<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

รวมคําสั่ง Prompt AI เปลี่ยนทีม Marketing ให้ทำงานเร็วขึ้น 5 เท่า

Audio Version
รวมคําสั่ง Prompt AI เปลี่ยนทีม Marketing ให้ทำงานเร็วขึ้น 5 เท่า
18:09

คำถาม ทำไมหลายครั้ง AI ถึงไม่เข้าใจคำสั่ง (Prompt) ที่เราป้อน และเราจะแก้ไขอย่างไร? แล้วมีเทคนิคอะไรบ้างในการเขียน Prompt ให้ได้คำตอบที่นำไปใช้ได้จริง? เราได้รวบรวมคำสั่ง Prompt AI ที่จะช่วยให้ทีม Marketing ทำงานได้เร็วขึ้น 

รวมคําสั่ง Prompt AI : ทำไม AI ไม่เข้าใจคำสั่งเรา

ปัญหาหนึ่งที่หลายคนพบคือ AI ตอบไม่ตรงใจหรือให้ข้อมูลที่เกินคาดหมาย ส่วนใหญ่เกิดจากการที่คำสั่ง (prompt) ของเราไม่ชัดเจนหรือขาดบริบทที่เพียงพอ หากเราพิมพ์สั่งงานแบบกว้าง ๆ คลุมเครือ เช่น “สรุปเรื่องนี้หน่อย” หรือ “ขอไอเดียเจ๋ง ๆ” ผลลัพธ์ที่ได้มักเป็นคำตอบพื้น ๆ ที่หาอ่านได้ทั่วไป เพราะ AI ไม่ได้รับข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับบริบทหรือสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ยกตัวอย่างว่าเราต้องการแผนฝึกอบรมพนักงาน แต่พิมพ์แค่ว่า “สร้างแผนฝึกอบรม” ไม่ได้บอกว่าเป็นด้านไหนหรือวัตถุประสงค์อะไร AI ก็จะสร้างคำตอบทั่วไปที่ไม่ได้ช่วยตัดสินใจอะไรเลย สิ่งนี้นำไปสู่ความเข้าใจผิดว่า “AI ใช้งานไม่ได้” แต่จริง ๆ แล้วปัญหาอยู่ที่วิธีการสั่งงานของเรานั่นเอง

วิธีแก้คือ ปรับปรุงคำสั่งให้ชัดเจนและมีบริบท มากขึ้น เราควรระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น ข้อมูลพื้นฐานของงาน เป้าหมายที่ต้องการให้ AI ทำ รูปแบบผลลัพธ์ที่อยากได้ เป็นต้น เพราะอย่าลืมว่า AI ไม่ได้คิดแทนเราได้เอง มันเพียงทำตามสิ่งที่เราป้อนเข้าไปเท่านั้น หากเราป้อนข้อมูลหรือคำสั่งที่ไม่ชัดเจนหรือไม่มีคุณภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่ตรงความต้องการหรือไม่เป็นประโยชน์ (หลักการ Garbage in, Garbage out) การสร้าง Prompt ที่เฉพาะเจาะจงและให้บริบทที่เพียงพอจะทำให้ AI เข้าใจและตอบสนองได้ตรงประเด็นมากขึ้น

AI ​​Search

รวมคําสั่ง Prompt AI : เทคนิคเขียน Prompt ให้ได้คำตอบที่ “ใช้ได้จริง”

- ระบุเป้าหมายให้ชัดเจน (Goal-first Prompt): เริ่มต้นคำสั่งด้วยการบอกเป้าหมายหรือสิ่งที่คุณต้องการสุดท้ายก่อน เช่น ระบุว่าต้องการให้ AI ทำอะไรหรือได้ผลลัพธ์แบบไหน วิธีนี้ช่วยให้ AI เข้าใจทิศทางที่ต้องการตั้งแต่ต้น โดยแนวทางของ ChatGPT เองก็แนะนำให้เขียน prompt โดยระบุเป้าหมายและบริบทตั้งแต่แรก ๆ

- กำหนดโทนเสียงและรูปแบบคำตอบ: คุณสามารถบอก AI ล่วงหน้าว่าอยากได้คำตอบในโทนแบบไหน (ทางการ, เป็นกันเอง, สนุกสนาน เป็นต้น) และให้ออกมาในรูปแบบใด เช่น เป็น bullet, เป็นย่อหน้าสั้นๆ, หรือในรูปแบบตาราง การกำหนดเงื่อนไขเหล่านี้จะทำให้คำตอบออกมาตรงใจและสอดคล้องกับการนำไปใช้งานจริงมากขึ้น

วิธีปรับ Prompt ให้เข้ากับแบรนด์ (Tone, Persona, Product Context)

การใช้งาน Prompt จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นหากเราปรับให้สอดคล้องกับบริบทและเอกลักษณ์ของแบรนด์เราดังนั้น การใส่ข้อมูลเฉพาะของแบรนด์ลงใน Prompt จึงเป็นสิ่งสำคัญ

กำหนด Persona และ Tone ของแบรนด์: เราควรระบุไปเลยว่าต้องการให้ AI สวมบทบาทหรือใช้โทนแบบใด เช่น “คุณคือ Copywriter ของแบรนด์แฟชั่นวัยรุ่นที่มีบุคลิกสนุกสนานขี้เล่น” หรือ “เขียนตอบลูกค้าในบทบาทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่สุภาพและจริงใจ” การให้บุคลิกและโทนเสียงที่ชัดเจนจะทำให้คำตอบที่ได้มีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ และไม่หลุดไปคนละทิศคนละทาง

ใส่รายละเอียดผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา: เช่น ระบุคุณสมบัติเด่น, กลุ่มลูกค้าของเรา, จุดขาย (USP) หรือแม้กระทั่งข้อมูลคู่แข่งใน Prompt ด้วย สมมติแบรนด์เราขายผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ก็ควรระบุไปว่า “แบรนด์เรามีจุดยืนเรื่องความยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เป็นต้น รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้ AI สร้างเนื้อหาที่เข้ากับสินค้าและความต้องการของเราโดยตรง มากกว่าจะตอบแบบกลางๆ ทั่วไป (แนะนำว่าให้รวมข้อมูลแนวทางแบรนด์, ข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย, เป้าหมายแคมเปญ และภาพรวมตลาดของเราเข้าไปใน Prompt จะยิ่งเพิ่มความแม่นยำและตรงโทนมากขึ้น)

รักษาความสม่ำเสมอ: หากต้องใช้ AI ช่วยสร้างคอนเทนต์หลายชิ้น ควรใช้คำบรรยายโทนเสียงและบุคลิกใน Prompt ที่สอดคล้องกันทุกครั้ง เพื่อให้เนื้อหาที่ออกมามีความเป็นเอกภาพ ไม่ว่าจะเขียนโดยคนหรือ AI ก็ตาม

เมื่อปรับ Prompt ให้เข้ากับบริบทของแบรนด์แล้ว อย่าลืมว่าผลลัพธ์จาก AI ยังต้องผ่านการกลั่นกรองของทีมงานจริงเสมอ เราควรอ่านและแก้ไขข้อความที่ AI สร้างขึ้นให้สอดคล้องกับรายละเอียดปลีกย่อยของแบรนด์ เช่น สโลแกน, คำต้องห้าม, รูปแบบการเว้นวรรคที่แบรนด์ใช้ประจำ เพื่อให้เนื้อหาสุดท้ายออกมาสมบูรณ์และพร้อมเผยแพร่

- สั่งให้ AI อธิบายเหตุผลหรือขั้นตอนก่อนสรุปคำตอบ: เทคนิคนี้บางครั้งเรียกว่า Chain-of-Thought prompting หรือการ “คิดออกเสียง” ซึ่งคือการให้ AI แตกกระบวนการคิดเป็นลำดับขั้นตอน แล้วค่อยให้คำตอบสุดท้าย วิธีนี้ช่วยให้คำตอบมีความโปร่งใสและเชื่อถือได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเพิ่มคำสั่งว่า “กรุณาอธิบายเหตุผลหรือขั้นตอนการคิดก่อนจะให้คำตอบ” ใน prompt การทำเช่นนี้จะกระตุ้นให้ AI แสดงวิธีคิดออกมาเป็นลำดับก่อน แล้วจึงสรุปผลลัพธ์ให้เรา ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะได้คำตอบที่ผิดพลาดหรือไม่มีเหตุผลรองรับ

CTA : AI SALE HUB

นำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้รวมกัน เช่น เริ่ม prompt ด้วยบริบทและเป้าหมาย ตามด้วยกำหนดโทนหรือรูปแบบที่ต้องการ และถ้าเป็นโจทย์ที่ซับซ้อนก็ควรให้ AI ไล่เหตุผลก่อนสรุป เท่านี้ก็จะเพิ่มโอกาสได้คำตอบที่มีคุณภาพและนำไปใช้ได้จริงมากขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ว่าการเพิ่มรายละเอียดและบริบทให้ prompt มาก ๆ จะช่วยปรับปรุงคุณภาพคำตอบได้อย่างมีนัยสำคัญ ลดความผิดพลาดลงได้


ตัวอย่าง Prompt Optimization สำหรับ Marketing, Sales, Service

ลองมาดูตัวอย่างว่าถ้าเราปรับ prompt ให้เหมาะสมกับงานด้านต่างๆ จะเป็นอย่างไร

การตลาด (Marketing): แทนที่จะสั่งว่า “เขียนอะไรที่ดึงดูดใจสำหรับโปรโมตสินค้าของเรา” ซึ่งกว้างมาก เราควรเพิ่มบริบทและรายละเอียด เช่น “คุณคือ Copywriter ของบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่สำหรับกลุ่มผู้รักการออกกำลังกาย ช่วยเขียนคำโปรยโฆษณาสั้น ๆ ที่น่าสนใจ เน้นคุณสมบัติเด่นและประโยชน์ของสมาร์ทวอทช์นี้ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย” การใส่ข้อมูลแบบนี้จะช่วยให้ AI สร้างข้อความที่เฉพาะเจาะจงและตรงประเด็นกว่าคำสั่งแบบกว้าง ๆ

การขาย (Sales): สำหรับงานขาย เช่น การติดต่อหาลูกค้ารายใหม่ (cold calling/email) เราสามารถให้ AI ช่วยเตรียมสคริปต์หรืออีเมลเบื้องต้นได้ เช่น “เขียนสคริปต์บทสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าใหม่ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของเรา โดยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และชักจูงอย่างสุภาพ ไม่นำเสนอแบบขายของโจ่งแจ้งเกินไป” ตัวอย่าง prompt ลักษณะนี้จะทำให้ AI สร้างบทพูดคุยที่ดูเป็นมืออาชีพและไม่ขายของจนน่ารำคาญ

การบริการลูกค้า (Customer Service): ในด้านบริการลูกค้า เราอาจให้ AI ช่วยร่างบทความสำหรับฐานความรู้ (Knowledge Base) หรือคู่มือวิธีแก้ปัญหา เพื่อช่วยตอบคำถามลูกค้าอย่างเป็นระบบ ตัวอย่างเช่น “เขียนบทความลงฐานความรู้หัวข้อ [วิธีรับมือกับลูกค้าที่โมโห] สำหรับเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า โดยแนะนำ [10 เคล็ดลับในการจัดการกับลูกค้าที่อารมณ์เสีย] [ควรมีบทนำ อธิบายแต่ละเคล็ดลับอย่างชัดเจน และสรุปปิดท้าย]” คำสั่งนี้จะได้บทความที่มีโครงสร้างครบถ้วน สามารถนำไปใช้ปรับลงเว็บไซต์ช่วยเหลือลูกค้าได้ทันที

จากตัวอย่างจะเห็นว่าการเติมบริบท (Context) และความต้องการเฉพาะลงไปใน prompt สำหรับแต่ละงาน ช่วย Optimize หรือปรับแต่งคำสั่งให้ AI ตอบได้ตรงกับความต้องการของเรามากขึ้น 

shutterstock_2365864085

ตัวอย่าง Prompt สำหรับคอนเทนต์ (Blog, Caption, Email, CTA)

งานคอนเทนต์ถือเป็นงานหลักของสายการตลาดที่ AI สามารถช่วยได้มาก นี่คือตัวอย่าง prompt สำหรับการสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ

บทความ Blog: “เขียนบทความบล็อกสำหรับมือใหม่ อธิบายวิธีที่ [ผลิตภัณฑ์] ถูกนำไปใช้ในวงการ [อุตสาหกรรม] โดยยกตัวอย่างจากกรณีจริง อธิบายความหมายของคำศัพท์สำคัญ และมี FAQ สั้นๆ ตอนท้ายของบทความ” คำสั่งนี้จะทำให้ AI สร้างบทความให้ความรู้แบบ educational ที่ทั้งเข้าใจง่ายและมีประโยชน์ต่อผู้อ่านมือใหม่

แคปชันโซเชียลมีเดีย (Caption): “นำรีวิวหรือคำชมจากลูกค้าต่อไปนี้มาเขียนใหม่เป็นแคปชัน Instagram จำนวน 5 โพสต์สำหรับโปรโมต [สินค้า] โดยใช้โทนภาษาเป็นกันเอง ชวนอ่าน และมีคำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ที่ชัดเจนในแต่ละโพสต์” การสั่งแบบนี้ช่วยให้ได้แคปชันหลายแบบที่พร้อมใช้งาน ทั้งดึงจุดเด่นจากคำชมลูกค้ามาใช้ และมี CTA กระตุ้นให้ผู้อ่านทำกิจกรรมต่อ เช่น กดลิงก์หรือสั่งซื้อ

อีเมล (Email): “เขียนชุดอีเมลเพื่อนำเสนอ [สินค้า/บริการ] ให้กับกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรม [X] ที่ยังไม่เคยรู้จักเรามาก่อน (cold email) โดยมีหัวข้ออีเมลที่น่าสนใจจำนวน 3 แบบเพื่อเพิ่มอัตราการเปิดอ่าน และมีข้อความส่วนท้ายที่เป็น CTA 3 แบบให้ทดลองใช้” Prompt ลักษณะนี้จะช่วยให้เราได้ทั้งเนื้อหาอีเมลคร่าว ๆ พร้อมหัวเรื่องและ CTA ที่หลากหลายสำหรับทดสอบ A/B test 

คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA): หากต้องการไอเดียคำโฆษณาหรือสโลแกนสั้นๆ ที่ใช้เป็น CTA เราก็สามารถให้ AI ช่วยคิดได้ เช่น “ช่วยคิดคำโปรยสั้นๆ 5 แบบที่กระตุ้นให้ลูกค้า [ทำกิจกรรมเป้าหมาย] ด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบ [ระบุโทน เช่น ตื่นเต้น/ด่วน]” จากนั้นเราสามารถเลือกหรือปรับแต่งคำที่ตรงใจที่สุดไปใช้จริง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาคิดข้อความโฆษณาได้มาก (มีเครื่องมือบางอย่างที่ใช้ AI เพื่อสร้าง CTA โดยเฉพาะ และรายงานว่าการใช้ภาษาที่ชัดเจนและตรงกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มอัตราการคลิกได้อย่างเห็นผล)

