<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

Self-Service ที่ลูกค้ารัก : ปิดเคสจาก KB ด้วย Breeze Customer Agent

Audio Version
Self-Service ที่ลูกค้ารัก : ปิดเคสจาก KB ด้วย Breeze Customer Agent
11:29
พลิกโฉมงานบริการสู่การเติบโตด้วย Breeze Customer Agent
ในยุคที่ Generative AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญทางธุรกิจ "ความไว้วางใจ" ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าสูงสุด การสร้างความไว้วางใจนี้ไม่ได้เกิดจากการมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด แต่เกิดจากการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง ตรวจสอบได้ และการผสานรวมความเชี่ยวชาญของมนุษย์เข้ากับระบบอย่างชาญฉลาด Breeze Customer Agent ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างรากฐานของความไว้วางใจนี้ผ่านสองเสาหลักที่สำคัญ

หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของ Generative AI คือความเสี่ยงที่จะเกิด "Hallucination" หรือการสร้างข้อมูลที่ดูเหมือนจะถูกต้องแต่กลับไม่เป็นความจริง สำหรับธุรกิจแล้ว นี่ไม่ใช่แค่ข้อบกพร่องทางเทคนิค แต่เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Breeze Customer Agent แก้ปัญหานี้ที่ต้นเหตุโดยการทำงานแบบ Grounded AI กล่าวคือ แทนที่จะดึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ระบบจะถูกจำกัดขอบเขตให้อยู่ในชุดเนื้อหาที่ได้รับอนุมัติแล้วเท่านั้น เช่น คลังความรู้ (Knowledge Base) ของบริษัท ข้อมูลจากระบบ CRM และเอกสารอื่น ๆ ที่อัปโหลดเข้าไป กลไกสำคัญที่ทำให้หลักการนี้จับต้องได้คือฟีเจอร์ "Cited Answers" ซึ่ง AI จะไม่เพียงแค่ให้คำตอบ แต่ยังแสดงที่มาของข้อมูลโดยการแนบลิงก์หรือการอ้างอิงไปยังเอกสารต้นฉบับโดยตรง สิ่งนี้เปลี่ยน AI จาก "กล่องดำ" ที่ลึกลับให้กลายเป็นแหล่งข้อมูลที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อย่างมหาศาล  

ในขณะเดียวกัน ระบบที่แข็งแกร่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกปัญหาที่ AI จะแก้ไขได้ดีที่สุด เป้าหมายไม่ใช่การทำงานอัตโนมัติ 100% แต่คือการแก้ไขปัญหาได้ 100% ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด Breeze Customer Agent จึงมีระบบการส่งต่อเคสอย่างชาญฉลาด (Intelligent Escalation) ที่ออกแบบมาเพื่อนำมนุษย์เข้ามาในเวลาที่เหมาะสมที่สุด โดยมีกลไกการส่งต่อ 3 รูปแบบหลัก  

  1. สัญญาณจากลูกค้า (เช่น การพิมพ์ว่า "ต้องการคุยกับพนักงาน" หรือแสดงความหงุดหงิด) 
  2. สถานการณ์ที่เกิดขอบเขต AI (เมื่อคำถามอยู่นอกขอบเขตความรู้หรือติดอยู่ในวงจรการสนทนา) 
  3. กฎเกณฑ์ทางธุรกิจ (การส่งต่อเคสที่มีมูลค่าสูงหรือมีความเสี่ยงสูงโดยอัตโนมัติ เช่น คำถามเกี่ยวกับการยกเลิกบริการหรือปัญหาด้านความปลอดภัย) 

หัวใจสำคัญคือ "Warm Handoff" ซึ่ง AI จะรวบรวมประวัติการสนทนาและข้อมูลลูกค้าทั้งหมดส่งให้พนักงานก่อนเข้าร่วมแชท ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเล่าเรื่องซ้ำซ้อนและได้รับบริการที่ต่อเนื่องไร้รอยต่อ  

My CTA (15 July 2024 9:59)

