“Culture eats strategy for breakfast.” คำพูดของ Peter Drucker นักคิดด้านการจัดการระดับตำนาน สะท้อนความจริงที่ว่า ต่อให้มียุทธศาสตร์ดีแค่ไหน ถ้าคนในองค์กรยังยึดติดกับวัฒนธรรมเดิม ๆ ทุกอย่างก็ล้มเหลว
สำหรับเจ้าของธุรกิจสายการศึกษา เช่น โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนเอกชน การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนไม่ได้เริ่มที่แผนกลยุทธ์ แต่อยู่ที่ “การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร” โดยเฉพาะ Mindset ของครูและบุคลากรที่เป็นหัวใจของโรงเรียน
วัฒนธรรมองค์กร คืออะไร และสำคัญกับโรงเรียนอย่างไร?
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) หมายถึง ค่านิยม ความเชื่อ และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ภายในองค์กร ซึ่งส่งผลต่อวิธีการทำงาน การตัดสินใจ และความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทั้งหมด
ในบริบทของโรงเรียน วัฒนธรรมองค์กรสะท้อนผ่าน
- วิธีการสอนของครู
- ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน
- วิธีที่ผู้บริหารสื่อสารและตัดสินใจ
- การยอมรับความเปลี่ยนแปลงหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ
หากวัฒนธรรมยังเป็นแบบ “สั่งการจากบนลงล่าง” “ไม่กล้าลองผิดลองถูก” หรือ “กลัวการใช้เทคโนโลยี” ก็ยากที่จะขับเคลื่อนกลยุทธ์ใหม่ ๆ อย่าง Active Learning, Digital Classroom หรือ Personalized Education
จุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลง : Mindset ของครูและบุคลากร
แนวคิดที่ทรงพลังที่สุดในการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร คือ “เปลี่ยนที่คนก่อน” โดยเฉพาะครู เพราะครูเป็นเสาหลักที่ขับเคลื่อนคุณภาพการเรียนรู้
ตัวอย่างที่เห็นผลจริง
- จาก Passive สู่ Active: โรงเรียนแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เปลี่ยนวัฒนธรรมให้ครูเป็น “ผู้โค้ช” แทน “ผู้สอน” ผ่านเวิร์กช็อป 3 เดือน ผลคือเด็กมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น และเกิด engagement สูงขึ้นในชั้นเรียน
- เปลี่ยนจาก “อาจารย์ใหญ่รู้ดีที่สุด” เป็น “เรียนรู้ร่วมกัน”: โรงเรียนในฟินแลนด์ใช้แนวทาง distributed leadership ส่งเสริมให้ครูมีสิทธิในการเสนอแผนการสอนแบบข้ามวิชา และร่วมออกแบบนโยบาย ทำให้วัฒนธรรมการทำงานเปลี่ยนไปในทางบวก
วิธีการเปลี่ยน Mindset ในโรงเรียน
- ใช้การ “โค้ช” แทนการสั่ง
- จัด Learning Community เช่น PLC (Professional Learning Community)
- ตั้งเป้าร่วมกันและสะท้อนผลการสอนร่วมกัน
ใช้ McKinsey 7-S Model ประเมินจุดอ่อนภายในโรงเรียน
โมเดล McKinsey 7-S เป็นกรอบวิเคราะห์ที่ใช้ดู alignment ภายในองค์กร โดยพิจารณา 7 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
- Strategy – กลยุทธ์ของโรงเรียน
2. Structure – โครงสร้าง เช่น ระบบการบริหาร - Systems – ระบบ เช่น กระบวนการสอน การประเมิน
4. Shared Values – ค่านิยมร่วม เช่น “เด็กต้องมีความสุขในการเรียน”
5. Style – ลักษณะผู้นำ เช่น ผู้อำนวยการเปิดรับความคิดเห็นหรือไม่
6. Staff – บุคลากร เช่น ครูมีความพร้อมเพียงใด
7. Skills – ทักษะ เช่น ความสามารถใช้ EdTech หรือออกแบบการเรียนรู้ใหม่ ๆ
>>> เจาะลึก ADKAR MODEL ปรับตัวอย่างไรในยุค EDTECH
การวิเคราะห์ด้วย 7-S ช่วยให้เจ้าของโรงเรียนเห็น “จุดขาด” ที่ต้องพัฒนา เช่น ถ้า Strategy ชัด แต่ Staff ยังไม่มี Skills หรือ Shared Values ไม่สอดคล้อง ก็อาจต้องเริ่มที่การฝึกอบรมและสร้างวัฒนธรรมร่วมก่อน
ทำไมวัฒนธรรมองค์กรถึงขัดขวางกลยุทธ์ใหม่?
แม้จะมีนโยบายและเทคโนโลยีทันสมัย แต่ถ้า “ความเชื่อเดิม” ยังฝังรากลึก ก็เหมือนพายเรือทวนกระแส ตัวอย่างของ General Motors (GM) ที่ล้มเหลวจากวัฒนธรรมแบบราชการมากเกินไป กลายเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจที่เร็วและคล่องตัว
ในโรงเรียนก็ไม่ต่างกัน หากครูยัง “กลัวการเปลี่ยน” หรือ “ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นจริง” โรงเรียนก็ไม่สามารถปรับตัวกับโลกยุคใหม่ได้

บทสรุปสำหรับเจ้าของธุรกิจโรงเรียน
วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่เรื่องนามธรรมอีกต่อไป แต่มันคือ “จุดตั้งต้นของทุกการเปลี่ยนแปลง” โดยเฉพาะในธุรกิจการศึกษา
หากคุณเป็นเจ้าของโรงเรียนที่ต้องการเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน เริ่มที่การเปลี่ยนวิธีคิดของครูก่อน สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้บุคลากรกล้าลองผิดและเรียนรู้ร่วมกัน แล้ววางแผนยุทธศาสตร์ใหม่จากฐานวัฒนธรรมที่แข็งแรง
อย่าลืมว่า “Strategy คือสิ่งที่วางได้ง่าย แต่ Culture คือสิ่งที่ต้องลงมือทำอย่างต่อเนื่อง” — และนั่นคือสิ่งที่โรงเรียนของคุณต้องเริ่มจากวันนี้
อ้างอิง : Business Explained. (2023). Change Management Strategies. Retrieved from https://business-explained.com/shop/change-management-strategies-explained/
อ่านบทความเพิ่มเติม :
กุญแจสู่ความสำเร็จ!: สร้างทักษะนักธุรกิจรุ่นใหม่ในองค์กร SMES
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com
No Comments