<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

Cold Call หรือ Cold Email? เลือกให้แม่นยำตาม พฤติกรรมผู้บริโภค 2025

Audio Version
Cold Call หรือ Cold Email? เลือกให้แม่นยำตาม พฤติกรรมผู้บริโภค 2025
7:31

ในปี 2025 นี้ บริบทของการติดต่อ prospect ได้เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง โดยพฤติกรรมผู้บริโภค 2025 เริ่มเน้นการตอบสนองแบบทันทีทันใด (real-time interaction) มากกว่าก่อน แม้ว่า inbox จะเต็มจนแทบไม่เห็นอีเมล แต่สายเรียกเข้า (cold call) ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม อาจได้รับการตอบกลับมากกว่า

สิ่งสำคัญคือต้องใช้แนวคิดว่า “เลือกช่องทางที่ prospect ตอบสนองได้ดีที่สุด ไม่ใช่ตามความรู้สึกของเรา”

Cold Call หรือ Cold Email: เลือกตามพฤติกรรมผู้บริโภค 2025 

HubSpot ชี้ว่า Cold Call สร้างความเชื่อมโยงส่วนบุคคลได้ดีกว่า ส่วน Cold Email สะดวกและทำได้ในปริมาณมากในเวลาเดียวกัน

ในปี 2025 ควรใช้ AI และข้อมูล Engagement เพื่อวัดว่าช่องทางใดที่ prospects ตอบสนองได้ดีที่สุด

  • ตัวอย่างจาก SalesHive: เมื่อ prospect เปิดอีเมลหลายครั้งแต่ยังไม่ตอบ ทีมจะใช้ AI เพื่อกระตุ้นให้โทรกลับทันที
  • แนวคิดที่สำคัญคือ “context beats dogma” ซึ่งหมายความว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการตายตัวว่า Cold Call หรือ Email ดีกว่ากัน แต่ขึ้นอยู่กับความเฉพาะเจาะจงของลูกค้าเป้าหมายแต่ละรายเป็นสำคัญ

ข้อดีของ Cold Call ในยุค Inbox Overflow 

เนื่องจากกล่องอีเมลของผู้ใช้งานเต็มอยู่เสมอ อีเมลใหม่จึงมีโอกาสสูงที่จะถูกมองข้าม HubSpot แนะนำว่า หากส่งอีเมลไปแล้วไม่ได้รับการตอบกลับ ควร "โทรหาผู้ส่ง" โดยการโทรจะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่คุณมีต่อเรื่องนั้น และลดโอกาสที่ข้อความจะตกหล่น

นอกจากนี้ การโทรแบบ Cold Call เป็นการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนข้อความได้ทันทีตามสถานการณ์ ซึ่งแตกต่างจากอีเมลที่ไม่มีความยืดหยุ่นด้านเวลา

ในปี 2025 การใช้ระบบ CRM และเครื่องมือติดตามอีเมล เช่น HubSpot Sales Email Tracking ซึ่งแจ้งสถานะการเปิดหรือคลิกอีเมล จะช่วยให้ทีมสามารถตัดสินใจเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโทรติดตามได้

shutterstock_2201277411

Data-Driven Timing: วัด Engagement แล้วตั้ง Trigger Outreach 

Cold Call

จากรายงานของ Revenue.io (เมษายน 2025) ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโทร Cold Call คือ 8.00–11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสนทนาสูงขึ้นประมาณ 15%

นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังระบุว่าช่วงเวลา 16.00–17.00 น. เป็นอีกช่วงเวลาที่สามารถเชื่อมต่อได้ดี เนื่องจากผู้มีอำนาจตัดสินใจอาจว่างจากการประชุมและมีแนวโน้มที่จะรับสายมากขึ้น 

อีกทั้ง ยังมีข้อมูลชุดเก่าเมื่อปี 2019 ชี้ให้เห็นว่าช่วงเช้า (ประมาณ 9.00 น.) เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด

CTA : Call Center

Cold Email

การติดต่อภายใน 20 นาทีหลังจาก prospect แสดง Intent เช่น กรอกฟอร์มหรือคลิกหน้าเว็บ มักมีอัตราตอบกลับสูงที่สุด

AI-Based Timing

ปัจจุบันเราใช้ AI analytic tools ในการดูพฤติกรรมการเปิดอีเมล และตั้งค่าให้ Outreach ถูก Trigger ทันที เช่น หาก prospect เปิดอีเมลหลายครั้ง เครื่องมืออาจเลือกโทรในเวลาที่เหมาะสมตามพฤติกรรมล่าสุด


นำ HubSpot Tools มาปรับใช้: Sequences, Email Tracking และ Calling Integration 

  • Sequences: วางแผนการเข้าถึงลูกค้าแบบปรับเปลี่ยนได้ตามพฤติกรรมจริง เช่น หากส่งอีเมลไปแล้วลูกค้าเปิด 3 ครั้งแต่ไม่ตอบ ระบบสามารถตั้งค่าให้ตามด้วยการโทรในเวลาที่วิเคราะห์แล้วว่ามีโอกาสได้รับการตอบรับสูงสุด
  • Sales Email Tracking: ช่วยให้ทราบว่าลูกค้าเปิดและคลิกอีเมลเมื่อใด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการตั้งค่าทริกเกอร์ให้โทรหาได้ทันที หรือใช้ปรับเนื้อหาการนำเสนอให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
  • Calling Integration: เมื่อใช้ HubSpot CRM ร่วมกับ Calling integration จะสามารถโทรออกใน "Call Block" ที่กำหนดตามช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ช่วงเช้า หรือช่วงบ่ายแก่ๆ

แนวทางเหล่านี้ทำให้เห็นว่าการตัดสินใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา แต่ใช้พฤติกรรมจริงของลูกค้าเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์การเข้าถึง

ภาพรวมสรุป และข้อแนะนำสำหรับเจ้าของธุรกิจ

สรุป ไม่มีคำตอบว่า Cold Call หรือ Cold Email ดีกว่ากัน สิ่งที่สำคัญคือ เลือกช่องทางที่ prospect ตอบสนองได้ดีที่สุด โดยอิงจากข้อมูลจริง

ช่องทาง

จุดเด่น

วิธีใช้งาน 2025 ที่ชาญฉลาด

Cold Email

สร้างได้จำนวนมาก วิเคราะห์ Engagement ได้

ส่งในช่วงพีคจาก CRM, Trigger Call ตามพฤติกรรม

Cold Call

Connection ทันที มีปฏิสัมพันธ์จริง

โทรในช่วงเช้า (8 –11 น.) หรือบ่ายแก่ ๆ (16 –17 น.)

คำแนะนำสำหรับเจ้าของธุรกิจ

  1. เคลื่อนทีมขายสู่ Data-Driven Outreach: อย่าใช้ “ความรู้สึก” แต่ใช้ data จริงจาก email opens และ CRM
  2. ตั้ง Sequences ที่ปรับ “ถ้า–แล้ว” เช่น ถ้าอีเมลถูกเปิดหลายครั้งแต่ไม่ตอบ ให้ Call ในเวลาที่เหมาะ
  3. ใช้ Timing Blocks เช่น ช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ ๆ สำหรับ Cold Call ในรูปแบบ Calling Integration
  4. วัดผล และปรับปรุงเป็นรอบ ๆ: เก็บข้อมูล call connection rate, email reply rate และปรับช่วงเวลาให้เหมาะเฉพาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

CTA : AI SALE HUB

อ้างอิง :

อ่านบทความเพิ่มเติม : รู้จักพฤติกรรมผู้บริโภค มัดใจลูกค้าของคุณอย่างมีกลยุทธ์

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast