<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

Customer Profiling แบบ Lean ช่วยลดงบโฆษณา โฟกัสลูกค้าได้แม่นขึ้น

Audio Version
Customer Profiling แบบ Lean ช่วยลดงบโฆษณา โฟกัสลูกค้าได้แม่นขึ้น
4:56

เมื่อธุรกิจ Startup เผชิญกับข้อจำกัดเรื่องงบโฆษณา การโฟกัสหนักไปที่ กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยลดค่า CAC (Cost per Acquisition) และเพิ่ม ROI อย่างยั่งยืน ดังนั้น วันนี้เราจะพา “เจ้าของธุรกิจ Startup” ทำ Customer Profiling แบบ Lean ตาม 10 ขั้นตอนจาก HubSpot พร้อมตัวอย่างใช้งบไม่เยอะแต่ได้ผลจริง

10 ขั้นตอน ทำ Customer Profiling แบบ Lean

  1. เริ่มจากการกำหนดเป้าหมาย (Define objective)

สิ่งแรกที่ต้องทำคือระบุว่าคุณต้องการอะไร เช่น “เพิ่มลูกค้าใหม่ 20% ภายใน 3 เดือน” หรือ “ลด CAC ให้ต่ำกว่า 500 บาท” เพื่อการวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. รวบรวมข้อมูลพื้นฐาน (Demographic data)

เก็บข้อมูลเช่น อายุ เพศ ตำแหน่ง รายได้ และจุดที่อยู่ เพื่อสร้างเคร้าโครงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน

  1. เจาะลึกข้อมูลจิตวิทยา (Psychographic data)

วิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ ปัญหา และแรงจูงใจ เช่น ลูกค้าต้องการแก้ปัญหาเรื่องต้นทุน หรือมองหาความสะดวกในการใช้งาน

  1. สำรวจเทคโนโลยีที่ใช้งาน (Technographic)

ตรวจว่าลูกค้าใช้แพลตฟอร์มใด เช่น Instagram, LINE, หรือระบบโกทราฟใน Chatbot มากน้อยแค่ไหน เพื่อปรับช่องทางให้ตรงกับพฤติกรรม

  1. ศึกษาพฤติกรรมจริง (Behavioral data)

ดูว่าลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไร เช่น เคยสมัครสมาชิก ดาวน์โหลด E‑book หรือย้อนกลับมาซื้อซ้ำ

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

  1. สร้าง Ideal Customer Profile หรือ ICP

จำลองภาพลูกค้าในอุดมคติ เช่น “Startup SaaS มีรายได้ปีละ 5–10 ล้าน หัวหน้าทีมการตลาดอายุ 30–40 ปี” ซึ่งช่วยให้เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกว่า ICP จาก HubSpot คือการนำคุณสมบัติเชิงธุรกิจมาแสดงผลในรูปแบบกลุ่มเป้าหมาย

  1. สร้าง Buyer Persona

ปรับภาพจำลองในระดับบุคคล เช่น “กอล์ฟ หัวหน้าทีมโซเชียลวัย 32 ปี เน้นการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในกลุ่ม Gen Z” ซึ่งช่วยให้การสื่อสารเป็นธรรมชาติมากขึ้น

  1. แบ่งกลุ่มเป้าหมาย (Segmentation)

จัดกลุ่มลูกค้า เช่น ลูกค้าใหม่, ลูกค้าเก่า, ลูกค้าที่ซื้อต่อ, ลูกค้าที่ยังไม่ตอบรับ เพื่อกำหนดกลยุทธ์แต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ

  1. ใช้งาน Progressive Profiling

การเก็บข้อมูลทีละเล็กทีละน้อยในแต่ละ interaction เช่น ลิงก์ Chatbot หรือฟอร์มสมัครสมาชิก ที่เพิ่มความเข้าใจลูกค้าโดยไม่สร้างภาระ

  1. วัดผลและปรับปรุงเป็นวงจร

ติดตามข้อมูล เช่น ROI, CAC, Conversion Rate แล้วปรับแต่ง ICP และ Persona อย่างน้อยทุก 3–6 เดือน เพื่อรักษาความแม่นยำ

New call-to-action

ตัวอย่าง Startup ใช้ Customer Profiling แบบ Lean อย่างได้ผล

FreshMart – สินค้าไลฟ์สไตล์และงานคราฟท์
รวบรวมข้อมูลลูกค้าอายุ 25–35 ที่ชื่นชอบงาน DIY ในกรุงเทพ โดยแบ่งกลุ่มเป็น “สายตกแต่งบ้าน” และ “สาย DIY” ถึงจะใช้ Progressive Profiling ง่ายๆ ผ่านฟอร์ม Google และ Chatbot แต่ช่วยให้ CAC ลดลง 40% และ ROI เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 เดือน

A clean modern 3D illustration of a small startup team in an office looking at a large digital screen On the screen there are three distinct sections Section 1 A diagram showing many small grayedout groups of people icons but a single focused beam o-1

ทำไมวิธีนี้ถึงเวิร์กสำหรับ Startup

- โฟกัสไม่หว่าน: ยิงแอดเฉพาะกลุ่มที่ใช่ ลดการสูญเปล่าด้านงบโฆษณา
- ปรับสปีดได้เร็ว: ข้อมูลชัดเจนทำให้ทดลองกลยุทธ์ได้เร็ว มีการปรับปรุงทันที
- ใช้งบแคมเปญน้อย แต่ผลลัพธ์เข้าเป้า: ROI สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การใช้กลยุทธ์ Customer Profiling แบบ Lean ตาม 10 ขั้นตอนของ HubSpot จะช่วยให้ Startup ใช้งบโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ รับลูกค้ากลุ่มที่มีแนวโน้มซื้อมากที่สุด ด้วยการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เน้นความเข้าใจลูกค้าเป็นหัวใจหลัก สำคัญกว่างบเยอะคือ ยิงให้แม่น และ พัฒนาให้แม้ยิ่งขึ้นทุกเดือน

อ้างอิง : 

อ่านบทความเพิ่มเติม :

กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่สำหรับ TECH STARTUP

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast