ผู้ใหญ่, และสูงอายุ.

Registration for CTA New Marketing Plan New Martech

การตลาดดิจิทัลอัจฉริยะ (Intelligent Digital Marketing)

  1. AI-Powered Customization - การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้และเนื้อหาการตลาดอย่างแม่นยำ ตัวอย่าง: การใช้ AI เพื่อสร้างโปรโมชั่นส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียกดูของแต่ละบุคคล.

  2. Predictive Analytics - การใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำนายพฤติกรรมและตัดสินใจการตลาดที่จะมาถึง ตัวอย่าง: การวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อขายในอดีตเพื่อคาดการณ์เทรนด์การซื้อในอนาคตและตัดสินใจสต็อกสินค้า.

การตลาดสังคมออนไลน์สมัยใหม่ (Modern Social Media Marketing)

  1. Influencer Collaborations - การทำงานร่วมกับบุคคลที่มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือ ตัวอย่าง: การร่วมมือกับ influencer ในการสร้างเนื้อหาที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นที่น่าสนใจ.

  2. Social Media Engagement Techniques - การใช้เทคนิคที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการโต้ตอบในโซเชียลมีเดีย ตัวอย่าง: การจัดการแข่งขันหรือการโพลที่ผู้ติดตามสามารถมีส่วนร่วมได้เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและการมองเห็น.

การตลาดเนื้อหาขั้นสูง (Advanced Content Marketing)

  1. Content Optimization for SEO - การปรับปรุงและตรวจสอบเนื้อหาเพื่อให้ได้การจัดอันดับที่ดีในเครื่องมือค้นหา ตัวอย่าง: การใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องและการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงเพื่อดึงดูดการจราจรและปรับปรุง SEO.

  2. Video Content Creation - การพัฒนาวิดีโอเนื้อหาเพื่อดึงดูดผู้ชมและเพิ่มการมีส่วนร่วม ตัวอย่าง: การสร้างวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงการใช้งานผลิตภัณฑ์และประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจน.

การตลาดโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า (Insight-Driven Marketing)

  1. Customer Journey Mapping - การวิเคราะห์และเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ของลูกค้ากับแบรนด์ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวอย่าง: การสร้างแผนภูมิที่แสดงเส้นทางของลูกค้าจากการตระหนักรู้ถึงการซื้อและการใช้งานผลิตภัณฑ์.

  2. Behavioral Targeting - การใช้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อส่งเสริมการตลาดที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่าง: การปรับแต่งโฆษณาบนเว็บไซต์ตามสิ่งที่ผู้ใช้ได้ค้นหาหรือเรียกดูในอดีต.

การตลาดแบบปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมลูกค้า (Adaptive Customer Behavior Marketing)

  1. Dynamic Content Personalization - การแสดงเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามพฤติกรรมและความสนใจของแต่ละบุคคล ตัวอย่าง: การปรับเปลี่ยนเนื้อหาบนหน้าเว็บตามประวัติการเยี่ยมชมของผู้ใช้เพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องและโอกาสในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้า.

  2. Responsive Marketing Campaigns - การออกแบบแคมเปญที่สามารถปรับเปลี่ยนและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ ตัวอย่าง: การใช้ข้อมูลสดเพื่อปรับเปลี่ยนข้อเสนอโปรโมชั่นในขณะที่เกิดเหตุการณ์หรือแนวโน้มใหม่ๆ.

การตลาดเชิงพื้นที่ (Location-based Marketing)

  1. Geo-targeting - การส่งเสริมการขายโดยอิงตามตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของผู้บริโภค ตัวอย่าง: การส่งข้อความโปรโมชั่นเมื่อผู้บริโภคเข้าใกล้ร้านค้าหรือสถานที่ทางธุรกิจ.

  2. Beacon Technology - การใช้เทคโนโลยีบีคอนเพื่อส่งข้อมูลและโปรโมชั่นไปยังอุปกรณ์มือถือของลูกค้าเมื่อพวกเขาอยู่ในระยะใกล้เคียง ตัวอย่าง: การส่งคูปองส่วนลดเมื่อลูกค้าเดินผ่านหน้าร้าน.

การตลาดแบบอัตโนมัติและการรวมระบบ (Automated and Integrated Marketing)

  1. Marketing Automation Platforms - การใช้แพลตฟอร์มอัตโนมัติเพื่อจัดการและปรับแต่งแคมเปญการตลาดที่ซับซ้อน ตัวอย่าง: การใช้แพลตฟอร์มที่รวมการจัดการลูกค้าสัมพันธ์, อีเมลมาร์เก็ตติ้ง, และการวิเคราะห์พฤติกรรม.

  2. Integrated Marketing Systems - การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันของเครื่องมือต่างๆ ในกลยุทธ์การตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่ติดขัดและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง: การเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าจากโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์, และแคมเปญออฟไลน์เพื่อมอบข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล.

