ทำไม Breeze Data Agent ถึงต่างจาก Data Enrichment แบบเก่า

ข้อมูลกลายเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ หลายบริษัทใช้วิธี Data Enrichment แบบเดิมในการเติมข้อมูลพื้นฐานของลูกค้า เช่น อีเมล อุตสาหกรรม หรือขนาดบริษัท จากแหล่งข้อมูลภายนอก เพื่อช่วยฝ่ายขายและการตลาดทำความเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น แต่เจ้าของธุรกิจหลายท่านคงเคยประสบปัญหาว่าข้อมูลเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ ทีมขายและทีมการตลาดต้องเสียเวลามหาศาลไปกับการค้นคว้าข้อมูลลูกค้าเองตาม LinkedIn หรือเว็บไซต์ข่าวก่อนการประชุมลูกค้า ขณะที่ทีมบริการลูกค้าก็ทำงานลำบากเมื่อต้องช่วยเหลือโดยไร้ “บริบท” ข้อมูลรอบด้านของลูกค้า ปัญหาดังกล่าวนำไปสู่ความต้องการเครื่องมือที่ชาญฉลาดกว่าเดิม

ที่งาน INBOUND ปี 2025 ทาง HubSpot ได้เปิดตัว Breeze Data Agent ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ เครื่องมือนี้เป็นเสมือนผู้ช่วยวิจัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งผสานรวมข้อมูลจากระบบ CRM, บทสนทนากับลูกค้า, เอกสารต่าง ๆ ตลอดจนข้อมูลบนเว็บไซต์ เข้าด้วยกัน เพื่อหาคำตอบเชิงลึกให้กับคำถามทางธุรกิจของคุณได้ทันทีและในวงกว้าง

Data Enrichment แบบเก่าได้แค่ข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น

เครื่องมือ Data Enrichment รุ่นก่อน ๆ นั้นทำหน้าที่เพียงเติมข้อมูลพื้นฐานลงในโปรไฟล์ลูกค้าเท่านั้น ข้อมูลที่เพิ่มเข้ามามักเป็นข้อมูลแบบ fact หรือข้อเท็จจริงทั่วไป เช่น ชื่อตำแหน่งงานของลูกค้า อุตสาหกรรมที่บริษัทของลูกค้าดำเนินการ หรือขนาดบริษัท (จำนวนพนักงาน/รายได้) เป็นต้น การมีข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ช่วยให้ทีมขายและการตลาดพอจะรู้จักลูกค้าในภาพกว้าง ๆ ได้ก็จริง แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลดิบระดับผิวเผินที่ไม่ได้บอกอะไรเชิงลึกมากนักเกี่ยวกับความต้องการหรือบริบทที่แท้จริงของลูกค้า

เครื่องมือ enrichment แบบเดิม ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อหาคำตอบเชิงธุรกิจที่เจาะจงให้เรา เช่น คุณจะไม่ได้คำตอบจากเครื่องมือเหล่านี้ว่าลูกค้ารายนี้กำลังมีปัญหาทางธุรกิจอะไรอยู่ หรือมีแนวโน้มที่จะต้องการโซลูชันของเราหรือไม่ เพราะระบบเก่าเพียงแค่ดึงข้อมูลที่มีอยู่แล้วมาเติม แต่ไม่ได้ “คิด” หรือวิเคราะห์ต่อยอดให้ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือ enrichment แบบเดิมยังอาจหมายถึงการต้องสลับไปมาระหว่างหลายระบบ เช่น ระบบ CRM, แหล่งข้อมูลภายนอก และสเปรดชีตต่าง ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ครบ ทำให้กระบวนการทำงานยุ่งยากและเกิดช่องว่างของข้อมูลได้ง่าย

Breeze Data Agent ดึง “ข้อมูลเชิงลึก” ที่มากกว่าข้อเท็จจริงทั่วไป

ต่างจากการ enrichment แบบเดิม Breeze Data Agent ใช้ศักยภาพของ AI ในการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดึงข้อมูลเชิงลึก (insights) ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละรายออกมา ไม่ได้จำกัดแค่ข้อมูลพื้นฐานทั่วไปอีกต่อไป

เช่น แทนที่ Breeze จะบอกคุณแค่ว่า “บริษัทลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมอะไร” หรือ “มีพนักงานกี่คน” ซึ่งเป็นแค่ facts แต่เครื่องมือนี้สามารถตอบคำถามเชิงลึกทางธุรกิจได้เลยว่าลูกค้าของคุณมีบริบทความต้องการอย่างไรบ้าง มันสามารถตอบคำถามเฉพาะที่เจ้าของธุรกิจอยากรู้ อย่างเช่น “บริษัทนี้มีการใช้สินค้าของคู่แข่งอยู่หรือเปล่า?”, “องค์กรนี้เพิ่งขยายทีมขายของตัวเองหรือไม่?” หรือแม้แต่ “บัญชีลูกค้ารายนี้กำลังแสดงสัญญาณว่าอยู่ในช่วงกำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้าของเราหรือไม่?” เป็นต้น

คำถามเหล่านี้เป็นตัวอย่างระดับข้อมูลเชิงลึกที่ Data Enrichment แบบเก่าไม่สามารถให้ได้ แต่ Breeze Data Agent ให้คำตอบแก่คุณได้ในทันทีภายในระบบเดียว

ตัวอย่างคำถามเชิงลึกที่ Breeze Data Agent สามารถตอบได้ เช่น

- “บริษัทนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งอยู่หรือไม่?”

- “ลูกค้าเป้าหมายรายนี้เพิ่งมีการขยายทีมขายของตัวเองหรือเปล่า?”

- “บัญชีลูกค้ารายนี้มีสัญญาณว่าอยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อสินค้าหรือไม่?”

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า Breeze Data Agent ให้ข้อมูลระดับ Insight ไม่ใช่แค่ Fact ธรรมดา โดยมันจะค้นคว้าหาคำตอบจากข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ารายนั้น แล้วสรุปออกมาเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ให้เรา

วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในระดับ “Insight” ไม่ใช่แค่ “Fact”

ความแตกต่างสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ระดับของการวิเคราะห์ข้อมูล เครื่องมือยุคเก่าจะให้เราเฉพาะข้อมูลข้อเท็จจริง (facts) ที่หาได้ เช่น รายละเอียดโปรไฟล์หรือตัวเลขสถิติต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยทีมงานตีความและนำไปวิเคราะห์เองต่อ แต่ Breeze Data Agent จะยกระดับจากข้อเท็จจริงไปสู่ insight ให้เลย หมายความว่าแทนที่เราจะได้แค่ข้อมูลดิบ Breeze จะกรองและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นให้กลายเป็นความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับลูกค้า Insight คือการเชื่อมโยงข้อมูลหลายอย่างเข้าด้วยกันเพื่อบอกสิ่งที่ซ่อนอยู่หรือแนวโน้มที่เป็นไปได้ ยกตัวอย่างเช่น จากข้อมูลหลายแหล่ง Breeze อาจสรุปให้อย่างรวดเร็วว่าลูกค้ารายนี้กำลังมีปัญหาด้านการขยายทีมขาย ซึ่งเป็น insight ที่มีประโยชน์ต่อการขาย

ในขณะที่ fact ที่เราอาจมีคือ “ลูกค้ารายนี้เพิ่งประกาศรับสมัครพนักงานขายเพิ่ม 10 ตำแหน่ง” ซึ่งถ้าดูแต่ข้อมูลตรง ๆ อย่างเดียวเราอาจไม่ทราบถึงความเร่งด่วนหรือตัวขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลัง แต่ Breeze จะเชื่อมโยงข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านี้เข้าด้วยกันและแปลความหมายให้ว่า ลูกค้ากำลังขยายทีมขาย หมายถึงบริษัทน่าจะกำลังเติบโตหรือมีดีมานด์เพิ่มขึ้น เป็นต้น ดังนั้นทีมขายของคุณก็สามารถเตรียมกลยุทธ์เข้าพบลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดมากขึ้น ไม่พลาดโอกาสสำคัญที่ควรจะคว้าไว้

Breeze Data Agent ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบคำถามทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงโดยใช้ข้อมูลจากทุกแหล่งที่มี ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างจากเครื่องมือ enrichment เดิมโดยสิ้นเชิง ยืนยันได้จากคำอธิบายของ HubSpot เองที่ว่า “เครื่องมือ enrichment แบบมาตรฐานจะเติมข้อมูลพื้นฐานให้ เช่น ตำแหน่งงานหรืออุตสาหกรรม แต่ Data Agent จะตอบคำถามเชิงธุรกิจเฉพาะของคุณได้เลย เช่น ‘บริษัทนี้ต้องมีทีมขายหรือไม่?’ หรือ ‘พวกเขาอยู่ในช่วงกำลังจะซื้อสินค้าหรือเปล่า?’ โดยใช้ข้อมูลทั้งหมดที่คุณมีอยู่”กล่าวอีกอย่างคือ Breeze ไม่ได้ให้ข้อมูลเป็นชิ้น ๆ อย่างเดียว แต่ให้มุมมองเชิงวิเคราะห์ที่คุณจะหาไม่ได้จากการดูข้อมูลดิบเพียงอย่างเดียว

