Brand Personality คืออะไร ถ้าหาก Customer Persona คือบุคลิกภาพของลูกค้าในฝันที่จะมาซื้อสินค้าหรือบริการของเราแล้ว Brand Personality คงมีความหมายที่กลับกัน แปลเป็นภาษาไทยใช้คำว่า “บุคลิกภาพของตราสินค้า” คือเมื่อเปรียบเทียบแบรนด์สินค้าเป็นคนแล้ว จะเป็นเพศไหน มีลักษณะเป็นอย่างไร มีความรู้ทางด้านใดเป็นพิเศษ
Brand Personality คืออะไร และมีแบบไหนบ้าง
บุคลิกภาพของตราสินค้านั้น การคัดสรรว่าควรจะเป็นไปแนวไหน ต้องขึ้นอยู่กับจุดเด่น และความต้องการที่จะสื่อให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ โดยมากแล้วมักจะแบ่งได้ประมาณ 5 แบบคือ
- Excitement คือความตื่นเต้น ฮึกเหิม ตื่นตัว ท้าทาย สดใส มีความมั่นใจ แบรนด์เหล่านี้มักจะวาง Positioning ของการตลาดเพื่อกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมไปถึงสินค้าและบริการที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในเชิงผจญภัย ต่างวางบุคลิกภาพของตราสินค้าในแนวนี้
- Sincerity คือความห่วงใย ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ บุคลิกภาพนี้จะเห็นได้จากสินค้าและบริการในธุรกิจประกันชีวิต
- Sophistication ความซับซ้อน ความหรูหรา น่าจับจอง มักจะเป็นแบรนด์สินค้าที่มีราคาแพง หรือแบรนด์เนม
- Competence ความเป็นผู้นำ ฉลาด เหนือชั้นกว่า มักจะพบเจอกับสินค้าไอที หรือสมาร์ตโฟน
- Ruggedness ความทนทาน ใช้ได้นาน ห้าวหาญ จะเป็นพวกสิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรกล
ทำความรู้จักกับ Customer Persona ให้มากขึ้น ว่าสำคัญกับการทำธุรกิจแค่ไหน
หลักการใช้ Brand Personality กับ Social Media
แน่นอนว่าบุคลิกภาพของตราสินค้า นำมาปรับใช้กับหลักการ Digital Marketing ในสื่อ Social Media ได้ เพราะสื่อ Social Media นั้นเป็นการสื่อสารสองทาง ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ถ้าหากอยากให้แบรนด์มีบุคลิกภาพของตราสินค้าเป็นอย่างไร คอนเทนต์ที่สื่อสารต้องไปในแนวทางนั้น รวมไปถึงการวางตัวโต้ตอบของแอดมินบน Social Media นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นำหลักการของ Brand Pernality มาปรับใช้ได้เช่นกัน แต่ต้องระวังสับสนกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ค่อนข้างคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างอยู่พอสมควร
อย่ายึดติดกับเรื่อง Brand Personality มากเกินไป
การกังวลเรื่อง Brand Personality มากจนเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะสร้างให้แบรนด์ดูมีชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะทำให้แบรนด์สินค้าของคุณเป็นไปตามความต้องการ การสร้าง Brand Personality ไม่ได้เกิดขึ้นเองภายในระยะเวลาอันสั้น ผิดกับเพจ Community หรือตราสินค้าที่เป็นคนจริงๆ จะสร้าง Brand Personality ได้ง่ายกว่ามาก เช่นเพจดังอย่าง Drama Addict, แหม่มโพธิ์ดำ รวมถึงเพจชื่อดังอื่นๆ ที่สร้างโดยใช้คนเป็นแกนนำ จะยิ่งตอกย้ำ Brand Personality ได้ชัดเจนมากขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดที่ว่าอายุขัยของคนมีจำกัด แต่แบรนด์มีไม่จำกัดจนกว่าล้มหายตายจาก จากธุรกิจไป จึงทำให้ Brand Personality ของสินค้าอยู่ยืนยาวกว่านั่นเอง
ถ้าหากคุณรู้จักแบรนด์ และรู้จักว่าใครที่เป็นรู้ค้าของคุณเพียงเท่านี้คุณจะสามารถเดินได้ถูกทาง แต่การเดินของคุณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าหากคุณ ผสมผสานกลยุทธ์ทางการตลาดแบบดึงดูด Inbound Marketing เข้าไป แล้วกลยุทธ์ที่ว่านั้นมันคืออะไร
ถ้าคุณการที่จะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ อีกสิ่งที่สำคัญก็คือการวางแผนทางการตลาด เราแนะนำสิ่งที่ควรรู้ก่อนการทำการตลาด
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
No Comments