New call-to-action

การตลาดโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality Marketing)

  1. VR Experiences - การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและโต้ตอบได้สำหรับผู้บริโภค ตัวอย่าง: การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในสภาพแวดล้อมเสมือนที่ผู้ใช้สามารถทดลองผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ.

  2. Immersive Product Demos - การนำเสนอสินค้าผ่านการสาธิตเสมือนจริงที่เพิ่มความเข้าใจและเพิ่มความน่าสนใจของผู้บริโภค ตัวอย่าง: การให้ลูกค้าสัมผัสกับการใช้งานรถยนต์ใหม่ผ่านซิมูเลเตอร์ VR.

การตลาดด้วยเทคโนโลยีเสริมความจริง (Augmented Reality Marketing)

  1. AR Trials - การใช้เทคโนโลยีเสริมความจริงเพื่อช่วยให้ลูกค้าทดลองผลิตภัณฑ์ได้จากที่บ้านของพวกเขาเอง ตัวอย่าง: แอปที่ให้ผู้ใช้ "ลอง" เฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่ของตัวเองก่อนซื้อ.

  2. Interactive Shopping Experiences - การสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่มีปฏิสัมพันธ์โดยใช้ AR เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและเพิ่มยอดขาย ตัวอย่าง: โปรแกรมที่อนุญาตให้ผู้บริโภคสแกนสินค้าในร้านค้าเพื่อดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และรีวิวทันที.

การตลาดเชิงอัตราผลตอบแทน (ROI-Driven Marketing)

  1. ROI Focused Campaigns - การออกแบบแคมเปญที่มีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน ตัวอย่าง: แคมเปญโฆษณาที่ติดตามและวัดผลตอบแทนจากแต่ละโดลลาร์ที่ใช้จ่ายไป.

  2. Cost-per-Acquisition (CPA) Strategies - การวางแผนและดำเนินการตามค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ ตัวอย่าง: การปรับปรุงแคมเปญโดยตรงตามข้อมูลการเข้าชมและการแปลงที่วัดได้จากแคมเปญต่างๆ.

การตลาดเชิงพื้นที่ทางอารมณ์ (Emotional Geographic Marketing)

  1. Local Emotional Engagement - การสร้างแคมเปญที่ทำให้ผู้บริโภคในพื้นที่เฉพาะตอบสนองต่ออารมณ์ที่ผูกพันกับสถานที่หรือวัฒนธรรมของพวกเขา ตัวอย่าง: การใช้ภาพหรือข้อความที่สะท้อนถึงความภาคภูมิใจท้องถิ่นเพื่อเชื่อมต่ออารมณ์กับแบรนด์.

  2. Cultural Relevance in Marketing - การทำให้เนื้อหาการตลาดมีความเกี่ยวข้องและเข้าใจง่ายสำหรับผู้บริโภคในวัฒนธรรมต่างๆ ตัวอย่าง: การปรับแต่งโฆษณาให้สอดคล้องกับเทศกาลหรือประเพณีสำคัญๆ ของท้องถิ่น.

การตลาดเชิงโต้ตอบ (Interactive Marketing)

  1. Real-time Customer Interaction - การมีส่วนร่วมกับลูกค้าในเวลาจริงผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและตอบโจทย์ความต้องการ ตัวอย่าง: การใช้แชทไลฟ์ในเว็บไซต์เพื่อแก้ปัญหาหรือตอบคำถามของลูกค้าทันที.

  2. Gamified Marketing Experiences - การนำเสนอกิจกรรมทางการตลาดที่มีส่วนร่วมในรูปแบบเกมเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและความบันเทิง ตัวอย่าง: การจัดทำแคมเปญที่ผู้บริโภคสามารถรวบรวมคะแนนและแลกเปลี่ยนเป็นรางวัล.

การตลาดเชิงพันธมิตรและร่วมมือ (Collaborative Marketing)

  1. Co-branding Initiatives - การร่วมมือกับแบรนด์อื่นเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือการนำเสนอที่รวมความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่าย ตัวอย่าง: การร่วมมือกับแบรนด์เครื่องดื่มและอาหารเพื่อสร้างแคมเปญที่นำเสนอเมนูพิเศษที่มีให้เฉพาะที่จุดขายร่วมกัน.

  2. Strategic Partnership Marketing - การเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีเป้าหมายหรือลูกค้าฐานเดียวกันเพื่อขยายและเพิ่มมูลค่าสู่การนำเสนอของกันและกัน ตัวอย่าง: การร่วมมือกับแอพเทคโนโลยีเพื่อเสนอบริการพิเศษให้กับผู้ใช้ทั้งสองฝ่าย.

การตลาดโดยใช้ข้อมูลใหญ่ (Big Data Marketing)

  1. Data-Driven Decision Making - การใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจในการออกแบบและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด ตัวอย่าง: การวิเคราะห์ข้อมูลการคลิกและการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับแคมเปญโฆษณาออนไลน์.

  2. Customer Segmentation Analysis - การใช้ข้อมูลใหญ่เพื่อแยกแยะลูกค้าออกเป็นกลุ่มที่มีความต้องการและพฤติกรรมแตกต่างกัน ตัวอย่าง: การสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบละเอียดที่ช่วยให้บริษัทเปิดเผยโอกาสในการขายข้ามกลุ่มและการขายเพิ่ม.

การตลาดดิจิทัลที่มีการปรับแต่งส่วนบุคคล (Personalized Digital Marketing)

  1. Customized Email Marketing - การออกแบบอีเมลที่ปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมและความสนใจของแต่ละบุคคล ตัวอย่าง: การส่งอีเมลที่มีข้อเสนอพิเศษตามประวัติการซื้อของลูกค้า.

  2. Tailored Online Advertising - การแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมกับความสนใจและพฤติกรรมการเรียกดูเว็บของผู้ใช้ ตัวอย่าง: โฆษณาแบนเนอร์ที่ปรากฏตามสิ่งที่ผู้บริโภคเคยค้นหาหรือดูบนอินเทอร์เน็ต.

การตลาดผ่านการซื้อพฤติกรรม (Behavioral Purchase Marketing)

  1. Behavioral Retargeting - การใช้ข้อมูลพฤติกรรมการเรียกดูของผู้บริโภคเพื่อกำหนดเป้าหมายโฆษณาและเสนอขายใหม่ ตัวอย่าง: การส่งโฆษณาใหม่ที่มุ่งเน้นสินค้าที่ลูกค้าดูแต่ไม่ได้ซื้อในการเข้าชมก่อนหน้า.

  2. Shopping Pattern Analysis - การวิเคราะห์รูปแบบการซื้อของลูกค้าเพื่อทำนายสินค้าหรือบริการที่พวกเขาอาจสนใจในอนาคต ตัวอย่าง: การใช้ข้อมูลการซื้อเพื่อเสนอโปรโมชั่นหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในอีเมลต่อไป.

    New call-to-action

การตลาดแบบอินเทอร์แอคทีฟและมัลติเซนเซอรี (Interactive and Multisensory Marketing)

  1. Multisensory Experiences - การสร้างประสบการณ์การตลาดที่กระตุ้นหลายประสาทสัมผัสพร้อมกันเพื่อเพิ่มความประทับใจและการจดจำแบรนด์ ตัวอย่าง: การจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเสียง, แสง, และอาหารที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์.

  2. Interactive Displays - การใช้จอภาพแบบโต้ตอบที่ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและทำการตัดสินใจซื้อผ่านการโต้ตอบที่น่าสนใจ ตัวอย่าง: จอที่ให้ลูกค้าสร้างและปรับแต่งผลิตภัณฑ์ในร้านค้า.

การตลาดโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำแบบไดนามิก (Dynamic Recognition Technology Marketing)

  1. Facial Recognition Promotions - การใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเพื่อเสนอโปรโมชั่นที่ปรับแต่งได้ตามใบหน้าหรืออารมณ์ของลูกค้า ตัวอย่าง: คีออสก์ที่ให้ส่วนลดแบบทันทีเมื่อตรวจจับรอยยิ้มของลูกค้า.

  2. Gesture-Based Interactions - การใช้เซ็นเซอร์ที่ตอบสนองต่อท่าทางเพื่อเปิดโอกาสในการตลาดและการโต้ตอบที่แปลกใหม่ ตัวอย่าง: โฆษณาที่ผู้บริโภคสามารถโต้ตอบได้โดยการเคลื่อนไหวมือหรือแขน.

การตลาดในยุคดิจิทัลที่ยั่งยืน (Sustainable Digital Marketing)

  1. Eco-friendly Digital Practices - การนำเสนอวิธีการตลาดที่เน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง: การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานด้วยพลังงานหมุนเวียนเพื่อโฮสต์เว็บไซต์และโฆษณาออนไลน์.

  2. Sustainable Advertising Materials - การใช้วัสดุที่ยั่งยืนในการผลิตโฆษณาที่พิมพ์และสื่อการตลาดอื่น ๆ ตัวอย่าง: การใช้หมึกที่ไม่มีสารพิษและกระดาษที่รับรองแล้วจากการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน.

New call-to-action

เทคนิคการรับมือกับ Disruptive Challenger: คู่แข่งที่คุณต้องรู้ในยุคดิจิทัล
ทำไมคุณถึงต้องรู้เกี่ยวกับ คำศัพท์ Digital Marketing ก่อนที่จะทำการตลาดออนไลน์
79 คำศัพท์ทางการตลาด ที่นักการตลาดควรรู้
300 คำศัพท์ทางการตลาด ที่นักการตลาดควรรู้ ปี 2024
คำศัพท์คำที่  1-50  |  51-100  |  101-150  |  151-200  |  201-250  |  251-300

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts

OGF Podcast