เจาะลึก Sales Cycle ของ B2B ผ่านมุมมอง CRM

ในธุรกิจ B2B การทำความเข้าใจ Sales Cycle เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลานานกว่าในการตัดสินใจซื้อ การใช้ CRM (Customer Relationship Management) เข้ามาช่วยในการจัดการ Sales Cycle จะช่วยให้คุณสามารถติดตามและเข้าใจทุกขั้นตอนของกระบวนการขายได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เราจะเจาะลึกถึงการใช้ CRM Mapping เพื่อทำความเข้าใจ B2B Sales Cycle อย่างลึกซึ้ง การปรับแต่งวิธีการขาย B2B ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก CRM และการเพิ่มประสิทธิภาพ Multi-touch Attribution ใน B2B Sales

ใช้ CRM Mapping เพื่อเข้าใจ B2B Sales Cycle อย่างลึกซึ้ง

CRM Mapping เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ Sales Cycle โดยการระบุขั้นตอนต่าง ๆ ที่ลูกค้าผ่านไปตั้งแต่การรับรู้แบรนด์จนถึงการตัดสินใจซื้อ

1. การระบุขั้นตอนต่าง ๆ ใน Sales Cycle การใช้ CRM ในการสร้างแผนที่ Sales Cycle ช่วยให้คุณสามารถระบุขั้นตอนที่ลูกค้าต้องผ่าน เช่น การสร้างความรับรู้, การพิจารณา, และการตัดสินใจซื้อ โดยการบันทึกและติดตามข้อมูลจากลูกค้าจะทำให้คุณเห็นภาพรวมของกระบวนการขาย
2. การติดตามพฤติกรรมลูกค้า CRM จะช่วยให้คุณสามารถติดตามพฤติกรรมลูกค้าในแต่ละขั้นตอนของ Sales Cycle ได้ เช่น จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์, การดาวน์โหลดเอกสาร, หรือการเข้าร่วมกิจกรรมเว็บบินาร์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่าลูกค้าอยู่ในขั้นตอนไหนและต้องการการสื่อสารใดเพิ่มเติม
3. การสร้างการวิเคราะห์เชิงลึก ด้วย CRM Mapping คุณสามารถสร้างรายงานที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ Sales Cycle และจุดที่ต้องปรับปรุง เช่น หากลูกค้าหยุดอยู่ที่ขั้นตอนการพิจารณานานเกินไป คุณสามารถระบุได้ว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนในกลยุทธ์การตลาดหรือการให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็น

เพิ่มประสิทธิภาพทีมขายในยุคดิจิทัลด้วย Sales CRM

Sales Cycle : Personalize B2B Sales Approach ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก CRM

การทำ Personalization ใน B2B Sales Approach เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า

1. การเก็บข้อมูลลูกค้าใน CRM ข้อมูลที่เก็บรวบรวมใน CRM เช่น ประวัติการซื้อ, ความสนใจ, และปัญหาที่ลูกค้าเผชิญ จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งการสื่อสารให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ การใช้ข้อมูลเหล่านี้ทำให้คุณสามารถเสนอเนื้อหาที่มีความหมายและตรงใจ
2. การสร้างข้อเสนอที่ตรงจุด เมื่อเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า คุณสามารถสร้างข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของพวกเขา ตัวอย่างเช่น การส่งโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทหนึ่งมากกว่า
3. การสื่อสารแบบเฉพาะบุคคล การใช้ข้อมูลจาก CRM เพื่อทำให้การสื่อสารมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่น การส่งอีเมลที่ระบุชื่อและเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
   

Sales Cycle : Optimize Multi-touch Attribution ใน B2B Sales ด้วย CRM

Multi-touch Attribution เป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าใจได้ว่าช่องทางการตลาดใดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และช่วยในการประเมินประสิทธิภาพของแต่ละช่องทาง

1. การติดตามการติดต่อทั้งหมด ด้วย CRM คุณสามารถติดตามการสัมผัสที่ลูกค้ามีกับแบรนด์ในหลายช่องทาง เช่น อีเมล, โซเชียลมีเดีย, และเว็บไซต์ การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ว่าช่องทางใดที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจซื้อ
2. การวิเคราะห์ข้อมูลแบบองค์รวม การใช้ข้อมูลจาก CRM ในการวิเคราะห์ Multi-touch Attribution ช่วยให้คุณสามารถประเมินผลการตลาดในแต่ละช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หากพบว่าช่องทางโซเชียลมีเดียมีผลต่อการสร้างความสนใจ แต่ไม่สามารถปิดการขายได้ คุณสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อทำให้การขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. การปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด เมื่อคุณสามารถเข้าใจว่าแต่ละช่องทางมีผลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างไร คุณสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดและการขายให้เหมาะสม โดยการเพิ่มทรัพยากรในช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูง และปรับลดทรัพยากรในช่องทางที่ไม่ประสบความสำเร็จ

การใช้ Sales Cycle ในมุมมองของ CRM ช่วยให้ธุรกิจ B2B สามารถเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การใช้ CRM Mapping เพื่อวิเคราะห์ Sales Cycle, การสร้าง Personalized B2B Sales Approach ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก CRM, และการเพิ่มประสิทธิภาพ Multi-touch Attribution จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนใน CRM จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างยั่งยืน

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

การเพิ่มยอดขาย E-COMMERCE ด้วยการใช้ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