เข้าใจบริบททางธุรกิจของลูกค้า ไม่ใช่แค่ข้อมูลประชากรศาสตร์

เครื่องมือ Breeze Data Agent ถูกพัฒนาให้สามารถเข้าใจบริบทของลูกค้าในเชิงธุรกิจได้ลึกซึ้ง ซึ่งหมายถึงมันรับรู้ปัจจัยแวดล้อมและสถานการณ์เฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละราย มากกว่าแค่รู้ข้อมูลโปรไฟล์พื้นฐาน (demographic) เช่น ชื่อบริษัท อุตสาหกรรม หรือรายได้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น นอกจากจะรู้ว่าบริษัทลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมอะไร Breeze ยังอาจบอกได้ด้วยว่าบริษัทนั้นกำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเพิ่งได้รับเงินลงทุนก้อนใหญ่ นั่นคือบริบทที่ช่วยให้เราประเมินศักยภาพและความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ขณะที่ข้อมูล demographic อย่างเดียวไม่สามารถให้ภาพเหล่านี้ได้ครบถ้วน

จากข้อมูลของ HubSpot, Data Agent สามารถเพิ่มข้อมูลโปรไฟล์ลูกค้าด้วยข้อมูลเชิงพฤติกรรมและบริบท ที่ดึงมาจากข้อมูลใน CRM ของคุณโดยตรง แทนที่จะได้มาแค่ข้อมูลประชากรศาสตร์พื้นฐาน คุณจะได้รับ “ข่าวกรอง” เชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า ที่ช่วยให้คุณเข้าใจและสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงประเด็นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น กล่าวคือ Breeze ช่วยให้เราเห็นภาพรวมสถานการณ์ของลูกค้าแต่ละรายในเชิงธุรกิจ (business context) ว่าพวกเขากำลังเผชิญกับอะไรหรือสนใจเรื่องใดอยู่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีค่ามากในการวางแผนกลยุทธ์การขายและการตลาดที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ ของลูกค้าแต่ละราย

ลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดเพราะข้อมูลไม่ครบ

การตัดสินใจทางธุรกิจโดยอิงข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือผิวเผิน ย่อมมีความเสี่ยงที่ผลลัพธ์จะคลาดเคลื่อนหรือล้มเหลว เจ้าของธุรกิจหลายท่านอาจเคยเผชิญสถานการณ์ที่ลงทุนทรัพยากรไปกับแคมเปญการตลาดหรือดีลการขายที่คิดว่ามีศักยภาพ แต่สุดท้ายกลับผิดคาด เพราะข้อมูลที่ใช้ตัดสินใจนั้นไม่รอบด้านพอ ตัวอย่างเช่น หากเรามีเพียงข้อมูลพื้นฐาน เราอาจไม่รู้ว่าลูกค้ารายนั้น ไม่อยู่ในช่วงพร้อมซื้อ ทำให้ทุ่มเทการขายผิดจังหวะ หรือไม่รู้ว่าลูกค้า ใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งอยู่แล้ว ทำให้ข้อเสนอของเราไม่ดึงดูด เป็นต้น

การมีข้อมูลเชิงลึกครบถ้วนจาก Breeze Data Agent ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมาก เพราะทีมงานจะได้ข้อมูลทุกมิติของลูกค้า จึงวางแผนกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น ปรับวิธีการเข้าหาลูกค้าได้ตรงความต้องการจริง ลดโอกาสที่จะตัดสินใจพลาดไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้ จากสถิติของผู้ใช้งาน HubSpot พบว่า 78% ของผู้ใช้กล่าวว่าระบบ HubSpot ช่วยเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจธุรกิจโดยอิงข้อมูลของพวกเขาให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการมีข้อมูลที่ครบและถูกต้องส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้นของธุรกิจคุณ

อีกมุมหนึ่ง การที่ Breeze Data Agent ช่วยรวบรวมข้อมูลให้อัตโนมัติและให้ข้อมูลเชิงลึกเลย ยังช่วยลดความเสี่ยงของข้อมูลผิดพลาดจากการทำงานด้วยมือของทีมงานด้วย เพราะเมื่อมนุษย์ต้องค้นหาและป้อนข้อมูลเองทีละระบบ โอกาสที่จะตกหล่นหรือป้อนข้อมูลผิดย่อมสูงกว่าให้ AI จัดการให้ทั้งหมด นั่นหมายความว่าข้อมูลที่คุณได้รับจะมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากกว่า ลดความเสี่ยงของการตัดสินใจบนข้อมูลผิด ๆ ไปได้อีกทางหนึ่ง