ปลุกพลังคลังความรู้สู่กลไกการแก้ไขปัญหาที่วัดผลได้

ในหลายองค์กร Knowledge Base (KB) มีอยู่แล้ว แต่ประสิทธิภาพในการใช้งานมักต่ำ ทั้งเนื้อหาไม่ครบ, คำค้นหายาก, คำตอบล้าสมัย หรือไม่มีการเชื่อมโยงกับการใช้งานจริงของลูกค้า ความท้าทายอยู่ที่การแปลง KB ให้กลายเป็นเครื่องมือที่ตอบคำถามจริงให้ลูกค้าได้ทันที

Breeze ใช้ AI วิเคราะห์บทสนทนา เช่น เคสที่มนุษย์ช่วยตอบแล้วสำเร็จ เพื่อสร้างร่างบทความ KB ใหม่ หรือปรับปรุงบทความเดิมให้ครอบคลุมคำถามที่พบบ่อย (Knowledge Gaps) โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ธุรกิจสามารถออกแบบเส้นทาง (Routing) คำถามใน KB ให้ตรงกับประเภท เช่น “Reset / How-to / Claim / ข้อสงสัยทั่วไป” เพื่อให้ AI ดึงคำตอบจากหมวดที่เหมาะสม

ดังนั้น คลังความรู้ (Knowledge Base) แบบดั้งเดิมเปรียบเสมือนห้องสมุดที่รอให้คนมาค้นหา แต่ Breeze Customer Agent เปลี่ยนสินทรัพย์ที่หยุดนิ่งนี้ให้กลายเป็นกลไกการแก้ไขปัญหาเชิงรุก แทนที่จะส่งลิงก์บทความให้ลูกค้าไปค้นหาเอง AI จะอ่าน ทำความเข้าใจ และสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้คำตอบเชิงสนทนาได้โดยตรง การยกระดับประสบการณ์ Self-Service นี้ส่งผลโดยตรงต่อตัวชี้วัดทางธุรกิจที่สำคัญสองประการ  

ตัวชี้วัดแรกคือ อัตราการจัดการเคสเบ็ดเสร็จ (Containment Rate) ซึ่งหมายถึงเปอร์เซ็นต์ของการสนทนาที่ AI Agent สามารถจัดการและแก้ไขปัญหาได้สำเร็จทั้งหมดโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ นี่คือตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในการทำความเข้าใจผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพราะทุกเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นหมายถึงภาระงานของพนักงานมนุษย์ที่ลดลงโดยตรง นำไปสู่การประหยัดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ ทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถทำ Containment Rate ได้ถึง 70-90% ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถขยายขีดความสามารถในการรองรับลูกค้าได้โดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน  

ตัวชี้วัดที่สองคือ เวลาเฉลี่ยในการแก้ไขปัญหา (Time-to-Resolution - TTR) ซึ่งวัดเวลาตั้งแต่ลูกค้าเริ่มติดต่อจนกระทั่งปัญหาของพวกเขาได้รับการแก้ไขเรียบร้อย ในบริบทของ Self-Service ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ค่า TTR สำหรับคำถามที่พบบ่อยมักจะเกิดขึ้นในทันที ซึ่งตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่ต้องการการตอบสนองภายใน 10 นาทีหรือน้อยกว่า ข้อมูลจาก HubSpot แสดงให้เห็นว่าทีมที่ใช้ AI Agent มีอัตราการแก้ไขปัญหาเร็วขึ้นถึง 39% การลด TTR ไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็ว แต่ยังเป็นการลดความพยายามของลูกค้าและแสดงความเคารพต่อเวลาของพวกเขา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความพึงพอใจ (CSAT) และสร้างความภักดีต่อแบรนด์  

Download E-Book  Customer Behavior in B2B Business

สร้างประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ลูกค้าในปัจจุบันคาดหวังการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจตลอด 24 ชั่วโมง Breeze Customer Agent ตอบโจทย์นี้ด้วยการให้บริการอัตโนมัติผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแชท อีเมล หรือโซเชียลมีเดีย แต่สิ่งที่เหนือกว่าคือความสามารถในการเป็น "Brand Ambassador" อย่างแท้จริง ธุรกิจสามารถปรับแต่งบุคลิกของ AI ได้อย่างละเอียด ตั้งแต่การกำหนดเสียงของแบรนด์ (Brand Voice) ไปจนถึงการสร้างโปรไฟล์บุคลิกภาพที่เฉพาะเจาะจง โดยมีตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย เช่น การเลือกน้ำเสียง เช่น เป็นมิตร, เป็นทางการ, สนุกสนาน และการกำหนดแนวทางพฤติกรรมที่ชัดเจน เช่น "ใช้คำย่อได้ แต่ห้ามใช้คำสแลง" หรือ "ใช้อิโมจิที่กำหนดเท่านั้น" เพื่อให้ทุกการสนทนาสะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ 100%  

  • Breeze สามารถสร้างแดชบอร์ดรายงานคำถามที่ถูกถามบ่อย, คำถามที่ AI ตอบไม่ได้, คำถามที่ถูก Escalate บ่อย รวมถึงอัตรา Containment และ Time-to-Resolve

  • จากแดชบอร์ด ทีมซัพพอร์ตสามารถเลือกบทความ KB ที่ควรอัปเดต, ขยาย หรือเพิ่มใหม่

  • กระบวนการอัปเดต KB ควรเป็นวัฏจักรรายสัปดาห์ (Review → Improve → Publish) เพื่อให้เนื้อหาสดใหม่ และทันสมัยเสมอ

-> KB ที่ดีขึ้นทำให้ AI ฉลาดขึ้น -> Containment Rate สูงขึ้นและลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น

สิ่งนี้สร้างวงจรการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Flywheel Effect) โดยเปลี่ยนฝ่ายบริการให้กลายเป็นศูนย์กลางข้อมูลเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ การตลาด และประสบการณ์ลูกค้าโดยรวม  

shutterstock_2502179335

รากฐานที่มั่นคง : ความปลอดภัยและ PDPA by Design

สำหรับเจ้าของธุรกิจในประเทศไทย การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด Customer Agent ถูกสร้างขึ้นบนหลักการ "Privacy by Design" (PbD) ซึ่งเป็นการฝังมาตรการคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัวเข้าไปในการออกแบบระบบตั้งแต่เริ่มต้น แทนที่จะมาเพิ่มเติมในภายหลัง แนวทางเชิงรุกนี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างความไว้วางใจ

Breeze Customer Agent มีแนวทาง PDPA-by-Design ดังนี้

  • กำหนด Guardrails (กรอบข้อจำกัด) ในระบบ AI เพื่อไม่ให้ตอบเกินขอบเขตที่ธุรกิจกำหนด

  • ใช้โมเดล Human-in-the-Loop กล่าวคือ AI ตอบคำถามทั่วไป แต่ในเคสเสี่ยงหรือซับซ้อน คำตอบจะถูกส่งให้มนุษย์ตรวจทานก่อน

  • ระบบยังสามารถบันทึกแหล่งที่มาของข้อมูล (cited source) เพื่อความโปร่งใส

  • ธุรกิจสามารถกำหนดนโยบาย PII ว่าข้อมูลใดที่ AI สามารถเปิดเผยได้และข้อมูลใดที่ห้าม เช่น เลขบัญชี, รหัสส่วนบุคคล

ด้วยมาตรการเหล่านี้ ธุรกิจสามารถลดความเสี่ยงเรื่องข้อมูลและความเชื่อถือของลูกค้าในระบบ Self-Service ได้อย่างสูง

Breeze Customer Agent ไม่ใช่แค่แชทบอท แต่เป็นแพลตฟอร์มเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสำหรับการสร้างความไว้วางใจของลูกค้าผ่านความแม่นยำที่ตรวจสอบได้, การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยระบบอัตโนมัติที่วัดผลได้, การสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ในวงกว้าง, การค้นพบข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจจากการสนทนาของลูกค้า และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านกฎระเบียบอย่างมั่นคง สำหรับผู้นำธุรกิจสมัยใหม่ นี่คือเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

อ้างอิง :

อ่านบทความเพิ่มเติม : การบริการลูกค้า (Customer Service) หนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ

Contact Sales Add line

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com

 

LINE Connect

OGF Podcast