ทำไม “การตั้ง KPI ที่ถูกต้อง” คือกุญแจสำคัญของ Market Research?
Market Research ไม่ได้วัดกันที่จำนวนข้อมูลที่เก็บได้ แต่ต้องวัดที่คุณค่าของข้อมูล และผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริงหลังจากนำ Insight ไปใช้ โดยการวิจัยที่ดีต้องมี KPI กำกับ เพื่อให้ทีมรู้ว่า insight ที่ได้ คุ้มค่า, ใช้งานได้จริง และนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้นเพราะท้ายที่สุดแล้ว การวิจัยตลาดที่ขาดตัวชี้วัดก็คือผลงานที่ไม่สามารถประเมินความคุ้มค่าได้ แต่ถ้ามี KPI ที่ดี คุณจะรู้ทันทีว่า
ต่อไปนี้คือ “7 KPI สำคัญที่สุด” ที่เจ้าของธุรกิจต้องใช้ในการวัด Market Research ของตัวเอง
1) Net Promoter Score (NPS) – ตัวชี้วัดคุณค่าที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์
NPS คือ KPI เชิงความพึงพอใจที่ใช้กันทั่วโลก NPS จะบอกว่าลูกค้ายินดีบอกต่อหรือไม่ ซึ่งสะท้อนคุณภาพประสบการณ์และความผูกพันของลูกค้า
ใช้ประเมิน :
2) Response Rate – คนตอบแบบสอบถาม “เยอะพอไหม”
Response Rate คือเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามจากจำนวนที่เชิญทั้งหมด หาก Response Rate ต่ำ ข้อมูลจะไม่สามารถเป็นตัวแทนกลุ่มเป้าหมาย และ Insight จะคลาดเคลื่อน
ใช้ประเมิน :
3) Completion Rate – คนตอบจนจบหรือไม่?
Completion Rate เป็นตัวบ่งชี้สำคัญด้านคุณภาพข้อมูล ถ้าคนออกจากแบบสอบถามกลางคัน อาจหมายความว่าแบบสอบถามยาวเกินไป หรือคำถามไม่ชัดเจน
ใช้ประเมิน :
4) Time to Insight (TTI) – ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าได้ Insight ที่ใช้ได้จริง
TTI เป็น “ตัววัดความเร็วในการเปลี่ยนข้อมูลเป็น Insight” ยิ่ง TTI สั้น ธุรกิจยิ่งปรับกลยุทธ์ได้เร็วขึ้น
ปัจจัยที่กระทบ TTI ได้แก่
ใช้ประเมิน :
5) Cost per Insight (CPI) – ได้ Insight หนึ่งชิ้นต้องจ่ายเท่าไร?
CPI เป็น “ต้นทุนทั้งหมด ÷ จำนวน Insight ที่นำไปใช้ได้จริง”
ต้นทุนรวม เช่น
ใช้ประเมิน :
6) Sample Quality – คุณภาพของกลุ่มตัวอย่าง
“คุณภาพข้อมูลส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ Insight” และ Response หรือ Completion Rate คือกุญแจของความน่าเชื่อถือ
การวัด Sample Quality ต้องพิจารณา
ใช้ประเมิน :
7) RORI (Return on Research Investment) – งานวิจัยคืนทุนแค่ไหน?
RORI = (Net Benefits ÷ Cost of Research) x 100%
Net Benefits อาจเป็น
ใช้ประเมิน :
1) วัดคุณภาพข้อมูล
ใช้ Response Rate, Completion Rate, Sample Quality → ยิ่งคุณภาพข้อมูลดี Insight ยิ่งแม่นยำ
2) วัดประสิทธิภาพของกระบวนการ
ใช้ TTI และ CPI → ยิ่งเร็วและประหยัด ยิ่งทำให้ทีมวางแผนได้ทันตลาด
3) วัดผลลัพธ์ต่อธุรกิจ
ใช้ NPS และ RORI → บอกได้ว่างานวิจัย “แก้ปัญหาจริง” หรือไม่
หลายองค์กรระดับโลก เช่น Netflix และ Tesla ใช้ KPI วัดงานวิจัยอย่างจริงจัง เช่น
Netflix
Tesla
Market Research ที่ดี ไม่ใช่เก็บข้อมูลเยอะ แต่ “ต้องวัดผลได้” ถ้าคุณตั้ง KPI ชัดเจนตั้งแต่ต้น คุณจะรู้ทันทีว่า
✔ ข้อมูลคุณภาพดีไหม
✔ Insight ใช้ได้จริงหรือไม่
✔ คุ้มค่ากับงบที่ลงไปหรือเปล่า
✔ งานวิจัยช่วยให้ธุรกิจเติบโตจริงหรือไม่
นี่คือความแตกต่างระหว่างทำวิจัยพอเป็นพิธี และ “ทำวิจัยที่สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจริง”
อ้างอิง : Business Explained. (2024). Market Research Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com
อ่านบทความเพิ่มเติม : 100 METRICS ทางการตลาดและการบริหารลูกค้า สำหรับ TECH STARTUP BUSINESS
คำศัพท์คำที่ 1-50 | 51-100 | 101-150 | 151-200 | 201-250 | 251-300