ตัวอย่าง Prompt สำหรับ Data Analysis และ Predictive Insight

งานวิเคราะห์ข้อมูลและการพยากรณ์แนวโน้มก็เป็นอีกด้านที่ AI ช่วยแบ่งเบาภาระได้ แม้ AI อย่าง ChatGPT จะไม่สามารถแทนที่เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะทางได้ทั้งหมด แต่สามารถช่วยสรุปข้อมูลหรือเสนอแนวคิดในการวิเคราะห์ได้ เช่น

วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาข้อมูลเชิงลึก: “วิเคราะห์ชุดข้อมูล [ชื่อ dataset] และสรุปรายงาน 5 ประเด็นเชิงลึกที่สำคัญที่สุดของข้อมูล พร้อมแสดงตัวอย่างภาพกราฟหรือสถิติประกอบ และอธิบายหลักฐานเชิงสถิติที่สนับสนุนแต่ละประเด็น” คำสั่งนี้จะให้ AI พยายามเจาะลึกข้อมูลและรายงาน insight ออกมาเป็นข้อๆ ซึ่งเป็นการสรุปที่มีเหตุผลรองรับ ไม่ใช่แค่การระบุข้อมูลดิบอย่างเดียว

การทำนายหรือคาดการณ์ (Predictive Insight): เราอาจใช้ prompt ให้ AI ช่วยเสนอแนวทางการสร้างโมเดลพยากรณ์หรือวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อสิ่งที่เราสนใจ เช่น “จากฐานข้อมูลลูกค้าที่มีข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานและการสั่งซื้อที่ผ่านมา คุณคิดว่าควรใช้โมเดลการทำนายแบบไหนในการคาดการณ์โอกาสที่ลูกค้าจะเลิกใช้บริการ (Churn)? โปรดแนะนำโมเดลที่เหมาะสม พร้อมเหตุผลในการเลือกโมเดลนั้น และวิธีที่จะใช้ตรวจสอบความแม่นยำของโมเดล” Prompt นี้จะทำให้ AI เสนอทางเลือกเชิงวิเคราะห์ เช่น การใช้โมเดล regression หรือ decision tree พร้อมทั้งบอกเกณฑ์การวัดผล (เช่น Accuracy, F1-score) ในการประเมินโมเดล ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เรามีไอเดียในการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

Tip: หากมีข้อมูลสถิติหรือผลวิเคราะห์เบื้องต้นอยู่แล้ว เราสามารถป้อนข้อมูลเหล่านั้นเข้าไปใน prompt ด้วยเพื่อให้ AI ช่วยสรุปหรือค้นหาความสัมพันธ์เพิ่มเติม แต่ต้องตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ทุกครั้ง เพราะ AI อาจวิเคราะห์ผิดพลาดได้หากข้อมูลซับซ้อนเกินไป

My CTA (15 July 2024 9:59)

ตัวอย่าง Prompt สำหรับ Customer Service (Knowledge Base + Chatbot)

ในงานบริการลูกค้า AI สามารถช่วยทั้งในด้านการเตรียมข้อมูลความรู้ให้เจ้าหน้าที่ และช่วยตอบคำถามลูกค้าเบื้องต้นผ่านระบบแชทบอท

บทความฐานความรู้ (Knowledge Base Article): ตัวอย่าง prompt ที่เราใช้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการรับมือลูกค้าโมโหก็เป็นหนึ่งในนั้น การให้ AI ช่วยเขียนบทความหรือคู่มือวิธีแก้ปัญหาลงฐานความรู้สามารถลดภาระของทีมบริการลูกค้าในการร่างเอกสารเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น “เขียนบทความ How-to สำหรับแก้ไขปัญหา [ระบุปัญหา] โดยอธิบายทีละขั้นตอน และให้คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับกรณีที่พบปัญหานี้บ่อย” เมื่อได้ร่างจาก AI มาแล้ว ทีมงานสามารถตรวจทานและปรับแก้ให้ถูกต้องตรงกับผลิตภัณฑ์จริงก่อนเผยแพร่ได้ (ข้อควรระวังคือควรตรวจสอบความถูกต้องเสมอ เพราะ AI อาจแต่งขั้นตอนที่ฟังดู plausibile แต่ไม่ถูกต้องจริงก็ได้)