เชื่อมตรงกับ CRM และ Workflow – ข้อมูลอยู่ในที่ที่คุณใช้งาน

ข้อดีสำคัญอีกด้านของ Breeze Data Agent คือความสะดวกในการผนวกการทำงานเข้ากับเครื่องมือที่คุณใช้อยู่แล้ว เช่น ระบบ CRM และระบบ Workflow ภายในองค์กรของคุณ โดยปกติเมื่อเราใช้เครื่องมือหาข้อมูลภายนอก เราอาจต้องสลับหน้าจอหรือระบบไปมา แล้วนำข้อมูลที่ได้มากรอกลง CRM เอง แต่สำหรับ Breeze นั้นทำงานอยู่บนแพลตฟอร์ม HubSpot ซึ่งหมายความว่ามันจะดึงและส่งคืนข้อมูลเข้าไปที่ CRM ของคุณโดยอัตโนมัติ ทุกอย่างเกิดขึ้นในระบบเดียวแบบไร้รอยต่อ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จะถูกแสดงผลให้ทีมของคุณเห็นโดยตรงใน HubSpot Smart CRM, Data Studio หรือใน workflow ต่าง ๆ ที่คุณตั้งค่าไว้ โดยที่ทีมไม่ต้องสลับไปใช้เครื่องมืออื่นหรือคัดลอกข้อมูลเองให้วุ่นวายเลย

เช่น คุณสามารถตั้งค่าให้ Breeze สร้างฟีลด์ข้อมูลใหม่ในโปรไฟล์ลูกค้าโดยอัตโนมัติ (เช่น ฟีลด์ที่ระบุว่า “อยู่ในช่วงกำลังจะซื้อหรือไม่”) ซึ่งฟีลด์นี้มาจากการวิเคราะห์ของ AI เมื่อลูกค้าเข้าข่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด ข้อมูลนี้ก็จะไปปรากฏอยู่ใน CRM ของคุณทันที และคุณยังสามารถใช้ฟีลด์ดังกล่าวใน workflow เพื่อทริกเกอร์กระบวนการต่าง ๆ ต่อได้ด้วย เช่น มอบหมาย task ให้ทีมขายตามงานลูกค้าที่พร้อมซื้อ หรือนำลูกค้ารายนั้นเข้าแคมเปญการตลาดเฉพาะกิจ เป็นต้น การทำงานแบบบูรณาการเช่นนี้ช่วยประหยัดเวลาของทีมงาน ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และลดข้อผิดพลาดจากการโยกย้ายข้อมูลระหว่างระบบ

นอกจากนี้ การที่ Breeze อยู่บน HubSpot Platform ยังทำให้ การตั้งค่าและใช้งานทำได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องพึ่งทีมไอทีมาคอยเชื่อมระบบให้วุ่นวาย คุณสามารถเปิดใช้งาน Breeze Data Agent และเริ่มตั้งค่าคำถามหรือข้อมูลที่อยากได้ภายในไม่กี่นาที โดย HubSpot ได้ออกแบบให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งาน AI Agent ตัวนี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเขียนโค้ดใด ๆ และสามารถปรับขนาดการใช้งานไปพร้อมกับธุรกิจที่เติบโตขึ้นได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าคุณจะใช้กับลูกค้าเพียงหลักสิบรายหรือหลักพันราย ระบบก็รองรับได้สบาย (ด้วยโมเดลการใช้หน่วยเครดิตตามปริมาณข้อมูลที่วิเคราะห์) ทั้งหมดนี้หมายความว่าเจ้าของธุรกิจจะได้ประโยชน์จาก AI อัจฉริยะนี้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือที่คุ้นเคยหรือลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมเลย

ก้าวข้ามการทำ Data Enrichment แบบเก่าสู่ยุคใหม่ของข้อมูลเชิงลึก

Breeze Data Agent คือก้าวกระโดดครั้งสำคัญของการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้า จากวิธีการ enrichment แบบเก่าที่ให้ได้เพียงข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้น มาเป็นการใช้ AI เพื่อค้นหาความจริงเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลจำนวนมหาศาลได้โดยอัตโนมัติ ในสายตาของเจ้าของธุรกิจ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและวิเคราะห์มาแล้วเช่นนี้ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและรวดเร็วกว่าเดิม ทีมขายใช้เวลาเตรียมตัวน้อยลงแต่เข้าหาลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น ทีมการตลาดสามารถปรับแต่งแคมเปญให้ตรงกับความสนใจจริง ๆ ของกลุ่มเป้าหมาย

ส่วนทีมบริการลูกค้าก็เข้าใจสถานการณ์ของลูกค้าเชิงรุกมากขึ้น (anticipate needs) และสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุดท้ายแล้ว การมีข้อมูลเชิงลึกแบบ 360° ที่ได้มาทันทีทันใดนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวนำหน้าคู่แข่ง ด้วยการตัดสินใจที่แม่นยำจากข้อมูลที่ครบและถูกต้อง ลดการคาดเดาไปอย่างมาก เมื่อข้อมูลไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ธุรกิจของคุณก็สามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นใจในทุกก้าวย่าง

อ้างอิง :