Hook Model & Habit-Forming Products วิธีสร้างพฤติกรรมติดแบรนด์

Audio Version
Hook Model & Habit-Forming Products วิธีสร้างพฤติกรรมติดแบรนด์
4:57

Hook Model คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญใน UX & Marketing
Hook Model เป็น Framework ที่ถูกคิดค้นโดย Nir Eyal เพื่ออธิบายกลไกการสร้าง Habit-Forming Products หรือผลิตภัณฑ์ที่สร้าง “พฤติกรรมติด” ให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานซ้ำอย่างไม่ต้องพึ่งโฆษณาหนักๆ ซึ่งแนวคิดนี้ถูกใช้โดยบริษัท Tech ระดับโลก เช่น Facebook, Instagram, TikTok และแอปพลิเคชัน SaaS จำนวนมาก

ทำไม Hook Model ถึงสำคัญ?

- ลดค่าใช้จ่ายการตลาด: สินค้าที่ผู้ใช้กลับมาเอง ลดต้นทุนโฆษณาและ Retargeting
- สร้าง Switching Cost สูง: ผู้ใช้ที่สร้างนิสัยกับแบรนด์ จะย้ายไปคู่แข่งได้ยาก
- เพิ่ม LTV (Customer Lifetime Value): ลูกค้าอยู่กับแบรนด์นานขึ้น ซื้อซ้ำมากขึ้น
- ขับเคลื่อนการเติบโตแบบ Exponential: การมีผู้ใช้ที่กลับมาเองคือรากฐานของการ Scale ธุรกิจอย่างรวดเร็ว
การสร้าง Habit สำคัญกว่าการซื้อโฆษณาแพงๆ เพราะพฤติกรรมติดแบรนด์คือการป้องกันคู่แข่งที่ดีที่สุด 

4 ขั้นตอนสำคัญของ Hook Model

  1. Trigger (ตัวกระตุ้น)

Trigger คือสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้เริ่มต้นพฤติกรรม อาจเป็น External Trigger เช่น Push Notification, Email หรือ Banner Ads และ Internal Trigger เช่น อารมณ์หรือความรู้สึก (เบื่อ เหงา ว่าง) ที่ทำให้ผู้ใช้เปิดแอปโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่าง
- Netflix ส่ง Email แจ้งตอนใหม่ของซีรีส์โปรด
- ผู้ใช้ Instagram เปิดแอปเพราะรู้สึกเบื่อ

2. Action (การกระทำที่เรียบง่าย)

หลังจาก Trigger ผู้ใช้ต้องทำ Action ง่ายๆ เพื่อรับรางวัล เช่น กดไลก์ สไลด์หน้าฟีด หรือกดปุ่ม “ดูเพิ่มเติม”
กฎทอง: ยิ่งทำให้ง่าย ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ทำซ้ำ
ตัวอย่างใน UX Design: ปุ่มใหญ่ โหลดเร็ว ไม่ซับซ้อน

3. Variable Reward (รางวัลแบบไม่คงที่)

นี่คือ “หัวใจ” ของ Hook Model ที่ทำให้ผู้ใช้ อยากกลับมาอีกครั้ง เพราะรางวัลไม่คงที่และสร้างความตื่นเต้น เช่น สุ่มเนื้อหาใหม่ (TikTok Feed), แจ้งเตือนยอดไลก์ที่ไม่เท่ากัน หรือกล่องสุ่มในเกม
ทำไมถึงได้ผล? สมองจะหลั่ง Dopamine เมื่อคาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้ ทำให้เกิดความอยากมากกว่ารางวัลที่คาดเดาได้

  1. Investment (การลงทุนของผู้ใช้)

เมื่อผู้ใช้เริ่ม “ลงทุน” ไม่ว่าจะเป็น เวลา ข้อมูล หรือเงิน จะยิ่งผูกพันกับแบรนด์ เช่น บันทึก Playlist ใน Spotify, อัปโหลดภาพใน Instagram หรือใส่ข้อมูลบัตรเครดิตในแอป
ผลลัพธ์: การลงทุนทำให้โอกาสกลับมาใช้สูงขึ้น เพราะ “ยิ่งลงทุนมาก ยิ่งไม่อยากเสียไป” 

shutterstock_2152917979

การประยุกต์ใช้ Hook Model ใน SaaS และแอปพลิเคชัน

ธุรกิจ SaaS และ Mobile App สามารถใช้ Hook Model เพื่อเพิ่ม Engagement และ Retention ได้ เช่น

CRM SaaS (เช่น HubSpot)
Trigger: ส่ง Email แจ้งเตือน Lead ใหม่
Action: คลิกเข้า Dashboard ที่ออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน
Variable Reward: แสดง Insights แบบ Real-time ที่เปลี่ยนแปลงตลอด
Investment: ให้ผู้ใช้บันทึก Workflow Automation ที่สร้างเอง ทำให้ย้ายไปใช้คู่แข่งยาก

New call-to-action

E-commerce App
Trigger: แจ้งเตือน Flash Sale
Action: กดเข้าหน้าสินค้าใน 1 คลิก
Variable Reward: โปรโมชั่นที่เปลี่ยนทุกครั้ง
Investment: เพิ่มสินค้าใน Wishlist

กรณีศึกษา: จากข้อมูลในเอกสาร HubSpot Customer Platform ของ Ourgreenfish ระบุว่า การใช้ Automation + Personalized Engagement ช่วยเพิ่ม Engagement ได้ถึง 33% และ Email Click-through Rate สูงขึ้น 70% ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับหลักการของ Hook Model ในการทำให้ผู้ใช้กลับมาเองโดยไม่ต้องรอการตลาดแบบ Push

สรุปสำหรับเจ้าของธุรกิจ

- Hook Model ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็น กลไกจิตวิทยา + UX Design + Marketing Strategy ที่ทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตลูกค้า
- สำหรับธุรกิจ SaaS หรือ Mobile App การนำ 4 ขั้นตอนของ Hook Model มาใช้ จะช่วยลด CAC (Customer Acquisition Cost) และเพิ่ม CLV ได้มหาศาล
เริ่มวันนี้ : วิเคราะห์ Product Journey ของคุณ → กำหนด Trigger → ทำ Action ให้ง่ายที่สุด → เพิ่มความตื่นเต้นด้วย Variable Reward → ทำให้ลูกค้าลงทุนในแพลตฟอร์ม

อ้างอิง : Business Explained. (2023). Marketing Frameworks Explained. Retrieved from https://business-explained.com/shop/marketing-frameworks-explained/

อ่านบทความเพิ่มเติม :
8 แนวทางหลักใน การทำ Digital Marketing พร้อมวิธีการใช้งาน

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast