Hook Model คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญใน UX & Marketing
Hook Model เป็น Framework ที่ถูกคิดค้นโดย Nir Eyal เพื่ออธิบายกลไกการสร้าง Habit-Forming Products หรือผลิตภัณฑ์ที่สร้าง “พฤติกรรมติด” ให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานซ้ำอย่างไม่ต้องพึ่งโฆษณาหนักๆ ซึ่งแนวคิดนี้ถูกใช้โดยบริษัท Tech ระดับโลก เช่น Facebook, Instagram, TikTok และแอปพลิเคชัน SaaS จำนวนมาก
ทำไม Hook Model ถึงสำคัญ?
- ลดค่าใช้จ่ายการตลาด: สินค้าที่ผู้ใช้กลับมาเอง ลดต้นทุนโฆษณาและ Retargeting
- สร้าง Switching Cost สูง: ผู้ใช้ที่สร้างนิสัยกับแบรนด์ จะย้ายไปคู่แข่งได้ยาก
- เพิ่ม LTV (Customer Lifetime Value): ลูกค้าอยู่กับแบรนด์นานขึ้น ซื้อซ้ำมากขึ้น
- ขับเคลื่อนการเติบโตแบบ Exponential: การมีผู้ใช้ที่กลับมาเองคือรากฐานของการ Scale ธุรกิจอย่างรวดเร็ว
การสร้าง Habit สำคัญกว่าการซื้อโฆษณาแพงๆ เพราะพฤติกรรมติดแบรนด์คือการป้องกันคู่แข่งที่ดีที่สุด
4 ขั้นตอนสำคัญของ Hook Model
- Trigger (ตัวกระตุ้น)
Trigger คือสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้เริ่มต้นพฤติกรรม อาจเป็น External Trigger เช่น Push Notification, Email หรือ Banner Ads และ Internal Trigger เช่น อารมณ์หรือความรู้สึก (เบื่อ เหงา ว่าง) ที่ทำให้ผู้ใช้เปิดแอปโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่าง
- Netflix ส่ง Email แจ้งตอนใหม่ของซีรีส์โปรด
- ผู้ใช้ Instagram เปิดแอปเพราะรู้สึกเบื่อ
2. Action (การกระทำที่เรียบง่าย)
หลังจาก Trigger ผู้ใช้ต้องทำ Action ง่ายๆ เพื่อรับรางวัล เช่น กดไลก์ สไลด์หน้าฟีด หรือกดปุ่ม “ดูเพิ่มเติม”
กฎทอง: ยิ่งทำให้ง่าย ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ทำซ้ำ
ตัวอย่างใน UX Design: ปุ่มใหญ่ โหลดเร็ว ไม่ซับซ้อน
3. Variable Reward (รางวัลแบบไม่คงที่)
นี่คือ “หัวใจ” ของ Hook Model ที่ทำให้ผู้ใช้ อยากกลับมาอีกครั้ง เพราะรางวัลไม่คงที่และสร้างความตื่นเต้น เช่น สุ่มเนื้อหาใหม่ (TikTok Feed), แจ้งเตือนยอดไลก์ที่ไม่เท่ากัน หรือกล่องสุ่มในเกม
ทำไมถึงได้ผล? สมองจะหลั่ง Dopamine เมื่อคาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้ ทำให้เกิดความอยากมากกว่ารางวัลที่คาดเดาได้
- Investment (การลงทุนของผู้ใช้)
เมื่อผู้ใช้เริ่ม “ลงทุน” ไม่ว่าจะเป็น เวลา ข้อมูล หรือเงิน จะยิ่งผูกพันกับแบรนด์ เช่น บันทึก Playlist ใน Spotify, อัปโหลดภาพใน Instagram หรือใส่ข้อมูลบัตรเครดิตในแอป
ผลลัพธ์: การลงทุนทำให้โอกาสกลับมาใช้สูงขึ้น เพราะ “ยิ่งลงทุนมาก ยิ่งไม่อยากเสียไป”
การประยุกต์ใช้ Hook Model ใน SaaS และแอปพลิเคชัน
ธุรกิจ SaaS และ Mobile App สามารถใช้ Hook Model เพื่อเพิ่ม Engagement และ Retention ได้ เช่น
CRM SaaS (เช่น HubSpot)
Trigger: ส่ง Email แจ้งเตือน Lead ใหม่
Action: คลิกเข้า Dashboard ที่ออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน
Variable Reward: แสดง Insights แบบ Real-time ที่เปลี่ยนแปลงตลอด
Investment: ให้ผู้ใช้บันทึก Workflow Automation ที่สร้างเอง ทำให้ย้ายไปใช้คู่แข่งยาก
E-commerce App
Trigger: แจ้งเตือน Flash Sale
Action: กดเข้าหน้าสินค้าใน 1 คลิก
Variable Reward: โปรโมชั่นที่เปลี่ยนทุกครั้ง
Investment: เพิ่มสินค้าใน Wishlist
กรณีศึกษา: จากข้อมูลในเอกสาร HubSpot Customer Platform ของ Ourgreenfish ระบุว่า การใช้ Automation + Personalized Engagement ช่วยเพิ่ม Engagement ได้ถึง 33% และ Email Click-through Rate สูงขึ้น 70% ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับหลักการของ Hook Model ในการทำให้ผู้ใช้กลับมาเองโดยไม่ต้องรอการตลาดแบบ Push
สรุปสำหรับเจ้าของธุรกิจ
- Hook Model ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็น กลไกจิตวิทยา + UX Design + Marketing Strategy ที่ทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตลูกค้า
- สำหรับธุรกิจ SaaS หรือ Mobile App การนำ 4 ขั้นตอนของ Hook Model มาใช้ จะช่วยลด CAC (Customer Acquisition Cost) และเพิ่ม CLV ได้มหาศาล
เริ่มวันนี้ : วิเคราะห์ Product Journey ของคุณ → กำหนด Trigger → ทำ Action ให้ง่ายที่สุด → เพิ่มความตื่นเต้นด้วย Variable Reward → ทำให้ลูกค้าลงทุนในแพลตฟอร์ม
อ้างอิง : Business Explained. (2023). Marketing Frameworks Explained. Retrieved from https://business-explained.com/shop/marketing-frameworks-explained/
อ่านบทความเพิ่มเติม :
8 แนวทางหลักใน การทำ Digital Marketing พร้อมวิธีการใช้งาน
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com
No Comments