สคริปต์แชทบอท (Chatbot Script): เราสามารถใช้ Prompt เพื่อออกแบบบทสนทนาพื้นฐานให้กับแชทบอทบนเว็บไซต์ หรือให้ AI จำลองการตอบคำถามลูกค้า ตัวอย่างเช่น “คุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านประสบการณ์ลูกค้า กำลังสร้างแชทบอทสำหรับเว็บไซต์บริษัท ซึ่งต้องทักทายลูกค้าอย่างมืออาชีพและเป็นมิตร ช่วยสร้างข้อความทักทายลูกค้า 10 แบบสำหรับแชทบอทนี้” Prompt นี้จะทำให้ AI เสนอประโยคทักทายหลายๆ รูปแบบ เช่น “สวัสดีค่ะ! มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ?” หรือ “สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่ [ชื่อบริษัท] มีคำถามอะไรสอบถามได้เลยนะครับ” เป็นต้น จากนั้นเราสามารถเลือกประโยคที่เหมาะสมไปใช้ตั้งค่าในระบบแชทบอทของเรา

การตอบคำถามลูกค้าโดยใช้ฐานความรู้: อีกเทคนิคคือการผสมผสานข้อมูลจากฐานความรู้เข้ากับ prompt เพื่อให้ AI ใช้ตอบคำถามลูกค้าได้ตรงจุด เช่น “คุณเป็นแชทบอทบริการของบริษัท X ข้อมูลที่คุณมี: [ย่อหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์/นโยบายสำคัญ] เมื่อลูกค้าถามว่า '[คำถาม]' ให้คุณตอบโดยอ้างอิงข้อมูลที่มี พร้อมแนะนำเพิ่มเติมหากเกี่ยวข้อง” วิธีนี้ AI จะใช้บริบทที่ให้มาตอบ ซึ่งถ้าออกแบบดีๆ จะเหมือนกับมีผู้ช่วยค้นข้อมูลและตอบตามคู่มืออย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามต้องทดสอบหลายๆ ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่า AI ดึงข้อมูลถูกต้องและไม่ตอบนอกเรื่อง

การปรับใช้ AI ในงานบริการลูกค้าต้องทำอย่างระมัดระวัง คำตอบที่ AI สร้างควรถูกตรวจสอบโดยทีมงาน โดยเฉพาะประเด็นที่ละเอียดอ่อนหรือนโยบายบริษัท เพื่อป้องกันข้อมูลผิดพลาดหรือสื่อสารไม่ตรงกับแนวทางขององค์กร

Tip & Trick

  • ###...### หรือ <<<...>>> : ตัวคั่นโซน ช่วยให้จัดระเบียบคำสั่งได้อย่างเป็นสัดส่วน
  • [...] : เน้นย้ำ หรือกำหนดขอบเขต เพื่อจัดระเบียบ Prompt ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

การรวมคำสั่ง Prompt AI เพื่อช่วยงานการตลาดไม่ใช่แค่การสั่งให้ AI “ทำอะไรสักอย่าง” เท่านั้น แต่คือการเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องเข้าใจว่า “AI เก่งเท่ากับสิ่งที่เราถามมัน” การเขียน Prompt ที่ดีต้องการความชัดเจน ละเอียด และคำนึงถึงบริบท เป้าหมาย และบุคลิกของงานหรือแบรนด์ของเราเอง หวังว่าตัวอย่างและเทคนิคที่รวบรวมมาจะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ และเพิ่มความเร็วในการทำงานได้

อ่านบทความเพิ่มเติม :

ก่อนใช้ AI ต้องพร้อม! คู่มือเตรียมระบบข้อมูลสำหรับองค์กรยุคใหม่

100 คำศัพท์ AI อัปเดตใหม่ที่คุณต้องรู้ 2025 : [1], [2], [3]

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

 

LINE Connect

OGF Podcast