เมื่องานด้านการตลาดทางธุรกิจของคุณมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Lead หรือผู้มีโอกาสมาเป็นลูกค้าใหม่ ๆ, การเพิ่มอัตรา Conversion, การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า, การรักษาฐานลูกค้าเดิม ไปจนถึงการสร้างการได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งการบริหารจัดการงานต่าง ๆ เหล่านี้จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อมีระบบ Marketing Automation เข้ามาช่วย
ระบบ Marketing Automation หรือการตลาดอัตโนมัติ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักการตลาด และธุรกิจในปัจจุบันให้ความสำคัญ และมีการเริ่มใช้งานกันอย่างมากมาย จากข้อมูลของ emailmonday พบว่า 51% ของบริษัทต่าง ๆ กำลังวางแผนเพื่อใช้ระบบ Marketing Automation มากขึ้น ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่า ระบบ Marketing Automation คืออะไรและมีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร เมื่อคุณนำมาใช้งานได้อย่างถูกต้อง
Marketing Automation คืออะไร?
ระบบ Marketing Automation หรือการตลาดอัตโนมัติ คือ กระบวนการตัดสินใจทางการตลาดแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้คนในการทำงาน เมื่อโลกของการตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้น การทำงานซ้ำ ๆ ได้ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Marketing Automation ที่มีคุณภาพนั้น นับเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
ดังนั้น เครื่องมือ Marketing Automation จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น ด้วยการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า, ติดตาม Lead ของคุณ และทำให้ Workflow การตลาดของคุณคล่องตัวขึ้น และเครื่องมือเหล่านี้ ก็ยังมีประโยชน์สำหรับการตลาดออนไลน์บน Social Media ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ
ยกตัวอย่างการทำงานของระบบ Marketing Automation เช่น การทำการตลาดผ่านทาง E-mail, การทำโพสต์บน Social Media, การทำ Ad Campaign ฯลฯ
ประโยชน์ของระบบ Marketing Automation
เมื่อธุรกิจของคุณเติบโต และมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้าชม (Visitor) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ก็อาจจะทำให้การติดตาม Lead นั้น เป็นเรื่องยาก ซึ่งการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า และการตอบสนองความต้องการของพวกเขา ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จของธุรกิจของคุณ
โดยการตลาดแบบอัตโนมัติ สามารถช่วยคุณในการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า และลดภาระของทรัพยากรของคุณ ทั้งเวลา และงบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับธุรกิจ
ประโยชน์ของระบบ Marketing Automation มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
เครื่องมือ Marketing Automation นั้นมีตัวเลือกมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญ คือ คุณต้องรู้เป้าหมายหลัก และกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาก่อนจะเลือกใช้ อย่างเช่น ต้นทุน, ทรัพยากร และการใช้งานซอฟต์แวร์
วิธีการใช้ประโยชน์สูงสุดจากระบบ Marketing Automation
ระบบ Marketing Automation เป็นการผสมผสานระหว่างซอฟต์แวร์, กลยุทธ์ และการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งช่วยให้คุณได้ทำการฟูมฟัก (Nurture) ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าด้วยคอนเทนต์ที่เป็นแบบ Personalization และเป็นประโยชน์เพื่อเปลี่ยนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้เป็นลูกค้าที่มีความพึงพอใจ และเปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็นผู้สนับสนุนที่มีความภักดี
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากระบบ Marketing Automation ธุรกิจต่าง ๆ ควรผสานระบบอัตโนมัติให้ครอบคลุมทั้งธุรกิจ เพื่อทำลายระบบแบบ Silo และรวมทีมด้วยกระบวนการที่ช่วยประหยัดเวลาไปพร้อม ๆ กัน
ให้คุณเริ่มต้นด้วยการโฟกัสไปที่ Customer Journey มากกว่าความต้องการของธุรกิจ โดยให้ระบุจุด Touchpoint ที่เป็นไปได้ที่จะได้รับประโยชน์จากระบบ Marketing Automation และสร้างกระบวนการที่ช่วยให้ลูกค้าไปยังแต่ละจุด Touchpoint ได้อย่างง่ายดาย
กลยุทธ์ Marketing Automation ที่ดี จะช่วยให้ทีมของคุณเชื่อมกัน โดยจัดลำดับความสำคัญของงาน และจัดการให้เป็นเรื่องง่าย โดยทีมการตลาดจะเป็นเจ้าของข้อมูลของ Contact ได้ จนกว่า Lead จะมีความพร้อมที่ไปต่อยังทีมขาย ซึ่งตรงจุดนี้ ระบบอัตโนมัติจะกำหนด และแจ้งให้ตัวแทนทีมขายทราบ เมื่อลูกค้าทำการซื้อ ทีมดูแลลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนและสามารถดูการสนทนา และการดำเนินการที่ผ่านมาทั้งหมดของลูกค้าในระหว่างทางไปสู่การขายได้ ไม่เพียงแต่เป็น กระบวนการที่ราบรื่น และมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างลูกค้า และธุรกิจได้อีกด้วย
ระบบ Marketing Automation ส่งผลต่อลูกค้าของคุณอย่างไร?
ระบบ Marketing Automation จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าของคุณ ด้วยการแก้ไขจุดบกพร่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในรูปแบบ Omni-channel โดยลูกค้าของคุณนั้น มีข้อมูลมากมาย ซึ่งทำให้ยากต่อการหาคำตอบ เมื่อพวกเขาติดต่อบริษัทของคุณได้สำเร็จ พวกเขามักจะมีประสบการณ์ที่ไม่ปะติดปะต่อ เมื่อพวกเขาถูกโอนย้ายจากทีมหนึ่งไปยังอีกทีมหนึ่ง หรือข้ามช่องทาง และระหว่างแพลตฟอร์ม ซึ่งระบบ Marketing Automation สามารถลดความขัดแย้งนี้ได้ โดยการเชื่อมต่อระหว่างทีม เพื่อรวบรวมข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน และจัดลำดับความสำคัญของงานเบื้องหลังต่าง ๆ ได้
ระบบ Marketing Automation ทำให้คุณสามารถเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าแต่ละคนจะมองเห็นได้ ตั้งแต่การทำโฆษณาไปจนถึงการทำการตลาดผ่าน E-mail ให้คุณใช้ Buyer Persona ของคุณควบคู่ไปกับการกำหนดเป้าหมายตามพฤติกรรม เพื่อส่งข้อมูลเฉพาะสำหรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า หรือลูกค้าต้องการเท่านั้น ระบบอัตโนมัติจะช่วยใช้ข้อมูลที่คุณรวบรวมไว้แล้ว เพื่อส่งคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องและตอบโจทย์มากที่สุดในเวลาที่เหมาะสม
ระบบ Marketing Automation ช่วยให้ธุรกิจจัดลำดับความสำคัญของงาน และจัดการกับ Lead ได้ เมื่อมีคำถามเข้ามาลูกค้าจะได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เมื่อมีข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าที่จัดเก็บอยู่ในระบบ CRM ทำให้พนักงานที่ต้องสื่อสารกับลูกค้ามีความพร้อม โดยไม่จำเป็นต้องหาข้อมูลไว้ก่อน เพียงทำความเข้าใจในประวัติของลูกค้า ก็สามารถตอบกลับโดยอัตโนมัติตามการซื้อครั้งก่อน
ไม่มีใครชอบทำอะไรซ้ำ ๆ และนั่นคือเหตุผลที่ระบบ Marketing Automation นั้นเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ โดยข้อมูลจะถูกรวบรวม, จัดเก็บ และใช้งานในซอฟต์แวร์การตลาดของคุณ เพื่อให้คุณสามารถมอบประสบการณ์แบบรู้ใจด้วยการทำ Personalization Marketing ให้กับลูกค้าของคุณได้ อย่างแบบฟอร์มที่ให้กรอกไว้ล่วงหน้า, E-mail ที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา และด้วยระบบอัตโนมัตินี้ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์เดียวกัน ไม่ว่าจะติดต่อคุณผ่านช่องทางใด
จากที่พูดถึงมานั้น คุณจะเห็นได้ว่าระบบ Marketing Automation นั้น มีประโยชน์กับธุรกิจมากทีเดียว เพราะฉะนั้น ลองมาดูเครื่องมือ Marketing Automation ที่น่าสนใจ ให้ทีมการตลาด และทีมขายของคุณ สามารถเลือกใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของการทำงานได้กันดีกว่า
เครื่องมือการทำ Marketing Automation สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
1. Marketo
ดำเนินการ และบริหารจัดการแคมเปญการตลาดของคุณโดยอัตโนมัติ
Marketo เป็น 1 ในโซลูชันของ Marketing Automation ที่ดีที่สุดในตลาด โดยเครื่องมือนี้ ช่วยให้คุณสร้างแคมเปญการตลาดแบบมุ่งจุดสนใจ (Focused Marketing Campaign) ด้วยการสังเกต และการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า โดยคุณยังสามารถใช้ Marketo เพื่อทดสอบกลยุทธ์การตลาดเวอร์ชันต่าง ๆ ได้ ด้วยการทำ Split Testing หรือ A/B Testing
โดย Marketo ให้ความสำคัญกับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านทาง E-mail มากขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ในระหว่างการทำ Lead scoring และทำ Lead nurturing เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้า นอกจากนี้ คุณจะได้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด และโฆษณาของคุณ
ราคา : สำหรับรายละเอียดของราคา ให้ติดต่อสอบถามกับทางทีมขายได้เลย
2. Drip
บริหารจัดการ Contact และการสั่งซื้อได้อย่างง่ายดาย
