CLTV (Customer Lifetime Value) หรือมูลค่าลูกค้าตลอดช่วงเวลาการใช้บริการของลูกค้า เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่อยู่ในสายงานต่าง ๆ เช่น ธุรกิจสุขภาพ, E-Commerce และธุรกิจ B2B ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินความสำคัญและคุณค่าของลูกค้าต่อกำไรที่ธุรกิจจะได้รับในระยะยาว ๆ
วิธีการคำนวณ CLTV: ความคิดเด่นของ CLTV คือการคำนวณค่านี้จะใช้ข้อมูลที่มีอยู่จากกิจกรรมที่ลูกค้าทำกับธุรกิจในระยะเวลาหนึ่ง ๆ เพื่อประมาณค่าของลูกค้าในอนาคต วิธีการคำนวณ CLTV สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนดังนี้:
- คำนวณอัตราการเก็บรักษาลูกค้า (Customer Retention Rate): คือ ร้อยละของลูกค้าที่ยังคงเป็นลูกค้าในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี คำนวณโดยใช้สูตร: Customer Retention Rate = ((จำนวนลูกค้าสิ้นสุดระยะเวลา - จำนวนลูกค้าใหม่ในระยะเวลา) / จำนวนลูกค้าสิ้นสุดระยะเวลา)) x 100
- คำนวณอัตราการกำเนิดลูกค้าใหม่ (Customer Acquisition Rate): คือ ร้อยละของลูกค้าใหม่ที่ธุรกิจได้รับในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี คำนวณโดยใช้สูตร: Customer Acquisition Rate = ((จำนวนลูกค้าใหม่ในระยะเวลา) / จำนวนลูกค้าเริ่มต้นระยะเวลา)) x 100
- คำนวณอัตราการกำเนิดกำไรของลูกค้า (Customer Profit Margin): คือ ร้อยละของกำไรที่ธุรกิจได้รับจากลูกค้า คำนวณโดยใช้สูตร: Customer Profit Margin = (กำไรทั้งหมดจากลูกค้า / จำนวนลูกค้าทั้งหมด) x 100
- คำนวณอัตราการกำเนิดรายได้จากลูกค้า (Customer Revenue Rate): คือ รายได้ที่ธุรกิจได้รับจากลูกค้าในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี คำนวณโดยใช้สูตร: Customer Revenue Rate = (รายได้จากลูกค้าในระยะเวลา) / จำนวนลูกค้าทั้งหมด
- คำนวณ CLTV (Customer Lifetime Value): คือค่าน้ำหนักของรายได้ที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ลูกค้าใช้บริการ คำนวณโดยใช้สูตร: CLTV = (Customer Profit Margin x Customer Revenue Rate) / (1 + Discount Rate - Customer Profit Margin)
การประยุกต์ใช้งาน CLTV สำหรับธุรกิจสุขภาพ, E-Commerce และ B2B มีแนวทางดังนี้:
-
ธุรกิจสุขภาพ: สำหรับธุรกิจในสายงานสุขภาพ เช่น คลินิกทันตกรรม, สปา, หรือศูนย์ฟิตเนส สามารถใช้ CLTV เพื่อประเมินความคุ้มค่าของลูกค้าในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาด เช่น โปรโมชั่นส่งเสริมการกลับมาใช้บริการ, บริการลูกค้าที่ดีกว่าเพื่อสร้างความภักดีในลูกค้า, หรือโปรแกรมสะสมแต้มสำหรับลูกค้าประจำ เพื่อสร้างความภักดีและความจงรักภักดีในลูกค้า.
-
E-Commerce: สำหรับธุรกิจ E-Commerce ที่ขายสินค้าออนไลน์ เช่น เครื่องแต่งกาย, สินค้าทำความสะอาด, หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การคำนวณ CLTV ช่วยให้สามารถประเมินค่าคุ้มค่าของลูกค้าแต่ละคน และวางแผนกลยุทธ์การตลาด เช่น โปรโมชั่นส่งเสริมการซื้อซ้ำ, การบริการลูกค้าที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจและความลงตัวในการซื้อสินค้าออนไลน์.
-
B2B (Business-to-Business): สำหรับธุรกิจ B2B ที่ให้บริการแก่ธุรกิจอื่น เช่น บริษัทซอฟต์แวร์, บริษัทโลจิสติกส์, หรือบริษัทที่ให้บริการที่ปรึกษา การคำนวณ CLTV ช่วยให้สามารถประเมินค่าความคุ้มค่าของลูกค้าธุรกิจในระยะยาว และสร้างความภักดีในลูกค้าธุรกิจ เช่น การให้บริการลูกค้าที่ดีเพื่อสร้างความไว้วางใจและความภักดี การสร้างความร่วมมือในระยะยาวและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าธุรกิจ.
CLTV เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการบริหารลูกค้าให้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ การนำ CLTV มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจสุขภาพ, E-Commerce, และ B2B ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแผนการตลาด และบริหารลูกค้าในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
อ่านบทความเพิ่มเติม : พัฒนาการขายแบบ B2B ให้เติบโต ด้วยระบบ CRM ได้อย่างไร
No Comments