ยุคดิจิทัลปัจจุบัน ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์กำลังกลายเป็น “Commerce Platform” ที่เชื่อมโยงระหว่างแพลตฟอร์ม, คอนเทนต์, และครีเอเตอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อขายที่ไร้รอยต่อ แนวคิด “Platform – Enabler commerce” นี้หมายถึง ทุกช่องทางออนไลน์สามารถกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบสินค้าและนำไปสู่การซื้อได้ ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางข้อมูลเท่านั้น ผู้บริโภคยุคใหม่อาจพบสินค้าใหม่ ๆ ผ่านการเลื่อนฟีดโซเชียล ดูวิดีโอ หรือแม้แต่พูดคุยในแชท แล้วตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันทีบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ ธุรกิจยุคใหม่จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมนี้ และใช้ประโยชน์จากแต่ละแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่
TikTok : Shoppertainment เปลี่ยนความบันเทิงให้เป็นยอดขาย
TikTok โดดเด่นด้วยกลยุทธ์ “Shoppertainment” ที่ผสานความบันเทิงเข้ากับการช้อปปิ้ง ทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปพร้อมกับการเลือกซื้อสินค้าได้อย่างแนบเนียน คอนเทนต์วิดีโอสั้นที่สนุกและน่าติดตามช่วยสร้างอารมณ์ร่วม (Emotional Connection) ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ และกระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อโดยไม่รู้ตัว
ผลการสำรวจพบว่า 84% ของผู้ใช้ TikTok เกิดความต้องการซื้อสินค้าทันทีหลังชมวิดีโอของแบรนด์บนแพลตฟอร์ม และ 79% ของผู้ใช้ตัดสินใจลองซื้อสินค้าจากแบรนด์ใหม่แทนที่จะยึดติดกับแบรนด์เดิม หลังเจอผ่าน TikTok สะท้อนพลังของ TikTok ในการสร้างการค้นพบสินค้าใหม่และยอดขายแบบไม่คาดคิด
การช้อปปิ้งบน TikTok กลายเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและได้ของที่ถูกใจ จนเกิดไวรัลแฮชแท็กอย่าง #TikTokMadeMeBuyIt ที่มีคนดูหลายพันล้านครั้ง ผู้ประกอบการที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ควรใช้ประโยชน์จากกระแส Shoppertainment นี้ ด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ทั้งบันเทิงและเชิญชวนให้ซื้อ เช่น วิดีโอแนะนำสินค้าแบบสร้างสตอรี่หรือไลฟ์สดขายสินค้าที่โต้ตอบกับผู้ชมได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างมหาศาล

YouTube : วิดีโอสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
YouTube เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มใหญ่ที่กลายมาเป็นหน้าร้าน และแหล่งข้อมูลสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ คนไทยจำนวนมากใช้ YouTube ในการค้นหาแรงบันดาลใจและศึกษาข้อมูลสินค้า หรือบริการที่สนใจ ก่อนตัดสินใจซื้อ
จุดแข็งของ YouTube คือเหล่าครีเอเตอร์ที่ผลิตคอนเทนต์รีวิวแกะกล่อง สอนใช้สินค้า หรือแชร์ประสบการณ์จริงอย่างตรงไปตรงมา ความจริงใจและสไตล์การเล่าเรื่องที่สนุกทำให้ผู้ชม “อิน” และเชื่อถือข้อมูลที่ได้รับ จนมองว่าครีเอเตอร์เสมือนเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ การสร้างความผูกพันเช่นนี้ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อ 91% ของผู้บริโภคไทยเห็นว่าคำแนะนำจากครีเอเตอร์ YouTube น่าเชื่อถือ และ YouTube มีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมการซื้อของพวกเขา
ธุรกิจสามารถต่อยอดประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้ได้ด้วยการทำวิดีโอคอนเทนต์การตลาด ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ YouTuber รีวิวสินค้าในเชิงบอกต่อประสบการณ์จริง หรือสร้างช่องของแบรนด์เองเพื่อแบ่งปันคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์และบันเทิงแก่กลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ YouTube ยังพัฒนาฟีเจอร์ช้อปปิ้งในแพลตฟอร์ม เช่น ปุ่ม Call-to-Action บนวิดีโอ หรือการผสานระบบร้านค้าเข้ากับคลิป ทำให้ผู้ชมสามารถกดดูรายละเอียดสินค้าและซื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจาก YouTube การใช้วิดีโอเป็นสื่อกลางเช่นนี้ไม่เพียงกระตุ้นยอดขายระยะสั้น แต่ยังสร้างความผูกพันระยะยาวระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ผ่านคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและน่าแชร์ต่อ
Meta (Facebook/Instagram) : Generative AI ยกระดับประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์
ทางฝั่ง Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้เสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของตนด้วยพลังของ Generative AI เครื่องมือ AI รุ่นใหม่ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้โฆษณาและผู้ขายในการสร้างสรรค์แคมเปญที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังบ้านของแพลตฟอร์ม Meta มีการเพิ่มฟีเจอร์อย่าง Meta Advantage+ และ AI Generative Tools ที่สามารถทำงานอัตโนมัติได้หลายด้าน เช่น เลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างชาญฉลาด ปรับงบโฆษณาแบบเรียลไทม์ ไปจนถึง สร้างครีเอทีฟโฆษณาด้วย AI ล่าสุด Meta ได้เปิดตัวฟีเจอร์ generative AI สำหรับการทำโฆษณาที่ครบวงจรมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระบบสามารถสร้างรูปภาพสินค้า, เขียนข้อความโฆษณา และดีไซน์ภาพพร้อมข้อความทับ (overlay) ได้อัตโนมัติ เพียงผู้ใช้ป้อนคำสั่งหรือข้อความสั้น ๆ ที่ต้องการลงไป AI ก็จะสร้างสรรค์ภาพหรือจัดทำข้อความโฆษณาที่ดึงดูดใจให้ทันที ซึ่งช่วยให้การทำโฆษณาบน Facebook หรือ Instagram ง่ายและรวดเร็วขึ้น
โดยเครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงลดภาระงานครีเอทีฟสำหรับธุรกิจที่อาจไม่มีทีมการตลาดขนาดใหญ่ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลโฆษณาให้เข้าตากลุ่มลูกค้ามากขึ้นด้วย ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ของ Meta ในการทดลองสร้างคอนเทนต์โฆษณาหลากหลายรูปแบบ ดูว่าแบบใดได้ผลดีที่สุด และนำงบไปลงกับแบบที่เวิร์ก เพื่อเพิ่มอัตราการแปลงเป็นยอดขายได้สูงสุด กล่าวได้ว่า Meta กำลังใช้ AI เป็นเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะหลังบ้าน ที่คอย “ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ” และเพิ่มขีดความสามารถในการทำการตลาดออนไลน์ของแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น
LINE : MyShop เครื่องมือปิดการขายแบบ One-on-One บนแชท
ในประเทศไทย LINE ไม่ได้เป็นแค่แอปแชทสำหรับสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น ช่องทางการขายออนไลน์สุดฮิต ที่ธุรกิจใช้สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ปัจจุบัน LINE ได้ต่อยอดความสามารถนี้ด้วยการเปิดตัว LINE MyShop ซึ่งเป็นเหมือนร้านค้าออนไลน์ที่ผสานเข้ากับ LINE Official Account (LINE OA) ของธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์
จุดเด่นของ MyShop คือการรวมทุกขั้นตอนการขายไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การแสดงรายการสินค้า ระบบตะกร้าสินค้า การชำระเงิน ไปจนถึงการพูดคุยสอบถามแบบตัวต่อตัว โดยทั้งหมดทำได้ภายในหน้าต่างแชท LINE ที่ลูกค้าคุ้นเคยอยู่แล้ว ผู้ซื้อสามารถเลือกชมสินค้าแล้วจ่ายเงินผ่าน LINE ได้ทันที โดยไม่ต้องออกจากแอป ขณะที่ผู้ขายก็จัดการสต็อกและออเดอร์ได้สะดวก และส่งแจ้งเตือนสถานะคำสั่งซื้อให้ลูกค้าอัตโนมัติ เป็นการลดขั้นตอนยุ่งยากหลังบ้านลงอย่างมาก
ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้การปิดการขายผ่านแชทเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม ส่งผลให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นด้วยประสบการณ์ one-on-one เสมือนมีพนักงานขายส่วนตัวดูแลลูกค้าแต่ละราย ระบบ LINE MyShop นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การจดจำที่อยู่ลูกค้า การตามทวงชำระเงิน หรือการแจ้งเลขพัสดุ ด้วยการจัดการที่เป็นระบบดังกล่าวทำให้ทั้งเจ้าของธุรกิจและลูกค้าได้รับความสะดวกสูงสุด และช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่มีกลุ่มลูกค้าบน LINE อยู่แล้ว การเปิดใช้ MyShop ถือเป็นโอกาสทองในการยกระดับช่องทางขายโดยแทบไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และในขณะเดียวกันก็สร้างความประทับใจให้ลูกค้าด้วยบริการที่รวดเร็วและเป็นกันเอง ผ่านแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้เป็นประจำทุกวัน
Enabler commerce การปรับตัวของธุรกิจให้ทันทุกแพลตฟอร์ม
Enabler commerce คือภาพจริงของโลกการค้าออนไลน์ยุคใหม่ที่ทุกแพลตฟอร์มสามารถเป็นหน้าร้านขายสินค้าได้ เจ้าของธุรกิจควรมองแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น ใช้ TikTok สร้างกระแสและความต้องการซื้อแบบฉับพลันผ่านความบันเทิง, ใช้ YouTube สร้างความน่าเชื่อถือและให้ข้อมูลเชิงลึกก่อนปิดการขาย, ใช้เครื่องมือ AI ของ Meta เพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาให้ตรงใจลูกค้า และใช้ LINE MyShop ดูแลลูกค้าแบบใกล้ชิดจนปิดการขายได้อยู่หมัด
การผสานกลยุทธ์บนหลายแพลตฟอร์มเช่นนี้ จะช่วยให้แบรนด์ของคุณครองใจลูกค้าได้ครบรอบด้าน ทั้งสร้างการรับรู้ (Awareness), กระตุ้นความสนใจ (Interest) จนไปถึงขั้นตอนการซื้อ (Conversion) ได้อย่างครบวงจร ธุรกิจที่ปรับตัวและใช้ศักยภาพของ Enabler commerce อย่างเต็มที่ ย่อมมีโอกาสสูงกว่าในการเติบโตทั้งด้านยอดขายระยะสั้นและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน
อ้างอิง : WP. (2025). รวมเทรนด์ 2026: ผู้บริโภค – มีเดีย – คอมเมิร์ซ – เทคโนโลยี การตลาดยุคใหม่ต้องชนะทั้ง ‘ยอดขาย’ และ ‘การเติบโตระยะยาว’. Retrieved from https://www.marketingoops.com/reports/consumer-media-commerce-technology-trends-2026/
อ่านบทความเพิ่มเติม : FAQ เกี่ยวกับ Marketing Trends 2026 ที่นักการตลาดต้องรู้
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com








No Comments