<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

3 กลยุทธ์ สำหรับการตลาดยุคใหม่ที่ธุรกิจต้องพัฒนามากขึ้น

การอยู่รอดและพาธุรกิจก้าวต่อไปท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งระบบเศรษฐกิจ ระบบสาธารณสุข และโครงสร้างสังคม เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่หลายธุรกิจต้องเผชิญ ทำให้ธุรกิจมากมายที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมต้องปรับเปลี่ยนและพยายามหากลยุทธ์ใหม่เพื่อเอาตัวรอดในช่วงเวลาที่ยากลำบาก 3 กลยุทธ์ทางการตลาดยุคใหม่ที่จะกล่าวต่อไปจึงอาจกลายเป็นอีกหนึ่งทางออกให้ธุรกิจของคุณได้เดินหน้าต่อ และเป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจต่อไป

ความเร็วที่เหนือกว่า เป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบ

shutterstock_519567250

เพราะทุกวันนี้คุณไม่ได้แข่งขันกับคู่แข่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแข่งขันกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนด้วย ดังนั้น เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบและแตกต่าง ก็คือความเร็ว โดยคุณต้องเริ่มต้นเร่งความเร็วจาก 

  • รู้เร็ว ด้วยการเปิดรับข้อมูล - ข่าวสารที่หลากหลายแหล่งให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ยิ่งรู้เร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปรับเปลี่ยนแผนหรือกระบวนการทางธุรกิจได้ทันท่วงทีมากขึ้นเท่านั้น 
  • ปรับเร็ว เมื่อรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง คุณจึงยึดติดกับ Business Model แบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกต่อไป การปรับตัวที่รวดเร็วให้สอดรับกับสถานการณ์ จึงเป็นหนทางที่จะช่วยพยุงธุรกิจและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้ เห็นได้จาก Netflix แม้จะได้รับผลกระทบน้อย แต่ก็ไม่ชะล่าใจ เล็งเห็นโอกาสที่ดีในช่วงที่โรงภาพยนตร์ปิด ด้วยการออกบริการใหม่ Netflix Party ให้คุณและเพื่อนได้ดูหนังพร้อมกัน อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้ Chat คุยระหว่างดูด้วย บริการนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อทดแทนการดูหนังกับเพื่อนในโรงภาพยนตร์และเติมเต็มให้ผู้ที่โหยหาการเข้าสังคมได้ 
  • ทำเร็ว หากพบหนทางที่ดี คุณจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจและรีบลงมือทำทันที เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วกว่าคู่แข่ง เพื่อสร้างความเร็วที่เหนือกว่า หลายธุรกิจจึงเริ่มใช้เทคโนโลยี และแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นตัวช่วยให้ในการเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าได้เร็วขึ้น เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น ช่องทางออนไลน์จึงกลายเป็นทางหลักที่สามารถ connect กับลูกค้าได้ตลอดเวลา และแสดงความเคลื่อนไหวของแบรนด์ให้ลูกค้ารับรู้ได้เร็วที่สุด ดังนั้น การสร้างและขยายแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วและมากที่สุด รวมทั้งหันมาทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยใช้ประโยชน์จาก Data ทั้ง Customer Data และ Industry Insights มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด จึงเป็นเครื่องมือเพิ่มความเร็วที่ดี

คุณภาพ เรื่องที่ผู้บริโภคคำนึงมากขึ้น

shutterstock_431541172

เมื่อความคุ้มค่าไม่ใช่ราคาอีกต่อไป ผู้บริโภคหลายคนเริ่มมองข้ามเรื่องราคา แล้วหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยมากขึ้น จะเห็นได้ชัดเจนในสินค้าเพื่อสุขภาพและอาหารที่มีมาตรฐานความสะอาดสูง น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ และมีบริการที่น่าประทับใจ อย่างเช่น บริการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว แม้จะมีราคาสูงผู้บริโภคก็ยินดีที่จะจ่าย หากเป็นสิ่งจำเป็นและผลที่พวกเขาได้รับนั้นคุ้มค่า 

