<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

เคล็ดลับสร้าง Customer Value ด้วย CRM ในธุรกิจ B2B

Audio Version
เคล็ดลับสร้าง Customer Value ด้วย CRM ในธุรกิจ B2B
10:08

สร้าง Customer Value ในธุรกิจ B2B เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความสำเร็จระยะยาวในยุคดิจิทัลนี้ ธุรกิจที่มองเห็นและเข้าใจถึงคุณค่าของการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าจะมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ด้วยการนำ CRM มาช่วยในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า คุณสามารถปรับปรุงการสื่อสาร การให้บริการ และความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Customer Value คืออะไร?

shutterstock_2105195747

Customer Value คือ คุณค่าที่ลูกค้ารับรู้จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่คุณภาพหรือราคาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสบการณ์โดยรวมที่ลูกค้าได้รับจากการทำงานร่วมกับบริษัท การสร้าง Customer Value ในธุรกิจ B2B มักเกี่ยวข้องกับการส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจและอยากทำธุรกิจด้วยในระยะยาว

การใช้ CRM จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวม วิเคราะห์ และจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง Customer Value ในธุรกิจ B2B

  1. ใช้ CRM เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าเชิงลึก

ในธุรกิจ B2B การทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งเป็นสิ่งสำคัญ CRM สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อ ความต้องการเฉพาะตัว การโต้ตอบก่อนหน้า และข้อมูลเชิงลึกจากหลายช่องทาง การใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจและประเมินได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร และวิธีใดที่จะสร้างคุณค่าให้กับพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า: CRM สามารถรวบรวมข้อมูลการโต้ตอบของลูกค้ากับธุรกิจได้ทุกจุดสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล การสนทนาทางโทรศัพท์ หรือการติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุความต้องการหรือปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญ เพื่อเสนอการแก้ไขที่ตรงจุดได้
  • การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation): การใช้ CRM ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบข้อเสนอพิเศษหรือการให้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม การแบ่งกลุ่มเช่นนี้จะทำให้การสื่อสารและการเสนอคุณค่าเฉพาะตัวมีความแม่นยำและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่าง: หากลูกค้ากลุ่มหนึ่งมีความต้องการในการรับบริการหลังการขายที่รวดเร็ว การใช้ CRM ในการติดตามและวิเคราะห์ประวัติการให้บริการจะช่วยให้ทีมบริการสามารถตอบสนองได้ตรงกับความต้องการและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

  1. การใช้ CRM เพื่อปรับปรุงการสื่อสาร

การสื่อสารที่ดีและต่อเนื่องเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้าง Customer Value ในธุรกิจ B2B CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการและติดตามการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การติดตามอีเมล การแจ้งเตือนผ่านระบบ ไปจนถึงการจัดการตารางการนัดหมาย ทั้งหมดนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและสม่ำเสมอกับลูกค้าได้

  • การสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว (Personalized Experience): CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งข้อความและเนื้อหาสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอโปรโมชั่นพิเศษที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า หรือการส่งข้อมูลที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของพวกเขา การทำเช่นนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าธุรกิจเข้าใจและใส่ใจในความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง
  • การจัดการช่องทางการสื่อสารหลากหลาย (Omnichannel Communication): CRM สามารถช่วยรวมช่องทางการสื่อสารต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การสื่อสารผ่านอีเมล โทรศัพท์ โซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มอื่นๆ การจัดการเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ในทุกช่องทางที่พวกเขาใช้

ตัวอย่าง: บริษัทที่ใช้ CRM เพื่อติดตามการโต้ตอบผ่านโซเชียลมีเดียและอีเมลสามารถตรวจสอบได้ว่าลูกค้ามีการตอบกลับอย่างไรและพร้อมที่จะปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของพวกเขา

  1. การใช้ CRM เพื่อจัดการบริการหลังการขาย (Customer Support)

การให้บริการหลังการขายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้าง Customer Value ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในธุรกิจ B2B ที่มักมีการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการในปริมาณมาก การบริการหลังการขายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่ง CRM มีบทบาทสำคัญในการจัดการบริการหลังการขายให้มีคุณภาพ

  • การติดตามสถานะการบริการ (Service Ticket Tracking): CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามสถานะคำร้องหรือคำขอรับบริการจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทีมบริการสามารถติดตามและจัดการปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การใช้ข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุปัญหาซ้ำซ้อนหรือแนวโน้มของปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น
  • การวิเคราะห์ความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction Analysis): CRM สามารถเก็บข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้าหลังจากได้รับการบริการ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินประสิทธิภาพของทีมบริการและปรับปรุงการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่าง: การใช้ CRM ในการติดตามปัญหาของลูกค้าหลังจากการซื้อ และจัดการตอบสนองต่อคำร้องขอในเวลาที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว

Customer Support ที่ไม่รู้ลืมในธุรกิจ B2B ด้วย CRM

  1. การใช้ CRM เพื่อเพิ่มความยั่งยืนในการขาย (Sales Sustainability)

การสร้าง Customer Value ในธุรกิจ B2B ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจร่วมกันในระยะยาว CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามประวัติการขาย ประวัติการสั่งซื้อ และข้อมูลลูกค้าในระยะยาวได้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์ยอดขายและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อ (Purchase History Analysis): การใช้ CRM เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการซื้อในอดีตช่วยให้ธุรกิจสามารถทำนายแนวโน้มการซื้อในอนาคตและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้ เช่น การเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าตามประวัติการซื้อ
  • การรักษาลูกค้าเก่า (Customer Retention): CRM ช่วยในการสร้างกลยุทธ์การรักษาลูกค้าเก่า ด้วยการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เช่น การเสนอโปรโมชั่นพิเศษหรือการติดตามผลหลังการขายอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาลูกค้าเดิมและเพิ่มยอดขายจากการซื้อซ้ำได้

ตัวอย่าง: ธุรกิจที่ใช้ CRM ในการติดตามการสั่งซื้อซ้ำจากลูกค้ารายใหญ่ สามารถนำเสนอข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าก่อนการสั่งซื้อรอบใหม่ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีได้

My CTA (15 July 2024 9:57)

  1. การวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ด้วย CRM

การวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จาก CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การขายและการบริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ข้อมูลจริงเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า การตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด และประสิทธิภาพของการบริการช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ

  • การวิเคราะห์ ROI จากการใช้ CRM: การวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการใช้ CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินได้ว่าแคมเปญใดให้ผลตอบแทนสูงที่สุดและควรเน้นกลยุทธ์ใดในการเพิ่มยอดขายและสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า
  • การปรับปรุงกลยุทธ์การขาย: การใช้ข้อมูลจาก CRM ในการปรับปรุงกลยุทธ์การขายช่วยให้ธุรกิจสามารถเสนอข้อเสนอพิเศษที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น

CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่ม Customer Value ให้กับธุรกิจ B2B ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและรักษาความไว้วางใจจากลูกค้าในระยะยาวได้ การใช้ CRM ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การขาย การบริการ และการสื่อสาร จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความพึงพอใจและเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง

การสร้าง Customer Value ผ่าน CRM ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้เท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ B2B ในระยะยาว

อ่านบทความเพิ่มเติม : Customer Support CRM ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาลูกค้า

 

 E-book-Complete every dimension of CRM

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

 

Recent Posts

OGF Podcast