Drip เป็นเครื่องมือ Marketing Automation ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยแบรนด์ E-Commerce จะได้รับประโยชน์เป็นพิเศษจากข้อเสนอของ Drip ซึ่งมีฟีเจอร์ Marketing Automation ที่ไม่เหมือนใคร
โดย Drip จะช่วยให้คุณสร้างแคมเปญการตลาดหลากหลายช่องทางจากแพลตฟอร์มเดียวได้ ซึ่งคุณสามารถใช้เครื่องมือ Marketing Automation นี้ เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ และบริการของคุณผ่านทาง E-mail, SMS, Social Media และ Interactive content บนเว็บไซต์ของคุณ
จุดแข็งอีกอย่างของเครื่องมือ Marketing Automation นี้ คือ สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มอย่าง Shopify และช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าได้สูงสุด
ราคา : จำกัดการใช้งานฟรีเฉพาะบางฟีเจอร์ และสำหรับแผน Premium เริ่มต้นที่ 19 USD ต่อเดือน
3. HubSpot
สร้าง Lead ใหม่ และบริหารจัดการ Lead ที่มีอยู่
HubSpot เป็นเครื่องมือที่ดีที่รวมฟังก์ชันของการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และการตลาดแบบ Inbound Marketing เพื่อมอบโซลูชัน Marketing ที่มีประสิทธิภาพ
โดย HubSpot สามารถทำงานในลักษณะที่เป็นงานซ้ำซ้อน ให้ทำงานโดยอัตโนมัติได้ และพัฒนาการให้บริการลูกค้า ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Live Chat
ด้วยฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ HubSpot ก้าวไปไกลกว่าขอบเขตของซอฟต์แวร์ CRM ทั่วไป และช่วยคุณในการสร้างแคมเปญที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งทำให้สามารถสร้าง Lead ได้มากขึ้น
โดยหนึ่งในแง่มุมที่ดีที่สุดของ HubSpot คือ ใช้งานง่าย โดยคุณสามารถควบคุมแบบฟอร์ม, แคมเปญ E-mail และการตลาด Social Media ทั้งหมดได้จาก Dashboard เดียว และใช้ Template ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ LINE OA และ SMS ได้อีกด้วย หากคุณสนใจติดต่อ Ourgreenfish ได้เลย
นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดตามตัวชี้วัด และกระบวนการทางการตลาดแบบ Real-time และเพิ่มประสิทธิภาพได้ตามความเหมาะสม
ราคา : จำกัดการใช้งานฟรีเฉพาะบางฟีเจอร์ และสำหรับแผน Premium เริ่มต้นที่ 45 USD ต่อเดือน
4. Pardot
ทำการตลาด และบริหารจัดการการขายของคุณโดยอัตโนมัติ
Pardot เป็นเครื่องมือ Marketing Automation ของ B2B ที่มีประสิทธิภาพ โดยซอฟต์แวร์นี้ เป็นของ Salesforce ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่กำลังวางแผนสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และขยายฐานลูกค้าเป็นหลัก
โดย Pardot จะช่วยคุณในการสร้างแคมเปญการตลาดทาง E-mail, สร้าง Pipeline ที่มีประสิทธิภาพ และได้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับ ROI ของคุณ และ หนึ่งในฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของ Pardot คือ การวิเคราะห์คุณภาพ และการรายงานโดยการใช้ AI
ราคาของ Pardot อาจจะสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แต่หากคุณมีทรัพยากรที่พอที่จะใช้เครื่องมือนี้ได้ คุณก็สามารถยกระดับการตลาด B2B ของคุณไปอีกขั้นด้วย Pardot ได้
ราคา : สำหรับแผน Premium เริ่มต้นที่ 1,250 USD ต่อเดือน
5. AgileCRM
ติดตาม, บริหารจัดการ และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
AgileCRM เป็นหนึ่งในโซลูชันของ Marketing Automation ที่ครอบคลุมที่สุด โดยเครื่องมือนี้จะช่วยคุณในการบริหารจัดการความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว และกลุ่มที่กำลังจะมาเป็นลูกค้าได้ (อย่างเช่น CRM) และ เพิ่มมูลค่าให้กับการสนับสนุนลูกค้าของคุณ
โดย AgileCRM ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านที่สำคัญของการตลาดดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการทำการตลาดผ่านทาง E-mail, การมีส่วนร่วมบน Website, การทำการตลาดผ่าน Social Media และการตลาดบนมือถือ โดยเครื่องมือ Marketing Automation นี้ ยังช่วยให้คุณสามารถติดตาม E-mail ของคุณ และประเมินประสิทธิภาพได้
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ AgileCRM ก็คือ ราคาต่ำ ซึ่งธุรกิจขนาดเล็กไม่ต้องลงทุนเงินจำนวนมาก เพื่อให้ได้โซลูชันการตลาดแบบครบวงจร
ราคา : จำกัดการใช้งานฟรีเฉพาะบางฟีเจอร์ และสำหรับแผน Premium เริ่มต้นที่ 15 USD ต่อเดือน
6. Mailchimp
สื่อสารกับลูกค้า และ Lead ของคุณ
Mailchimp เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มของ Marketing Automation ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงระบบอัตโนมัติในการทำการตลาดผ่าน E-mail โดยเครื่องมือทางการตลาดนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจ และวิเคราะห์ Customer Journey และสร้างระบบอัตโนมัติตามนั้นได้
โดย Mailchimp ช่วยให้คุณสร้างการทำงานโดยอัตโนมัติตามพฤติกรรม โดยขึ้นอยู่กับวิธีที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับ Website หรือ Application ของคุณ และนั่นก็ถือเป็นฟีเจอร์ที่ดี เนื่องจาก มันจะสร้างประสบการณ์แบบ Personalization สำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ และทำให้กลยุทธ์ทางการตลาดของคุณมีเป้าหมายมากขึ้น
จุดแข็งอีกอย่างของ Mailchimp คือ ความสามารถในการผสมผสานระบบการทำงานต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน โดย Mailchimp สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือ และซอฟต์แวร์อื่น ๆ เช่น Stripe และ Drupal เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจออนไลน์ได้
ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถตั้งค่า Workflow อัตโนมัติ สำหรับ Drip Campaign หรือแคมเปญที่มีส่งคอนเทนต์ที่เตรียมไว้ สำหรับการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และสร้างแคมเปญแบบ A/B Tesing เพื่อดูว่า อะไรดีที่สุดสำหรับลูกค้าของคุณ
ราคา : สำหรับแผน Premium เริ่มต้นที่ 14.99 USD ต่อเดือน
7. Hootsuite
จัดการการตลาดผ่าน Social Media ของคุณ
Hootsuite เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการทำการตลาดผ่าน Social Media เมื่อพูดถึงการเลือกเครื่องมือ Marketing Automation สำหรับธุรกิจขนาดเล็กนั้น จะมีแพลตฟอร์มการตลาดเฉพาะสำหรับ Social Media น้อยมาก
สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การทำการตลาดผ่าน Social Media มีความสำคัญมาก ๆ และนั่นคือเหตุผลที่ Hootsuite เป็นเครื่องมือที่ธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องมี
โดย Hootsuite จะช่วยคุณในการบริหารจัดการแพลตฟอร์ม Social Media ทั้งหมดของคุณได้จาก Dashboard เดียว โดยเครื่องมือ Marketing Automation นี้ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา และความพยายาม ด้วยการตั้งเวลาโพสต์ และสามารถตรวจสอบได้ในตารางปฏิทิน
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ และพบว่ามันยากที่จะรักษาสถานะที่แข็งแกร่งบน Social Media ได้ Hootsuite ก็อาจจะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก
ราคา : สำหรับแผน Pro เริ่มต้นที่ 49 USD ต่อเดือน
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ธุรกิจมีทางเลือกในการเลือกใช้เครื่องมือทำการตลาด Marketing Automation มากขึ้น และมีหลายตัวให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งคุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และหาตัวช่วยที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เพื่อให้การใช้งานนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ
MARKETING AUTOMATION คืออะไร ช่วยอะไรคุณได้บ้างในการทำ DIGITAL MARKETING