การคงคุณภาพ ปรับปรุงให้ดีขึ้น และเสริมสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการจึงเป็นหนทางที่ดีที่คุณจะสามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เสมือนเป็นฐานรากทางธุรกิจของคุณ อีกทั้งยังถือเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์หรือธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ได้ด้วย

ต้นทุน ต้องอาศัยการจัดการที่ดี

shutterstock_1702637683

เมื่อการลดต้นทุนด้านการผลิตอาจส่งผลต่อคุณภาพของสินค้า คุณจึงจำเป็นต้องจัดการกับต้นทุนส่วนอื่นอย่างรอบคอบ โดยจะต้องใช้ต้นทุนที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ และคุ้มค่าสูงสุด

  • ต้นทุนการจ้างงาน 

 ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หลายบริษัทและองค์กรเลือกที่จะลดการจ้างงานลง เพื่อลดต้นทุนของบริษัท ทั้งที่จริงแล้วการที่บริษัทจะอยู่รอดได้นั้นไม่ใช่แค่การลดต้นทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการพยุงยอดขายและผลประกอบการไปพร้อมกันด้วย ซึ่งพนักงานก็คือฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ให้เดินหน้าต่อไปได้

ดังนั้น การลดต้นทุนด้วยการเลิกจ้างอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป นอกจากนี้การรักษาคนทำงานไว้ได้ ก็เปรียบได้กับการรักษาความน่าเชื่อและสร้างการรับรู้ที่ดีต่อบริษัทและองค์กรในระยะยาวได้อีกด้วย 

วิธีที่ดีในการจัดการกับต้นทุนการจ้างงานโดยที่ยังรักษาคนทำงานไว้ได้ คือ การไม่จ้างพนักงานใหม่ แต่หันมาพัฒนาศักยภาพและเพิ่มทักษะด้านต่าง ๆ ให้พนักงานของคุณสามารถทำงานได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพ อย่างการอบรมออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้

  • ต้นทุนด้านการตลาดและโฆษณา

การเข้ามาของไวรัสโควิด ได้ตอกย้ำให้เห็นชัดว่าออนไลน์ได้กลายเป็นช่องทางหลักในการทำการตลาด ชึ่งในยามวิกฤตคุณจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างประหยัด การตลาดแบบหว่านแห่จึงไม่สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็สามารถจัดการกับงบประมาณส่วนนี้ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดได้ หากคุณรู้จัก เข้าใจลูกค้าตัวจริงที่ซื้อสินค้าของคุณเป็นประจำ รวมทั้งตระหนักถึงความต้องการของลูกค้า 

ซึ่ง Data คือ เครื่องมือสำคัญช่วยให้ทำการตลาดได้ตรงเป้าหมายแม้ในยามงบน้อย โดยคุณจะต้องนำ Data จากแหล่งต่าง ๆ ที่มีอยู่มาวิเคราะห์ จะช่วยให้ลดความเสี่ยง และทำให้คุณรู้จักและคาดเดาความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำ ทำให้ทำการตลาดและโฆษณาได้ตอบโจทย์และตรงเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งเท่ากับการรักษาและเพิ่มยอดขายและผลประกอบการให้แก่บริษัท 

เพราะทั้งความเร็ว คุณภาพ และต้นทุนนั้นส่งผลโดยตรงด้านการแข่งขันและการอยู่รอดของธุรกิจมาโดยตลอด ยิ่งต้องดำเนินธุรกิจในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ยิ่งต้องวางแผนอย่างถี่ถ้วนและหากลยุทธ์เพื่อจัดการสิ่งเหล่านี้อย่างรัดกุม ซึ่ง 3 กลยุทธ์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ดี ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในยามวิกฤตและสถานการณ์ปกติ เพื่อให้ธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้จนกว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก

 

 

ORAPIM SAPPRADIT x OURGREENFISH

Digital Marketing Measurement Webinar

New call-to-action

 

บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ

8 แนวทางหลักใน การทำ DIGITAL MARKETING พร้อมวิธีการใช้งาน

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts